...๑๕ เมษายน มีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรมบวงสรวงพระพุทธสิหิงค์ ในวาระที่อัญเชิญกลับมาประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ..
จริง ๆ แล้วกิจกรรมนี้เป็นหน้าที่ของบัญชีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลุ่มที่ ๕ ซึ่งมีหัวหน้าผมเป็นหนึ่งในนั้น แต่เนื่องจากหัวหน้าไม่มาทำงานสองวันก่อนวันหยุดราชการจึงไม่สามารถรับทราบคำสั่งได้ ผมจึงอาษาไปแทน (ผมไม่ใช่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่นะ ยังเป็นเด็ก ๆ อยู่เลย แต่เห็นว่าเป็นกิจกรรมที่น่าจะไปแทนกันได้ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการ)
นับว่าเป็นบุญที่ได้ไปร่วมกิจกรรมนี้ เนื่องจากไม่รู้เลยว่าการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ไปยังลานคนเมือง และอัญเชิญกลับนั้น จะต้องมีพิธีบวงสรวงทุกครั้ง และการบวงสรวงต้องดำเนินการโดยท่านพราหมณ์ มีเครื่องบูชา เซ่นไหว้อย่างพร้อมเพรียง สำหรับคนที่จะเข้าร่วมพิธี ได้ยืนในศาลาลงสรง และได้มีโอกาสได้เวียนเทียนสมโภชน์ นั้นจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งให้มาร่วมเท่านั้น ผู้คนหรือนักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้ามาร่วมพิธีได้ ทำได้แค่ยืนดูและไหว้พระอยู่รอบ ๆ ศาลาเท่านั้น
หลังจากพิธีพราหมณ์เสร็จ ก็จะมีการร่วมโปรยดอกไม้บนของบูชาพระ และถวายพวงมาลัยแด่พระพุทธสิหิงค์ และปิดท้ายด้วยการต่อคิวให้ท่านพราหมณ์เจิมหน้าผาก รดน้ำจากสังข์ และแบ่งขนม ผลไม้ ของไหว้ต่าง ๆ กลับบ้าน...
นี่ถ้าไม่ อาษา อาสาไปแทนหัวหน้า ก็คงจะไม่ได้เรียนรู้ และพบกับเรื่องราวที่ไม่เคยรู้มาก่อน ไม่มีโอกาสได้เจอกับสิ่งมงคลแน่ ๆ เพราะกว่าผมจะมีโอกาสได้เข้าสู่บัญชีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็คงอีกนาน...
นอกเหนือจากนี้ การไปถึงที่พิพิธภัณฑ์ก่อนเวลา ทำให้สามารถได้เข้าไปดูอะไรต่าง ๆ ที่เป็นความรู้ และเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากด้วย
นี่คือ..
สิ่งที่ได้รับจากการเป็นคนจิตใจดีค่ะคุณ "nobita"
ได้บุญ แถมด้วยความปิติ
ขอบคุณครับ คุณ kunrapee
น้องแบ๊งค์คะ น่าจะ "อาสา" มากกว่า "อาษา"นะคะ
พี่โอ๋คิดว่า คนดีก็จะดึงดูดสิ่งดีๆมาหาตัวค่ะ
ขอบพระคุณครับพี่โอ๋ ครับ แก้ไขแล้วครับ