15. กิจกรรมการเรียนรู้…....
สู่การวัดและประเมินผล
ในตอนที่ 14 ผมได้กล่าวว่ากิจกรรมการเรียนรู้มีความสัมพันธ์กับการวัดและประเมินผล อีกทั้งมีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์นำทางหรือจุดประสงค์การเรียนรู้ในแผนการเรียนรู้นั้นๆ ด้วย ซึ่งทั้งจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้และการวัดผลประเมินผลนั้น ถ้าคุณครูมองให้ลึก วิเคราะห์ให้เห็นภาพ ก็จะเห็นว่า ทั้งหมดคือ หนึ่งเดียว เพราะถ้า
“เราวางจุดประสงค์การเรียนรู้ไว้อย่างไร
เราต้องนำพาผู้เรียนไปให้ถึงจุดนั้น
เราต้องประเมินผลให้เห็นได้ว่าเราทำได้
ตรงเป้าหมายมาก – น้อยเพียงใด”
ดังนั้น เวลาเราเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้หนึ่งข้อ เราต้องพิจารณาว่า“จุดประสงค์นี้เราจะต้องดำเนินกิจกรรมอย่างไร แค่ไหน” แล้วเราก็วางแผนการเรียนหรือเขียนกิจกรรมนำพาผู้เรียนให้เรียนจนรู้และเข้าใจหรือบรรลุจุดประสงค์นั้น นั่นแสดงว่า บรรดากิจกรรมการเรียนรู้กี่ข้อก็ตามแต่ จะต้องเขียนให้เชื่อมโยงต่อเนื่องกันเป็น
ลูกโซ่จนถึงข้อสุดท้าย และจะต้องให้บรรลุถึงจุดประสงค์นั้น ๆเช่น จุดประสงค์เขียนไว้ว่า “สามารถระบุคำนามและคำสรรพนามที่กำหนดให้ได้ถูกต้อง” ผมจะต้องคิดจัดกิจกรรมให้ผู้เรียน สนุก กับการเล่น เรียนไปจนถึงข้อสุดท้าย ผู้เรียนสามารถแสดงความสามารถว่าตนรู้เรื่องคำนามและคำสรรพนามที่กำหนดให้ได้
สำหรับวิธีการเขียนกิจกรรมให้สอดรับกับจุดประสงค์การเรียนรู้และการวัดและประเมินผลนั้น
ผมมีเคล็ดลับง่าย ๆ คือ ผมจะแบ่งกระดาษออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกผมจะเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ ส่วนที่ 2 ผมจะเขียนกิจกรรมการเรียนรู้ ส่วนที่ 3 ผมจะเขียนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ โดยผมจะเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ก่อน แล้วจึงเขียนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ส่วนกิจกรรมการเรียนรู้จะเขียนตอนสุดท้าย ดังนี้
จุดประสงค์ การเรียนรู้ |
กิจกรรมการเรียนรู้ |
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ |
สามารถระบุคำนามและคำสรรพนามที่กำหนดให้ได้ถูกต้อง
***ผมจะเขียนกิจกรรมข้อ 5ก่อนโดยให้ตรงหรือตอบจุดประสงค์การเรียนรู้ว่าสอดรับกันมากน้อยเพียงใดแล้วจะเขียนข้ออื่น ๆ ที่เสริมให้ กิจกรรมข้อ 5 มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเช่นเขียนข้อ 6 แล้วกลับมาเขียนข้อ 4,3,2,1การคิดเขียนแบบนี้ทำให้เขียนกิจกรรมง่ายขึ้น*** |
1. 2. 3. 4. 5. นักเรียนแต่ละคนชี้คำนามและคำสรรพนาม ที่ครูกำหนดให้ โดยนักเรียนแต่ละคนต้องอธิบายเหตุผลด้วยว่า“ทำไมคำ ๆนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มคำนามหรือคำสรรพนาม” 6. นักเรียนแต่ละคน นำคำนามและคำสรรพนามมาแต่งประโยคแล้วเขียนบันทึกไว้ในสมุดผลงานของตน พร้อมส่งให้ครูประเมินผล
|
ครูสังเกตพฤติกรรมการระบุคำนามและคำสรรพนามของนักเรียนแต่ละคน (ดูเกณฑ์การประเมินผลหมายเลข...) ครูอ่านผลงานเรียงความของนักเรียนแต่ละคน(ดูเกณฑ์การประเมินผลหมายเลข..) |
โปรดสังเกตดูให้ดีว่า กิจกรรมข้อ 5 นั้นนักเรียนสามารถชี้คำนามและคำสรรพนามที่ครูกำหนดให้พร้อมกับนักเรียนจะต้องอธิบายเหตุผลด้วยว่า คำใดเป็นคำนาม คำใดเป็นคำสรรพนาม ทำไมคำเหล่านี้ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มคำนั้น ๆ นั่นคือพฤติกรรมที่ผู้เรียนทำได้อย่างนี้เป็นพฤติกรรมที่สอดรับกับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ระบุว่า“สามารถระบุคำนามและคำสรรพนามที่กำหนดให้ได้ถูกต้อง” เมื่อผู้เรียนเรียนรู้จนบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ผมจะเพิ่มกิจกรรมข้อ 6 เข้าไปให้ผู้เรียนมีโอกาสแสดงความสามารถแท้ที่มีอยู่ในแต่ละคนออกมา คือ การนำคำที่เรียนรู้มาแต่งประโยคและเขียนบันทึกไว้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเพิ่มความเข้าใจในบทเรียนนั้นได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อผมเขียนกิจกรรมข้อ 5-6 ได้แล้ว ผมก็นึกถึงกิจกรรมข้อ4 ว่า ก่อนที่ผู้เรียนจะสามารถชี้คำนามและคำสรรพนามได้นั้น พวกเขาจะเรียนรู้อย่างไรก่อน เช่น เล่นเกมคำนาม คำสรรพนาม ตามกติกาและขั้นตอนที่กำหนดไว้ในเกมนั้น ๆ
เมื่อข้อ 4 ให้ผู้เรียนเล่นเกม ข้อ 3 จะต้องทำอะไรก่อน และข้อ 2 ข้อ 1 จะทำอะไร นั่นคือกิจกรรมที่ย้อนทวนอย่างนี้จะช่วยให้ผมคิดกิจกรรมได้ง่ายกว่ารูปแบบเดิมๆ ที่เขียนจาก 1,2,3 เรียงลำดับไป นี่คือเคล็ดลับที่ผมค้นพบ
เมื่อสามารถกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดรับกับจุดประสงค์การเรียนรู้แล้ว ผมก็จะนึกถึงว่า ต่อไปผมจะกำหนดการวัดและประเมินผลว่าจะทำอย่างไร นั่นหมายถึงว่า เวลาที่ผมวัดหรือประเมินผล ผมก็จะดูตรงที่ผู้เรียนแต่ละคน
- สามารถระบุคำนามและคำสรรพนามที่กำหนดให้ได้จริงหรือไม่
- มีผู้เรียนกี่คนที่สามารถระบุคำนาม คำสรรพนามได้ถูกต้อง
- มีผู้เรียนอีกกี่คนที่ยังไม่สามารถระบุคำนาม คำสรรพนามได้ถูกต้อง
- มีคำใดบ้างที่ผู้เรียน (คนใด) ยังระบุได้ไม่ถูกต้อง กี่คำ
- มีคำใดบ้างที่ผู้เรียนระบุได้ถูกต้องมาก-น้อยเท่าไร
ทั้งนี้เพื่อที่จะหาทางช่วยเหลือผู้เรียนเป็นรายบุคคลได้เพราะมันเป็นหน้าที่ของเราผู้เป็นครู
ในหนังสือ “กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์” (2544) กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดแนวทางการวัดและประเมินผลไว้ว่า
อ่านแนวทางการวัดและประเมินผลแล้ว ก็ควรจะมองเห็นชัดเจนว่าคุณครูจะต้องทำอย่างไร และในหนังสือเล่มเดียวกันนี้ยังบอกถึงจุดประสงค์ของการวัดและประเมินผลว่า
1. เพื่อวินิจฉัยความรู้ ความสามารถทักษะและกระบวนการ เจตคติ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมของผู้เรียน และเพื่อซ่อมเสริมผู้เรียนให้พัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะได้เต็มศักยภาพ
2. เพื่อใช้ข้อมูลย้อนกลับให้แก่ตัวผู้เรียนเองว่าบรรลุตาม
มาตรฐานการเรียนรู้เพียงใด
จะเห็นได้ว่าการวัดและประเมินผลนั้น ไม่ใช่ทำเพื่อตัดสินว่า ผู้เรียนจะสามารถเลื่อนชั้นได้หรือไม่ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณครูต้องมุ่งวัดและประเมินผล เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้เรียนเป็นรายบุคคล โดย
- ผู้เรียนที่เรียนเก่ง เราก็สร้างให้เก่งขึ้นไปอีก
- ผู้เรียนที่เรียนปานกลางเราก็เสริมให้เรียนเก่งขึ้น
- ผู้เรียนที่เรียนอ่อน เราก็ซ่อมให้เรียนดีขึ้น
มาถึงตรงนี้ สำหรับผมนั้นมั่นใจว่า ผมวัดและประเมินผลผู้เรียน เพื่อนำข้อมูลการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนมาวิเคราะห์ดูว่า
ใครควรจะ ซ่อม
ใครควรจะ เสริม
ใครควรจะ สร้าง
และครูควรพัฒนาต่ออย่างไร
แล้วผมก็จะออกแบบกิจกรรมการสอน เพื่อฝึกฝนให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตรงตามศักยภาพของแต่ละคน
อ่านเป็นเล่มได้ที่ https://docs.google.com/docume...
ไม่มีความเห็น