เรื่องโง่แล้วขยันไม่มีใครเกินชาวนาไทย


ผมจั่วหัวด่าชาวนาไว้ในเบื้องต้นเพื่อให้บทความมันน่าสนใจ แต่จริงๆ แล้ว ผมด่านักวิชาการเศรษฐศาสตร์การเกษตร และนักการเมืองที่เกี่ยวข้องเสียมากกว่า ว่ามันโง่

เรื่องโง่แล้วขยันไม่มีใครเกินชาวนาไทย

 

ชาวนาไทย เก่งกันเหลือเกิน ขยันกันเหลือเกิน จนผลิตข้าวส่งออกได้มากที่สุดในโลก  แต่กลับยากจนกันระนาวจนต้องไปรับจ้างลงคะแนนเลือกตั้ง  และรับจ้างชุมนุม

 

ถ้าฉลาดสักนิดจะรวยมีเงินมากกว่าปัจจุบันนี้ 10 เท่า และเหนื่อยน้อยลงด้วย (ได้หยุดพักผ่อนมากขึ้น มีเวลาอ่านข่าวสารให้หายโง่มากขึ้น)

 

สมมติว่าเราส่งออกข้าว 100 ตัน ตันละ 10,000 บาท เราได้เงิน 1 ล้านบาท ใช่ไหม  แต่ทุกวันนี้ข้าวมันล้นตลาดไป 5%  มันเลยได้ราคาเท่านี้แหละ เพราะไปตัดราคากับเวียตนาม อินเดีย และ ตอนนี้ก็เขมรด้วย  ก็ซับพลายมันเกินดีมานด์ แล้วของพวกนี้มันเน่าเสียได้ เก็บได้ไม่นานเสียด้วย ไม่มีอำนาจต่อรองราคา (ที่กำหนดโดยพวกฝรั่งอีกต่างหาก)

 

แล้วถ้าเรากำหนดให้ชาวนา 10% หยุดผลิต (นอนเล่น หรือไปเดินเที่ยวราชประสงค์เล่น)   ดังนั้นกำลังผลิตจะลดลงมาเหลือแค่ 90 ตันเท่านั้น ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น

 

ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าทำแบบนี้ราคาข้าวจะพุ่งเป็น ตันละ 20,000 ทันที ...เหตุผลคือ ข้าวมันจะขาดตลาดโลก  ...ไม่พอกิน ...พอไม่พอกินมันจะตื่นตระหนก กลัวอดตาย ราคามันจะพุ่งทะยานทันทีเพื่อกักตุนกันตาย

 

รถยนต์ คอมพิวเตอร์ มือถือ ขาดตลาด คนมันไม่ค่อยเดือดร้อนหรอกครับ (ยกเว้นคนโง่บางคนที่มันกินพวกนี้เป็นอาหาร) ราคามันก็จะไม่กระฉูดนักหรอก  แต่ถ้าอาหารพื้นฐานขาดตลาดเมื่อไร (แม้นิดเดียว) โดยหลักจิตวิทยาราคามันจะก้าวกระโดดมากๆ   (มันเป็นเช่นนี้มานาน เรื่องกินมันสำคัญที่สุด ..เสียแต่ว่าคนผลิตของกินมันมักโง่ที่สุดด้วย เลยคิดไม่ออก) 

 

ราคาขายพุ่งจาก  หมื่น เป็นสองหมื่น คุณคิดว่ากำไรเพิ่มสองเท่าละซี่ ...เปล่า ผมว่าน่าจะสิบเท่านะ เพราะปกติกำไรก็ประมาณ 10%  ของราคาขาย ก็คือกำไร 1 พันบาท แต่พอขึ้นเป็น 20,000 ก็คือกำไร  11,000 บาทนั่นเอง ก็เพิ่ม 10 เท่า   แต่เนื่องจากเราลดการปลูกลง 10% ให้ชาวนาบางส่วนพัก หยุดงาน ไม่ต้องทำนา (ไปชุมนุมกันซะให้เข็ด)   เราก็เอากำไรส่วนเกินบางส่วนมาปันให้คนพวกนี้ ...ลองไปทำโจทย์คณิตศาสตร์กันดูนะครับว่า สุดท้ายแล้วจะได้กำไรมากกว่าเดิมกี่เท่า

 

 ผมจั่วหัวด่าชาวนาไว้ในเบื้องต้นเพื่อให้บทความมันน่าสนใจ แต่จริงๆ แล้ว ผมด่านักวิชาการเศรษฐศาสตร์การเกษตร และนักการเมืองที่เกี่ยวข้องเสียมากกว่า ว่ามันโง่

 

โดยเฉพาะนักการเมือง ก็คิดกันไม่พ้นเรื่องประกันราคา และ จำนำ ข้าวกันเสียที เมื่อไหร่คิดกันออกเรื่องดีมานด์  ซัพพลายตื้นๆ (เศรษฐศาสตร์ 101 ...ที่ผมไม่เคยเรียน)  และเรื่องจิตวิทยาการกินของมนุษย์ ที่มันเป็นปัจจัยที่อ่อนไหวมาก

 

อ้อ..อาเซียนเกิดแล้ว อย่าลืมไปสอนเวียต เขมร ลาว ให้รู้จักรวมหัวกันลดอุปทานการผลิตบ้างก็จะดี เป็นการช่วยกันรวย แทนที่จะมาแข่งกันจน แข่งกันผลิต จนล้นตลาดอยู่แบบนี้

 

...คนถางทาง (๑๘ เมษายน ๒๕๕๕)

หมายเลขบันทึก: 485474เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2012 18:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 10:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อันนี้ไม่รู้ว่าโง่หรือฉลาดเกิน แถวบ้านมักชอบแย่งกันทำนาปลัง เราก็ถามพ่อกับแม่ว่า ทำไมเขาทำนาปลังกันเยอะแยะ มันไม่มีน้ำ แม่บอก เคยถามคนที่ทำเขาบอกว่า ก็ถ้าได้ผลก็มีเงินจากการขายข้าวเพิ่ม ถ้าแล้ง รัฐบาลก็ช่วย น้ำท่วมรัฐบาลก็จ่าย เห็นมั๊ยว่าได้ทุกทาง

ช่วงนาปรัง มีน้ำน้อย พอดีอากาศหนาวด้วย ผมเห็นว่าน่าหันมาปลูกอะไรที่ชอบน้ำน้อยและอากาศแห้ง หนาว อาจะเป็นถั่ว หรืออะไรก็ไม่รู้ . ..งานวิจัยไทยด้านนี้ของเรามันอ่อน ไปวิจัยกันแต่นาโนเทคหมดแล้ว

เดี๋ยวนี้เกษตรอำเภอก็ไปตีกอล์ฟกันมากแล้ว ถ้าไม่ตีก็ไม่ได้เป็นใหญ่ เพราะนายใหญ่ตี เนื่องจากนายใหญ่กว่าก็ตี เพราะนายกก็ตี (โดยเฉพาะนายกทักษิณ ออกอาการบ้ากอล์ฟเลยหละ ถ้าอยู่เป็นนายกไปนานๆ ผมว่าท่านคงคิดออกซึ่งนโยบาย เปลี่ยนผืนนามาเป็นสนามกอล์ฟแน่ๆ)

เดี๋ยวนี้ชาวนาจำนวนหนึ่ง เปี๊ยนไป๋ แล้ว คือมีนามีพันธุ์ข้าว มีวิชาทำนาครบ แต่ไม่มียุ้งข้าว เพราะไม่ต้องการเก็บไว้ทยอยขาย ต้องการขายทีเดียวเกือบหมด (เหลือเฉพาะข้าวเชื้อเท่านั้น) เพราะได้เงินเป็นฟ่อนทันที(ถูกกดราคาหรือไม่ผมไม่รู้) ไม่ทราบว่าอย่างนี้ฉลาดมากหรือน้อยเพียงใดครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท