กลับมาอีกวันที่กำลังจะมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นงาน สุขภาพ สังคมกับการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญที่ท้าทายระดับประเทศ กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ กับลูกสาววัย 14 วัน กับอีก 1 ชั่วโมง 52 นาที ทุกสิ่งกำลังไปได้สวยทีเดียว...
วันนี้เวลา 07.05 น. เช้าวันอังคารที่ 3 เม.ย. 55 กลับมาอีกครั้งอารมณ์บางอย่าง เมื่อผมกำลังแต่งตัวเพื่อจะไปส่งภรรยาเพื่อไปดูแลลูกสาวที่ รพ.มหาราช แผนกมุ่งสู่โลกกว้างเตรียมแม่เตรียมลูก "พ่อ รีบๆ เลย แม่จะสายแล้วนะ !" ปี้ดดดด ตอนนั้นมันรู้สึกว่าอะไรกันเนี่ย เราทำดีด้วยนะ จะรีบอะไรนักหนา ผมเงียบไม่พูดอะไร รีบแต่งตัวเก็บของเดินลงมาทันทีโดยไม่รอเธอ ติดเครื่องรถยนต์นั่งรอ อยากจะกดแตรให้มันดังสนั่นลั้นหมู่บ้าน ไหนบอกรีบไงว่ะ ! พอเธอขึ้นรถมา มีอารมณ์แบบว่าจะจะขับรถดั่งจรวดพุ่งไปยังจุดหมายให้ไวที่สุด เพราะเธอรีบ...ประชด พอเธอขึ้นรถยังไม่ทันจะออกรถ "อย่าขับรถไวละ ค่อยๆขับ"เท่านั้นแหละ มันเหมือนโดนอะไรสักอย่างจิ้มที่ร่างกายแล้วหัวเราะเยาะ สุดสะใจ มันเหมือนโดนเหยียบเท้าแล้วมองหน้าพูดว่ามีอะไรรึเปล่า ? มันถูกจุดสะด้วยผมก็ขับไวตามนั้นเลยครับ แล้วก็ทะเลาะถึงการไม่ยอมรับฟังของผม ยิ่งไปใหญ่เลยครับ ไอ้ที่มันไม่ยอมรับนั้นยังแยกแยะ ยอมรับไม่ได้เลย เอา ! พูดซ้ำเข้าไปอีก ไม่เห็นตัวเองเลย แต่มันอึดอัดไม่มีอนาคตอะไรเลยที่น่าสนใจต่อจากนี้ ตอนนั้นผมสัมผัสแบบนี้เลยครับ พอขับมาเรื่อยๆ สิ่งที่ผมจะควบคุมตนเองได้คือการหยุดคิด สิ้นคิดกับรอบข้างก่อน คือการขับรถของประชาชนชาวสยามน้ำใจดีทั้งหลาย ไม่งั้นสัตว์เลื้อยคลานออกมาเพียบแน่ๆ ข่มไว้ไม่ให้คิดถึงนอกรถ ปล่อยว่างกับมัน ตอนนั้นสิ่งนี้แหละที่ผมทำได้ดีที่สุด....และพูดก่อนที่เธอจะลงรถได้ดีที่สุดไม่ว่ามันจะยอมรับหรือไม่คือ "ขอโทษนะ เป็นคำพูดที่ฉันจะพูดได้สุดๆละ" ประมาณว่าอย่าให้คิดต่อ พูดไปมากกว่านี้เลย อะไรทำนองนี้....อารมณ์มันเหมือนเมื่อวานผมพึ่งได้รับเหรียญทองโอลิมปิก แต่วันนี้ผมกลับโดนจับไปอบรมคุมประพฤติ แล้วซ้ำร้ายไอ้คนอบรมไม่รู้จักผม ไม่ดูทีวีเลย เอาสะขาดความมั่นใจไปซะอย่างนั้นเลย...ตอนแรกกะว่าจะเขียนเรื่องที่ยิ่งใหญ่ในการกระทำของผมเมื่อสองวันที่ผ่านมาซึ่งได้สร้างความแตกต่างให้กับองค์กรอย่างมหาสาร สำหรับผมนะ....ผมเข้าที่ทำงานตามปกติมีเรื่องผิดหวังตามมาเรื่อยจนตอนนี้...วิธีที่ผมจัดการกับความคิดตนเองตอนนี้คือ "ไม่คิด" มองหาอะไรที่มันเบาๆ สบายๆฟัง ดูผลงานของตนเองที่ผ่านมา อ่านบทความที่ตนเองเขียนไว้ ให้ตนเองสามารถกลับไปนับถือตนเองได้อีกครั้ง เพราะผมรู้สึกว่า ผมไม่สามารถนับถือตนเองได้เลยจากการที่เราประกาศไว้ว่าเราคือคนที่ยอดเยี่ยม เราจะเป็นคนแตกต่างทุกสถานการณ์ มันเรียกร้องให้ผมปล่อยว่าง แยกแยะและผมก็จะไม่ปล่อยให้มันครอบงำผมได้นานหรอก
ณ วินาทีนี้ ประการที่ 1 ผมก็เห็นว่าตนเองนั้นมีความยึดมั่น ถือมั่นในตัวตนว่าสำเร็จในเมื่อวาน ยึดติดความสำเร็จ ยึดติดกับอดีตความคาดหวังของตนเอง ยึดติดการกระทำที่คาดหวังผลตอบกลับ ให้เขาถูกใจ แต่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ตามจังหวะตามกาล ประการที่ 2 ผมเอาอดีตที่ตนเองเคยมองเขาในเรื่องเดียวกันนี้เป็นปฏิกิริยาตอบกลับอย่างรวดเร็วเป็นอัตโนมัติ เหมือนเราเคยบอกว่าเขาทำผิดเองและมันมีผลกระทบกับเราอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เรากลับทำสะเอง รับตนเองไม่ได้ก็เลยโทษเขา เราถูก ประการที่ 3 เราไม่ได้ทำตามที่สัญญาที่ให้กับเขาไว้ คือ การตื่นเช้า มาทำอะไรต่างๆนานาให้ ไปส่งตรงเวลา ผมไม่ได้รักษาคำพูด
ทั้งหมดนี้สิ่งที่ผมสูญเสียคือ การแสดงออกที่เป็นอิสระ มีชีวิต ชีวา ความสุข ความสัมพันธ์ จิตเบิกบาน บรรยากาศชีวิตที่เรียบง่ายผาสุข ทั้งหมดนี้ผมได้สูญเสียพลังของตนเองไปกับ
ไม่มีความเห็น