เตือนใจเมื่อท้อ


ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเสน่ห์ตรงความคล้องจองของเสียงและการเล่นคำที่ทำให้การพูดมีความหมายมากขึ้นได้
ผมเองสมัยเรียนหนังสือตอนเด็กๆจะชอบทุกวิชาไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์  โดยเฉพาะภาษาไทยนี่ผมจะชอบมากหากเป็นร้อยกรอง(ที่ไม่ถนัดเลยคือหลักภาษาไทย) ทำให้ชอบอ่านกลอน อ่านคำประพันธ์ต่างๆ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นสมองซีกขวาได้ด้วย  แต่เวลาเรียนวาดเขียนผมจะทำได้ไม่ดี ถ้าเป็นการประดิษฐ์ต่างๆผมจะชอบและได้คะแนนดีเพราะผมจะคิดแปลกๆไม่ทำตามแบบที่เขาทำๆกัน ชีวิตในวัยเด็กก็จะคุ้นเคยกับบทกลอนมากพอสมควรเพราะอยู่บ้านนอกจะไม่มีทีวี ไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านผมมีไฟฟ้าใช้เมื่อตอนผมอยู่ ม.2 ก่อนนั้นใช้ตะเกียงตลอด บางวันไปโรงเรียนผมด้านหน้าแหว่งไปบ้างเพราะอ่านหนังสือง่วงก้มไปโดนเปลวไฟ  เมื่อไม่มีทีวีดูการแสดงที่ดูได้บ่อยๆก็คือลิเก สุโขทัยนี่ถือว่าเป็นแหล่งลิเกเลยดูตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆแม่ก็พาไปนั่งด้วย ยายเคยเล่าให้ฟังว่าตอนเล็กๆพอลิเกออกมาแสดงผมก็จะปีนขึ้นโรงลิเกไปรำกับลิเกด้วย(ตัวผมเองนึกไม่ออก แสดงว่าคงจะเล็กมาก) ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมชอบบทกลอนมากเป็นพิเศษ รวมทั้งชอบการดูลิเกมาจนโต ละมีโอกาสได้แสดงลิเกประมาณ 4-5 ครั้ง  การที่เราชอบบกลอน เราจะชอบการพูดการเขียนที่สัมผัสคล้องจองกัน ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเสน่ห์ตรงความคล้องจองของเสียงและการเล่นคำที่ทำให้การพูดมีความหมายมากขึ้นได้ เวลาเหนื่อยหรือท้อ ผิดหวังเราก็จะเลือกบทกลอนที่ให้กำลังใจ ให้ความมุ่งมั่นมาอ่าน แต่วันนี้ผมไม่ได้ท้อแต่เผอิญไปเจอร้อยกรองที่เคยอ่านและประทับใจก็เลยถือโอกาสเอามาลงไว้ให้อ่านกันครับแต่ต้องขอโทษผู้ประพันธ์ไว้ด้วยที่ไม่ได้กล่าวถึงชื่อเพราะผมเองก็จำไม่ได้แล้ว
                ด้วยสองแขนแกร่งกล้า        ฝ่าฟัน
          เท้าคู่ก้าวประจัน                      หยัดสู้
          สมองคิดสร้างสรรค์                  ตรองไตร่
          มุ่งมั่นหัวใจรู้                           ย่างก้าว เดินทาง
     ด้วยสองแขนคู่แกร่ง              พลังแรงที่มีอยู่
กับสองมือเอื้อมชู                     ไขว่คว้าสู้จะสร้างตัว
     อีกคู่เท้าสองขา                   ก้าวผ่านมาไม่หวั่นกลัว
แม้ทางมืดสลัว                         ฟ้าหม่นมัวก็อดทน
     สมองคิดไตร่ตรอง                รู้กลั่นกรองสมเหตุผล
อาจพลาดพลั้งหลงกล               ก็ดิ้นรนกันต่อไป
     ทั้งดวงจิตมุ่งมั่น                  หมั่นบุกบั่นด้วยหัวใจ
หนทางยังกว้างไกล                   ก้าวเดินไปอย่าช้ารอ
หมายเลขบันทึก: 4845เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2005 23:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 21:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท