คลังมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ปีที่ 4


คลังมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ปีที่ 4

นายกิตติรัตน์  ณ ระนอง  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบรางวัลกองทุนหมุนเวียนดีเด่นที่ผ่านเกณฑ์ประเมินผลการดำเนินงานประจำปี 2554 จำนวน 12 กองทุน โดยนายวิรุฬ  เตชะไพบูลย์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  กล่าวต้อนรับ ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์   อิมแพค เมืองทองธานี  วันที่ 30 มกราคม 2555 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาการดำเนินงานของกองทุนหมุนเวียน
ให้มีประสิทธิภาพ 

นายกิตติรัตน์  ณ ระนอง  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง   เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2554 ว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเงินนอกงบประมาณ โดยเฉพาะประเภททุนหมุนเวียน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ การติดตามการใช้จ่ายเงินและ
ผลการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ จึงเป็นมาตรการที่ควรสนับสนุนให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการใช้จ่ายเงินของทุนหมุนเวียนก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง และนอกจากการติดตามประเมินผลที่กระทรวงการคลังกำกับดูแลอยู่แล้ว ภาครัฐยังให้ความสำคัญในการติดตามรายงานข้อมูลด้านการรับจ่ายด้วยซึ่งเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 ที่กำหนดให้เงินรายได้ของหน่วยงานของรัฐใดที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน หน่วยงานนั้นต้องทำรายงานการรับและการจ่ายเงินเสนอต่อคณะรัฐมนตรีทุกสิ้นปี งบประมาณ เพื่อรายงานต่อรัฐสภา เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายด้านการเงินของประเทศ  และทุนหมุนเวียนต่าง ๆ
ที่สามารถปฏิบัติงานจนมีผลการดำเนินงานดีเด่น จึงเป็นความภาคภูมิใจของรัฐบาลเช่นเดียวกับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของทุนหมุนเวียนทุกคนตลอดจน เป็นช่องทางให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างผู้ร่วมงาน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและการดำเนินงานของ
ทุนหมุนเวียนในภาพรวมต่อไป

นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะที่กำกับดูแลกรมบัญชีกลางได้มอบนโยบายให้มีการพัฒนาระบบการดำเนินงานทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแบ่งกลุ่มของทุนหมุนเวียนที่มีความแตกต่างกันทั้งขนาดของทุน และขอบเขตภารกิจของแต่ละทุน ตลอดจนการบูรณาการการรายงานผลการประเมินการดำเนินงานเพื่อแสดงต่อคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และสาธารณชนทั่วไป เพื่อเป็นการแสดงถึงประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และธรรมาภิบาลของรัฐในภาพรวม  รวมถึงการกำหนดวิธีการสร้างแรงจูงใจทั้งในรูปแบบที่เป็นเงินรางวัล และการผ่อนคลายกฎระเบียบต่าง ๆ โดยเร็วต่อไป

 นายวิรุฬ กล่าวต่อว่า เงินนอกงบประมาณประเภททุนหมุนเวียน ซึ่งปัจจุบันมี 108 ทุน มีสินทรัพย์รวมประมาณ  2.68  ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  25 ของ GDP ในปี 2554 หรือ ร้อยละ 129 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ที่ผ่านมาได้พยายามผลักดันและหามาตรการเพื่อให้ส่วนราชการต่าง ๆ สามารถบริหารงานของ
ทุนหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากเงินของทุนหมุนเวียนต่าง ๆ  

ส่วนหนึ่งเป็นเงินงบประมาณที่รัฐได้สนับสนุนในเบื้องต้น และมีวัตถุประสงค์ที่มีความหลากหลายในแต่ละกองทุน เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพ กองทุนประกันสังคม กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เป็นต้น

“การมอบรางวัลทุนหมุนเวียนปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว โดยการพิจารณาจากคะแนนประเมินผลประจำปี 2553
ซึ่งครอบคลุมผลการดำเนินงานทั้งด้านการเงิน ด้านการปฏิบัติการ ด้านการสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน ซึ่งนำหลักการ Balanced Scorecard : BSC มาประเมิน  โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาภายนอกซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินผล  มากำกับดูแลและติดตามประเมินผล ซึ่งมีทุนหมุนเวียนที่เข้าสู่ระบบประเมินผล จำนวน 81 ทุน ผ่านการประเมินผลและรับรางวัลจำนวน 12 รางวัล แบ่งการพิจารณารางวัลออกเป็น
3 ประเภท ได้แก่ รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น รางวัลประสิทธิภาพเฉพาะด้านดีเด่น และรางวัลการพัฒนาดีเด่น โดย

- ประเภทรางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียนโรงงานในอารักษ์ เงินทุนหมุนเวียนการแสดงเหรียญกษาปณ์และเงินตราไทย  และกองทุนหลักประกันสุขภาพ และชมเชย  2 รางวัล ได้แก่ กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย และกองทุนกีฬามวย

- ประเภทรางวัลประสิทธิภาพเฉพาะด้านดีเด่น ด้านการเงิน ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียนเพื่อจัดทำแผ่นป้ายทะเบียนรถ ด้านการสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียนการผลิตเหรียญกษาปณ์และการทำของ

- ประเภทรางวัลการพัฒนาดีเด่น จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และกองทุนประกันสังคม  และชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และกองทุนคุ้มครองเด็ก

โดยหวังว่ารางวัลที่ได้รับในครั้งนี้จะเป็นความภาคภูมิใจในการปฏิบัติงานแก่ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของ
ทุนหมุนเวียน และเป็นแรงจูงใจสำหรับทุนหมุนเวียนอื่น ๆ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อเป็นแนวทางการบริหารงานและพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้นต่อไป” นายวิรุฬ กล่าว

 

 

หมายเลขบันทึก: 482484เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2012 14:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 09:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท