น้ำท่วม กับ โลกร้อน

อีก 50 ปี น้ำจะท่วมเกาะอังกฤษ

ขอแสดงความรู้สึกเห็นใจกับผู้ที่ต้องรับชตากรรม "น้ำท่วม" ในหลายจังหวัดขณะนี้ เชียงใหม่ 1 ปี น้ำท่วม 3 รอบ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และ น้ำที่ปล่อยจากเขือนกิ่วลมเข้าท่วมลำปาง

ก่อนหน้านี้ มีคนเล่าให้ผมฟังว่า นักวิทยาศาสตร์อังกฤษ บอกนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่แบลร์ ว่า อีก 50 ปี น้ำจะท่วมบางส่วนของเกาะอังกฤษ ซึ่งโทนี่แบลร์ ก็พยักหน้ารับทราบ เพราะน้ำไม่ได้ท่วมเกาะอังกฤษเพียงแห่งเดียวแต่ท่วมทั่วโลกครับ

คนที่อยู่ในวงการคงทราบครับ แต่ผมขอเล่าให้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการได้ทราบบ้าง ว่า ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ปรากฎการณ์เรือนกระจก Green House Effect" ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเผาไหม้พวกไฮโดรคาร์บอน (มีธาตุคาร์บอน หรือ C เป็นองค์ประกอบ) ได้ก่อให้เกิดชั้นในบรรยากาศ ซึ่งเปรียบเหมือนกระจก คอยกั้นไม่ให้ความร้อนจากการแผ่รังสีความร้อนของดวงอาทิตย์ สะท้อนกลับออกจากโลกได้ง่าย ๆ ผลก็คือทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีของผิวโลกร้อนขึ้น เมื่อเป็นดังนี้ ภูเขาน้ำแข็งรวมทั้งธารน้ำแข็งที่มีอยู่ทั่วโลกเริ่มละลาย ทำให้น้ำในทะเลและมหาสมุทรเพิ่มขึ้น (ให้คิดง่ายๆ ว่าน้ำแข็งเบากว่าน้ำ ตอนเป็นน้ำแข็งบางส่วนลอยอยู่เหนือน้ำ) คิดง่าย ๆ ว่าธารน้ำแข็งซึ่งอยู่บนภูเขาต่าง ๆ หลอมละลายตัวมาเพิ่มปริมาตรของน้ำในทะเลและมหาสมุทร ทีนี้เกาะแก่งต่างๆ พื้นที่จะลดลง ที่ร้ายหน่อยก็คือบางประเทศที่เคยเป็นเกาะจะหายไปจากแผนที่โลกเลยละครับ

จากภาวะที่โลกร้อน จะทำให้พายุต่างๆ ในโลกนี้ เช่น เฮอริเคน ไต้ฝุ่น จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นดังที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ ภัยภิบัติต่างๆ จะเกิดกับมนุษย์มากขึ้น ฝนจะตก น้ำจะท่วม และจะมีคนตายปีละนับหมื่น นับแสน จนถึงนับล้าน ทุกปี จากเหตุน้ำท่วม (อุทกภัย) แผ่นดินไหว ลมพายุ (วาตภัย) คลื่นยักษ์สึนามิ

ขอให้ทุกคนจงตั้งอยู่ในความไม่ประมาทนะครับ อะไรที่ยังไม่ได้ทำก็รีบทำเสียนะครับ เวลาทุกคนบนโลกนี้เหลืออยู่ไม่มากแล้วครับ

เขียนใน GotoKnow โดย beeman 吴联乐
ใน 25th Anniversary Beeman

คำสำคัญ (Tags): #nature#ธรรมชาติ

หมายเลขบันทึก: 4858เขียนเมื่อ 3 ตุลาคม 2005 07:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 15:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (44)

หวาน

เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2007 14:37 น. ()

คิดว่าโลกร้อนมนุษย์เป็นคนทำอะไรก็หยุดธรรมชาติไม่ได้แต่คนรุ่นหลังที่ไม่รู้เรื่องจะลำบากแทนแน่ๆ

น้ำ

เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2007 13:37 น. ()

อีกกี่ปีคะที่โลกจะถึงจุดจบแล้วเราสามารถป้องกันเหตุการณ์นั้นไม่ให้มันเกิดชึ้นได้มั้ยต้องทำอย่างไร ทำไมถึงไม่มีองค์กรที่ออกมาให้ความรู้เรื่องนี้กับประชาชนโดยตรงให้พวกเค้าได้รู้ถึงผลลัพธ์ของการทำร้ายธรรมชาติ ให้พวกเค้าได้ตระหนักถึงสิ่งที่พวกเค้ากำลังทำอยู่ ดิฉันเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากจะช่วยรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจัง ขอให้ทุกคนเลิกพฤติกรรมเห็นแก่ตัว แล้วหันกลับมาใช้ชีวิตอย่างพอเพียงโดยไม่ต้องห่วงว่าเมื่อไหร่โลกจะถึงจุดจบ

รัตติการณ์

เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2007 19:32 น. ()

แล้วถ้าต่อไปมนุษย์อยู่ไม่ได้แล้วเราจะไปอยู่กันที่ไหน หรือต้องตายกันทั้งหมด ต่อไปคนมีเงินเท่านั้นหรือเปล่าที่อาจจะอยู่รอด แล้วต่อไปอีก50 ปีขึ้นไป โลกเราจะเหลืออะไร

Ranee

เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2007 19:46 น. ()

โลกร้อนขึ้นส่วนใหญ่เป็นสาเหตุจากน้ำมือมนุษย์ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่นเผาป่า ซึ่งทำให้ชั้นบรรยากาศถูกทำลาย หน้าดินก็เสีย ควันก็มาก อาจลุกลามเหมือนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้ ทำให้อากาศแปรปรวน

เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2007 19:50 น. ()

กราบสวัสดีครับ ท่านอาจารย์บีแมน

ขอบคุณมากนะครับ สำหรับบทความ ผมเองเคยขบคิดกับเรื่องเหล่านี้มาเหมือนกันครับ เรื่องข่าวที่ว่าน้ำจะท่วมโลก ทำให้ผมต้องวิ่งไปหาข้อมูลว่า ตัวน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นโลกมันอยู่บริเวณใดบ้าง แล้วน่าจะมีปริมาณเท่าไหร่ ทั้งขั้วโลกเหนือใต้ และยอดเขาสูงต่างๆ ที่มีในโลกนี้
เอามาเทียบกับพื้นที่ในมหาสมุทรจริงๆ โดยลองละลายดูว่า ปริมาณมันจะเพิ่มขึ้นจริงหรือเปล่า แล้วเพิ่มขึ้นขนาดไหน แล้วน้ำมันจะท่วมห่อหุ้มโลกได้ซักเท่าไหร่ เป็นไปได้หรือที่น้องจะท่วมเกาะต่างๆได้
ข้อสรุปของผม คือ เป็นไปไม่ได้ ที่ระดับน้ำจะละลายแล้วห่อหุ้มโลกได้แล้วท่วมทั่วโลกพร้อมๆ กัน (อันนี้หากผิดพลาดผมยอมรับด้วยตัวเองนะครับ) แค่น้ำสูงขึ้นจากระดับเดิม พร้อมๆ กันทั่วโลก ทุกๆ ที่ เพียงหนึ่งเมตร ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ
แต่
แต่สิ่งที่อาจจะเกิดได้คือ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลกทำให้โลกร้อนขึ้นมีผลทำให้เกิดหายนะภัย พิบัติภัย แล้วหอบกลุ่มน้ำจากมหาสมุทรไปทิ้งในพื้นที่ต่างๆ ตามรูปแบบของพายุ หรือเฮอริเคน สิ่งเหล่านี้ซิครับ น่ากลัวกว่าน้ำท่วมโลกอีกครับ
ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ธรรมชาติ เกิดความไม่สมดุลตรงนี้ อาจจะมีผลได้ อย่างในปีนี้ ที่ไทยเราเจอปัญหาหลายๆ อย่าง ไม่ว่า จะหมอกควันพิษ หรือว่า ระดับการกัดเซาะชายฝั่ง หรือปัญหาสึนามิ สิ่งเหล่านี้จะมีผลทำให้ชีวิตในโลกนี้กระทบ มากกว่าปัญหาน้ำท่วมโลกครับ
ปัญหาการหักหรือแตกของเปลือกโลกในเปลือกโลกชิ้นต่างๆแล้วเกิดการยุบตัว แล้วส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเล แล้วเกิดเคลื่อนไปในทิศทางตามธรรมชาติของคลื่น อันนี้หล่ะครับ จะส่งผลจริงๆ
ส่วนจะเกิดเมื่อไหร่นั้น อยู่ที่เหตุปัจจัยที่พร้อมและเหมาะสม
สิ่งที่ผมมองในส่วนตัวคือ คนในโลกนี้ควรจะหันมาและให้ความสำคัญกันจริงๆ และมีสติอย่างที่อาจารย์ว่านะครับ
แต่ขอให้มีสติในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้ใช้เวลาในการสร้าง กว่าจะมาเป็นน้ำมันที่เกิดการทับถมกันของซากทั้งหลาย ใช้เวลา แต่คนเราสูบ ดูด ขุดเจาะกันอย่างไม่คิดหรือปล่อยให้เกิดความสมดุลเสียเลย
โลกใบนี้ หากเทียบกับระบบใหญ่ทั้งระบบ มีขนาดเล็กมากๆ ครับ อยู่ที่ว่าคนเราจะต่อชีวิตให้โลกใบหรือเปล่าครับ
ขอให้โชคดีกันทุกคนนะครับ

beeman 吴联乐