ครั้งแรกกับปีใหม่ของศรีลังกา
วันสำคัญที่สุดของคนศรีลังกานอกจากวันสำคัญทางศาสนาแล้วก็คือวันปีใหม่ Aluth Avurudu ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ในบ้านเราคือ 13 เมษายน เป็นวันหยุดยาว (12-15 เมย.)ที่คนศรีลังกาจะพากันฉลองทั่วประเทศทั้งสิงหลและทมิฬ ผู้คนทยอยกลับบ้านกันตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนซึ่งถือว่าเป็นวันหยุด 1 วันก่อนวันปีใหม่ ผมออกไปที่ทำงานในเช้าวันที่ 12 เมษายน ก็ต้องแปลกใจเพราะตามถนนหนทางเงียบราวกับเมืองร้าง ร้านค้าและที่ทำการต่างๆ ปิดหมด แทบไม่มีรถสวนมาเลย บ้านเมืองดูเงียบสงบและงามไปอีกแบบ ในช่วงค่ำของวันก่อนหน้านี้ก็แปลกใจไปครั้งหนึ่งแล้วเพราะได้รับตระกร้าผลไม้และตระกร้าขนมจากนายกรัฐมนตรีศรีลังกาและรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่คุ้นเคยกับประเทศไทยดี เป็นธรรมเนียมที่คนศรีลังกาจะแสดงความยินดีในโอกาสวันปีใหม่โดยการส่งของขวัญไปให้คนที่รู้จัก ซึ่งตามประเพณีแล้ว มีขั้นตอนการฉลองแบบดั่งเดิมตามหลักอายุรเวทซึ่งกำหนดไว้เป็นเรื่องๆ ซึ่งผมเห็นว่าน่าสนใจมาก
วันก่อนวันปีใหม่คือ 12 เมษายน จะนิยมอาบน้ำและชโลมน้ำมันสมุนไพรที่เรียกว่า Nanu ส่งท้ายปีเก่า เตรียมทำขนมและอาหารเพื่อเลี้ยงกันในวันปีใหม่
วันปีใหม่ 13 เมษายน จะมีการกำหนดเวลาที่แน่นอน คือในปี 2012 ตั้งแต่เวลา 12.56 น ถึง ตีหนึ่ง 01.44 น ของวันที่ 14 เมษายน โดยในวันที่ 13 เมษายน จะไปวัด ทำบุญไหว้พระและทำทานแบ่งอาหารกันกินก่อน 12.56 น พอถึงเวลา 19.20 น ซึ่งถือว่าเริ่มเข้าสู่ปีใหม่ คนก็จะฉลองด้วยการจุดประทัด พอตกเย็นเวลา 22.30 น ก็จะทานอาหารร่วมกันในครอบครัว หลังจากนั้นก็จะทำบุญกันเองเช่นหัวหน้าครอบครัวก็จะให้เงินลูกๆ และส่วนตัวหัวหน้าครอบครัวเองก็จะนิยมเอาเงินมาใส่แก้วคล้ายเงินกุ้นถุงเก็บไว้เป็นศิริมงคลของตนเอง นอกจากนั้นก็ยังนิยมนำอาหารที่ทำนั้นไปแจกคนอื่น เช่นเพื่อนบ้านหรือคนที่รู้จัก
หลังจากวันปีใหม่ 2 วันคือวันที่ 15 เมษายน ก็จะนิยมอาบน้ำฉลองปีใหม่กันและหาเสื้อผ้าใหม่มาใส่ การอาบน้ำนี้นิยมใช้น้ำมันยาสมุนไพรอาบตั้งแต่ศรีษะลงมาจนทั่วตัว โดยใช้น้ำมันจากใบพลู น้ำมันจากใบโพธิ์ คนศรีลังกานิยมจะไปวัดและรับน้ำมันจากพระที่จะทาศรีษะเป็นมงคล
เป็นที่น่าสังเกตุว่าคนศรีลังกานิยมใช้ใบพลูในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ในเรื่องของศาสนาและในมงคลพิธี เช่นการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติในงานต่างๆ นิยมมอบใบพลู 1 กำเป็นเครื่องหมายของการต้อนรับและให้มีสุขภาพดี ใบพลูใช้เป็นสมนุไพรสำหรับอายุรเวททั้งกินทั้งขบเคี้ยว แก้ได้สารพัดโรค ทั้งนำน้ำมันมาชโลมและอาบรักษาโรค ซึ่งเรื่องนี้ต่างกับคนไทยในปัจจุบันมากเพราะคนรุ่นใหม่แทบไม่รู้จักใบพลูเลย มองไปว่าใบพลูนั้นสำหรับคนแก่ที่ทานหมากเท่านั้น
เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเห็นว่าคนศรีลังการู้จักการฉลองปีใหม่ด้วยการยึดมั่นในประเพณีดั่งเดิมที่มีคุณค่าและดีงาม สมควรที่จะได้รับการชื่นชม
น่าสนใจมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เล่าสู่กันฟัง
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน ศรีลังกาเป็นประเทศเกาะ ใช้ธรรมชาติในการเสริมสร้างสุขภาพค่อนข้างมาก การท่องเที่ยวในศรีลังกาดึงดูดคนต่างชาติได้มากในเรื่องเชิงสุขภาพ
เป็นความรู้ใหม่ครับ เพราะตอนเรียนก็ไม่รู้ เป็นบุญของผมที่มีโอกาสได้ไปคาระวะท่านและมาดาม(ขออนุญาตเรียกตามที่ท่านแนะนำครับ)เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2555 รักและเคารพท่านเสมอครับ Krumoo
ขอบคุณครับครูหมู
ผมเห็นความสำคัญของกิจการลูกเสือและชื่นชมผู้ที่เป็นลูกเสือ อยากให้ลูกเสือกลับมามีบทบาทและใกล้ชิดสังคมอีกครับ ต้องช่วยกันรณรงค์และกระตุ้นคนครับ เป็นลูกเสือก็คือการสร้างชีวิตที่ดีครับ
ศรีลังกาเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียใต้ที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน สามารถสร้างประโยชน์ร่วมกันได้อีกมาก ติดตามการเผยแพร่ต่อไปครับขอบคุณที่นำภาพเผยแพร่ทาง FB ครับ