สำหรับการวิเคราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นนั้น ผมมีวิธีการวิเคราะห์ดังนี้
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำในแต่ละมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นก่อน เช่น
สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส. 1.1
ตรงนี้ถ้าหากเขาเขียนไว้เพียง มาตรฐาน ส.1.1 ขอให้เข้าใจและอ่านว่า “มาตรฐาน สังคมศึกษา ฯ สาระที่ 1 ข้อ 1.1 ตัวแรกหลัง ส. นั้นหมายถึงข้อที่ ถ้าเป็นสาระที่ 2 ข้อ 1. ตัวเลขข้างหน้าก็จะเปลี่ยนเป็น มาตรฐาน ส. 2.1 ทันที
และคำอีกหลาย ๆ คำในมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นแต่ละรายข้อย่อย เวลาเรานำเขียนในจุดประสงค์นำทางนั้น เราต้องแปลความหรือถอดรหัสเสียก่อน ซึ่งจะกล่าวในตอนต่อไปที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้ เพราะจะทำให้ไม่สับสนเวลาอ่าน
ในการวิเคราะห์มาตรฐานช่วงชั้น แต่ละข้อย่อย ๆ ของช่วงชั้นนั้น ๆ ของสาระและมาตรฐานนั้น เราต้องมองให้เห็นภาพว่า มาตรฐานข้อย่อย ๆ แต่ละข้อนั้นต้องการให้ผู้เรียนเกิดภาพในประเด็น
ประเด็นทั้ง 3 ประเด็นนี้ซ่อนลึกอยู่ในมาตรฐานย่อย ๆ นั้นเอง เช่น ในสาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต มาตรฐาน ว.1.2 ข้อย่อยที่ 1
“สังเกต สำรวจลักษณะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตใกล้ตัวและอธิบายได้ว่า สิ่งมีชีวิตมีการถ่ายทอดลักษณะจากพ่อ และ / หรือแม่ สู่ลูกหลาน...”
พอเราเห็นมาตรฐานย่อย หรือที่เขาชอบเรียกว่า ตัวบ่งชี้ อันหมายถึงว่า ถ้าผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมตามที่ระบุไว้ในมาตรฐานย่อยนี้ครบทุกข้อ ก็บ่งชี้ได้ว่า ผู้เรียนคนนั้นบรรลุ มาตรฐาน ว.1.2 ของระดับช่วงชั้นนั้น ดังนั้นในมาตรฐาน ว. 1.2 ข้อย่อยที่ 1 ก็จะเรียกว่า สาระที่ 1 ของกลุ่มวิทยาศาสตร์ มาตรฐานข้อ 1.2 ตัวบ่งชี้ ข้อ 1 อ่านอย่างนี้ก็ได้
เมื่อเราเห็นตัวบ่งชี้ ข้อ 1 ว่า ดังนี้แล้ว เราก็รีบวิเคราะห์ดู ดังนี้
ตัวอย่างที่ 1 สาระที่ 1 มาตรฐาน ว.1.2 ตัวบ่งชี้ที่ 1 ช่วงชั้นที่ 1
ให้ทำอะไร |
ให้ทำเรื่องใด |
ให้ทำแค่ไหน |
1. สังเกต สำรวจ |
ลักษณะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตใกล้ตัว |
อธิบายได้ว่า สิ่งมีชีวิตมีการถ่ายทอดลักษณะจากพ่อและ/หรือแม่สู่ลูกหลาน |
ตัวอย่างที่ 2 สาระที่ 2 มาตรฐาน ส 2.1 ตัวบ่งชี้ที่ 1 ช่วงชั้นที่ 1
“1. รู้และปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ยอมรับในความสามารถ เห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่นในฐานะสมาชิกที่ดีของครอบครัวโรงเรียนและชุมชน”
ให้ทำอะไร |
ให้ทำเรื่องใด |
ให้ทำแค่ไหน |
1. รู้และปฏิบัติตน |
เป็นพลเมืองดี ตามวิถีชีวิตประชาธิปไตย |
ยอมรับในความสามารถ เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ในฐานะสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียนและชุมชน
|
ตัวอย่างที่ 3 สาระที่ 4 มาตรฐาน ท. 4.2 ตัวบ่งชี้ที่ 1 ช่วงชั้นที่ 1
“1. สามารถใช้ทักษะทางภาษาเป็นเครื่องมือการเรียน การแสวงหาความรู้และการทำงานร่วมกับผู้อื่นและใช้เทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาการเรียน”
ให้ทำอะไร |
ให้ทำเรื่องใด |
ให้ทำแค่ไหน |
1. สามารถใช้ทักษะทางภาษา |
เป็นเครื่องมือการเรียน การแสวงหาความรู้และการทำงานร่วมกับผู้อื่น |
ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาการเรียน |
ตัวอย่างที่ 4 สาระที่ 3 มาตรฐาน ท.3.1 ตัวบ่งชี้ที่ 1 ช่วงชั้นที่ 3
“1. สามารถสรุปความ จับประเด็นสำคัญ วิเคราะห์ วินิจฉัย ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู สังเกตการณ์ใช้น้ำเสียง กิริยาท่าทาง การใช้ถ้อยคำของผู้พูดและสามารถแสดงทัศนะจากการฟังและดูสื่อรูปแบบต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณ”
ให้ทำอะไร (P) |
ให้ทำเรื่องใด (K) |
ให้ทำแค่ไหน (A) |
- สามารถสรุปความ
- สามารถจับประเด็นสำคัญ - สามารถวิเคราะห์ - สามารถวินิจฉัย
- สังเกต |
- ข้อเท็จจริงของเรื่องที่ฟังและดู - ข้อคิดเห็นของเรื่องที่ฟังและดู - จุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู
- การใช้น้ำเสียง กิริยาท่าทาง การใช้ถ้อยคำของผู้พูด
|
สามารถแสดงทัศนะจากการฟังและดูสื่อรูปแบบ ต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณ
|
จะเห็นได้ว่า เมื่อเราแยกแยะแจกแจงตัวบ่งชี้ออกมาก็จะได้สิ่งที่ต้องการหรือคุณลักษณะ 3 ด้านด้วยกันคือ
ภาพที่ปรากฏต่อผู้เรียนภายหลังการเรียนรู้แล้ว คือ ผู้เรียนทำอะไรเป็น (P) ทำแล้วผู้เรียนเรียนรู้เรื่องอะไร (K) แล้วผู้เรียนมีความรู้สึกอย่างไร (A) แต่นั่นแหละคุณลักษณะที่เขียนไว้ในตัวบ่งชี้นี้ บางตัวบ่งชี้ก็มีไม่ครบ 3 ตัว เช่น
ตัวอย่างที่ 5 สาระที่ 3 มาตรฐาน พ.3.2 ตัวบ่งชี้ที่ 1 ช่วงชั้นที่ 3
“1. ออกกำลังกายและเลือกเข้าร่วมเล่นกีฬาตามความถนัดและความสนใจ”
ให้ทำอะไร |
ให้ทำเรื่องใด |
ให้ทำแค่ไหน |
ออกกำลังกาย |
|
เลือกเข้าร่วมเล่นกีฬาตามความถนัดและความสนใจ
|
เมื่อเราฝึกฝนจนสามารถแยกแยะแจกแจงตัวบ่งชี้ได้อย่างดี จนมองเห็นภาพคุณลักษณะนิสัยที่ซ่อนอยู่ในตัวบ่งชี้เหล่านี้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องเขียนแยกแยะออกเป็นสดมภ์ 3 สดมภ์ก็ได้ เรามาทำแบบสากลนิยม คือ ขั้นวิเคราะห์หลักสูตร ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่าง การวิเคราะห์ตัวบ่งชี้สู่ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น (ตัวบ่งชี้) ป.4-6 |
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายภาค |
1. สำรวจ สังเกต เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว ลักษณะของสมาชิกของสิ่งมีชีวิตใกล้ตัวและอธิบายการถ่ายทอดลักษณะของสิ่งมีชีวิตในแต่ละรุ่น รวมถึงลักษณะที่มีการแปรผันจากบรรพบุรุษ |
1.1 สำรวจ สังเกต ลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว 1.2 เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว 1.3 สำรวจ สังเกตลักษณะของสมาชิกของสิ่งมีชีวิตใกล้ตัว 1.4 เปรียบเทียบลักษณะของสมาชิกของสิ่งมีชีวิตใกล้ตัว 1.5 อธิบาย การถ่ายทอดลักษณะของสิ่งมีชีวิตในแต่ละรุ่นรวมถึงลักษณะที่มีการแปรผันจากบรรพบุรุษ |
จะเห็นว่า ผมวิเคราะห์ตัวบ่งชี้หรือมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นออกละเอียดเป็นข้อ ๆ ได้ถึง 5 ข้อ “ถามว่าทำไม” ผมขอตอบว่า ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายภาค นั่นคือ จุดประสงค์การเรียนรู้ปลายทางดี ๆ นี่เอง ถ้าจุดประสงค์ปลายทางมีความละเอียด ชัดเจน เราย่อมนำผู้เรียนไปสู่จุดหมายนั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อเราแยกแยะวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายภาคไว้ละเอียด เวลาเรากำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้หรือจุดประสงค์นำทาง เราก็สามารถซอยจุดประสงค์ปลายทางให้ถี่ขึ้น นั่นคือ จุดประสงค์นำทางจะละเอียดยิ่งขึ้นไปอีก ส่งผลให้สาระการเรียนรู้ก็ละเอียดตามจุดประสงค์การเรียนรู้และยังผลให้เวลา วัดและประเมินผล ก็จะละเอียดตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ นั่นคือ เราจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้สอดรับกันทั้งหมดนั่นเอง
ถามว่า “ถ้าไม่ซอยละเอียดอย่างนี้ได้ไหม” ขอตอบว่า ได้ เพราะทางใคร ทางคนนั้น อย่าลืมว่า นี่เรากำลังจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาของเรานะ เพราะฉะนั้น เราคือคณะครู ผู้บริหาร ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่เข้าร่วมคิดร่วมทำจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วยกัน
ทีนี้ถ้าถามว่า “เราจะนำผลการเรียนรู้ที่คาดหวังไปเขียนเป็นจุดประสงค์ปลายทางจะได้ไหม” เพราะรูปแบบการเขียนแผนการเรียนรู้นั้น บางแห่งบางที่จะต้องมีทั้งผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง จุดประสงค์ปลายทาง สำหรับผมนั้น ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายปีหรือรายภาค ก็คือ จุดประสงค์ปลายทางนั่นเอง จะต่างกันก็เพียงแต่รูปแบบการเขียนเท่านั้น
การเขียนจุดประสงค์ปลายทางนั้น จะเขียนตามแบบที่เราจะให้เกิดพิสัยด้านใด ก็จะเขียนบ่งบอกพิสัยนั้น เช่น
“เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ...”
ตัวอย่างเช่น
1.1 เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ สำรวจ สังเกต ลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว
1.2 เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเปรียบเทียบ ลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว
1.3 เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ สำรวจ สังเกต ลักษณะของสิ่งมีชีวิตใกล้ตัว
“เพื่อให้นักเรียนสามารถเกี่ยวกับ.....”
ตัวอย่างเช่น
2.1 เพื่อให้นักเรียนสามารถสำรวจ สังเกต ลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว
2.2 เพื่อให้นักเรียนสามารถเปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว
“เพื่อให้นักเรียนตระหนักในคุณค่าของ....”
“เพื่อให้นักเรียนมีเจตนคติที่ดีต่อ.......”
ตัวอย่างเช่น
3.1 เพื่อให้นักเรียนตระหนักในคุณค่าของวิธีการ สำรวจ สังเกต ลักษณะตนเองกับคนในครอบครัว หรือ
เพื่อให้นักเรียนนำวิธีการสำรวจ สังเกต ที่เรียนรู้มาไปใช้ในการเรียนรู้เรื่องอื่น ๆ
3.2 เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิธีการเปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว หรือ
เพื่อให้นักเรียนสมัครใจเข้าร่วมกิจกรรมการสำรวจ สังเกต เรื่องราวที่กำลังเรียนรู้
จะเห็นได้ว่า คำที่นำขึ้นต้นคือคำว่า เพื่อให้ แล้วคำที่ตามมามักจะเป็นคำที่มีความหมายกว้าง ๆ เช่น เห็นคุณค่า ตระหนัก มีเจตคติ นอกจากนี้ก็ยังมีคำอื่น ๆ อีก ซึ่งถ้าได้ศึกษาเรียนรู้กัน แล้วก็จะพบเห็นคำเหล่านั้น
ถ้าเข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้วก็ดำเนินการขั้นต่อไป
อ่านเป็นเล่มได้ที่ https://docs.google.com/docume...
ไม่มีความเห็น