วิธีจัดการกับร้านที่แอบติดสติกเกอร์ที่รถ


ร้านที่ให้บริการรถยนต์ชอบติดสติกเกอร์เวลาไปใช้บริการโดยไม่บอกลูกค้า เป็นพฤติกรรมทางธุรกิจที่ไม่น่ายกย่อง เพราะเป็นใช้รถของลูกค้าในการโฆษณาร้านของตัวเองโดยไม่ขออนุญาตจากลูกค้าก่อน

พฤติกรรมนี้รู้สึกว่าจะทำกันทั่ว ที่ติดนอกกระจกยังพอทำเนา บางร้านติดในกระจก ติดกับฟิลม์กรองแสงเลย เรียกว่าไม่ให้เอาออกกันเลยทีเดียว

ล่าสุด อ.จัน เอารถไปเติมลมไนโตรเจนที่ร้านใหญ่ในห้างใกล้ๆ มหาวิทยาลัยปรากฎว่ากลับบ้านมาได้สติกเกอร์ติดหลังรถมาเรียบร้อยแล้ว ผมลอกออกพลางก็บ่นไปพลาง โชคดีที่เขาติดนอกกระจก ก็แค่เสียเวลานิดหน่อยในการเอาออกเท่านั้น ยังพอทำเนา

แต่คิดว่าจะไม่ไปใช้บริการร้านนี้อีกต่อไป และจะไม่แนะนำให้ใครไปใช้บริการร้านนี้ด้วยพฤติกรรมการกระทำเช่นนี้ของร้านนี้ไม่น่ายกย่องอย่างยิ่ง

ผมบอก อ.จัน ว่า หากต่อไปเจอร้านไหนติดสติกเกอร์กับรถเราโดยไม่ได้บอกกล่าวก่อน ให้เขาเอาออกทันที แล้วถ้าเห็นว่ามีรอยเสียหายก็ต้องเรียกร้องเอาตรงนั้น หากผ่านไปแล้วจะยากที่จะได้รับการชดใช้จากเขา

และที่สำคัญมากๆ คือถ้าเจอติดเข้าไปในกระจกกับฟิลม์กรองแสงต้องรีบจัดการตรงนั้นเลย เพราะการเอาออกทำไม่ได้ง่ายๆ และแม้จะเอาออกได้ฟิลม์จะต้องเสียหาย เท่าที่ผมทราบหลายร้านใช้วิธีนี้บอกลูกค้าว่าติดแล้วเอาออกไม่ได้ เป็นการบังคับให้ลูกค้าต้องโฆษณาร้านให้โดยปริยาย

ในโลกธุรกิจที่ผู้ค้ามักจะพยายามเอาเปรียบลูกค้ามากที่สุดนั้นเป็นโลกที่ไม่สวยงามเลย แต่โลกอย่างนี้คือโลกที่เราอยู่กันอยู่ในทุกวันนี้นั่นเอง ดังนั้นในฐานะผู้บริโภคเราก็ต้องพยายามที่จะเท่าทันกับผู้ค้าและพยายามร่วมมือกันให้มากที่สุดเพื่อลดการถูกเอาเปรียบครับ

หมายเลขบันทึก: 484520เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2012 13:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 15:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะอาจารย์ : เคยพบเหตุการณ์นี้เหมือนกันค่ะ แต่กลับมาเห็นที่บ้านซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำการลอกออกซะเองค่ะ ^^" เป็นคนที่ไม่ชอบติดสติ๊กเกอร์เพื่อการประชาสัมพันธ์ใดใดแม้จะชื่อโรงเรียนของตัวเอง เห็นด้วยค่ะที่จะต้องให้ทางร้านรับผิดชอบในสิ่งที่ทำทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของรถก่อนถ้ารถเราได้รับความเสียหาย ..

..เราเรียกค่า ..เสียหายกลับคืน..โดยแลกกัน...ให้เขาทำ..สติ้กเก้อร์ ด้วยคำว่า..."อย่าเห็นแก่ได้"...และให้โฆษณาคำนี้..ตลอดไป..ดีไหมเจ้าคะ...(ยายธี)...

คนภาคธุรกิจหลายคนทำอะไรไม่รู้จากคิดครับ..ทำตามกันมา..

จะไปบอกให้ครับ..

I can see where this is going ;-)

sunglasses, watches, women's handbags with noname; no badge-no name cars, on name buildings, bridges, roads, schools, universities, ... How far do we want to go?

We see under dinner plates, wine glasses, and mattress the brand names of the makers in very small prints. They are the the good guys.

Imagine seeing the big brand names when you finish your meal, drink, and sleep. Shuuuuush, I have just invented a new way to advertise ;-)

ได้ความรู้ใหม่เรื่องลมไนโตรเจนเลยค่ะอาจารย์

เห็นด้วยครับ ผมแกะทิ้งมาหลายครั้งแล้วครับ

พี่ดาพึ่งทราบว่ามีแบบนี้ด้วย ฉวยโอกาสมากเลย อย่างนี้ต้องเตือนกันทางวิทยุของแต่ละจังหวัดไปเลย หรือคอลัมน์นสพ.ท้องถิ่น เตือนภัยที่จะเกิดกับรถก็น่าจะดีนะคะ ฯ แล้วอ.จันใช้อะไรเช็ดเหนียวๆใต้สติกเกอร์ที่ออกยากค่ะ พี่ดามีเคล็ดเล็กน้อยๆง่ายๆโดยใช้ น้ำมันมะพร้าว ออกง่ายที่สุดเลยค่ะ ยางจากผลไม้ ต้นไม้ ฯออกอย่างง่ายๆลองใช้ดูบ้างนะคะ 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท