การประกาศเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และการปรับเงินเดือน 15,000 บาท ของ ป.ตรี ในมุมลูกจ้างผู้ใช้แรงงานที่ได้ยินครั้งแรก ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นดีใจอย่างมาก แต่พอมาไตร่ตรองดูให้อีกที่ การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำประมาณ 40% ถึง 70% ทั่วประเทศถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความหวั่นไหว กับกลุ่มนายจ้าง เพราะหลังจากมหาวิกฤตกาลน้ำท่วม นายจ้างที่ตั้งตัวไม่ทัน รวมถึงกลุ่มนายจ้างที่อยู่นอกพื้นที่น้ำท่วม ก็ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้างแบบฉีกตำราHR ขาดกระจุย
เหตุการณ์นี้คือ โอกาสที่ผู้ใช้แรงงานตาดำๆ ได้ลืมตาอ้าปาก เงินเพิ่ม รายได้เพิ่ม คุณภาพชีวิตดีๆที่เพิ่มขึ้น นี่คือความคาดหวังที่พวกเขาจะได้รับ และก็มีอีกความหวังหนึ่ง คือ การที่ไม่ถูกเลิกจ้าง หรือลดสวัสดิการอื่นๆลง จากเหตุผลที่นายจ้างไม่มีเงินที่จะจ่ายได้ในจำนวนนั้น ขณะก็เริ่มมีให้เห็นแล้วถึงการเคลื่อนไหวของนายจ้าง คือการลดจำนวนชั่วโมงทำงาน ลดเงินพิเศษ ค่าประสบการณ์ ค่าOT ค่าเดินทาง ค่าอาหาร หรืออื่นๆ ที่ลูกจ้างเคยได้รับ เพื่อจะทำให้บริษัทอยู่รอด โดยต้องจ่ายค่าจ้างวันละ 300 ให้ได้ เพราะกฎหมายก็ไม่ได้บังคับว่า ห้ามลดค่าอื่นๆที่ลูกจ้างเคยได้รับก่อนหน้านี้
หรือเหตุการณ์นี้ จะได้สร้างโอกาสให้เหล่าบรรดานายจ้าง หันมาลงทุนซื้อเครื่องจักรมาทำงานแทนคนมากยิ่งขึ้น เพราะ พวก Transformers รัฐบาลไม่ได้บังคับให้นายจ้างต้องจ่ายค่าตอบแทนให้มัน และนายจ้างเองก็ไม่ต้องมาคิดค่าจ้าง สวัสดิการ หรือต้องซื้อของต่างๆเพื่อมาอำนวยความสะดวกให้คนเหมือนเมื่อก่อน ที่ชัดเจนคือ ณ ช่วงเวลานี้ พวก Transformers ยังไม่มีพัฒนาการที่จะตั้งสหภาพแรงงาน มาเรียกร้องอะไรต่างๆจากนายจ้างได้แน่นอน
ตอนนี้ก็คือเวลาที่จะพิสูจน์ว่านโยบายดังกล่าวจะสร้างโอกาสให้ใคร ระหว่าง คนที่เป็นลูกจ้าง กับ Transformers ที่ต่อไป ผู้ใช้แรงงานในปัจจุบัน จะเรียกว่าผู้รุกราน ก็เป็นได้
ไม่มีความเห็น