ย้อนกลับไปไม่ถึงเดือน ภาพแรกในศรีลังกาคือภาพ....เขาบอกว่าอะไรที่เป็นครั้งแรกมักจะตื่นเต้น ประทับใจและไม่รู้ลืม ภาพนี้ก็จะเป็นภาพที่ผมจำไว้ไม่รู้ลืมเช่นกัน คืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 ผมนั่งสายการบินแอร์ศรีลังกาบินจากกรุงนิวเดลี ไปยังสนามบินนานาชาติโคลัมโบ กว่าจะถึงโคลัมโบก็ดึกมากแล้ว 23.10 น ทันทีที่ลงจากเครื่องบินก็มีจนท.ฝ่ายพิธีของกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกามารอต้อนรับ เป็นรองอธิบดีพิธี และเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูต ณ โคลัมโบมาต้อนรับทุกคน โดยเฉพาะอทป. ณรงค์ ยุทธกาจกำธร ซึ่งเป็นอุปทูตรักษาการสถานทูตมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2554
เป็นนาทีแรกบนเกาะศรีลังกาและเป็นภาพแรกของผมในคืนแรก ชีวิตต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร คงต้องรอเวลาที่จะผ่านเข้ามาทุกนาที ทุกวันทุกสัปดาห์ทุกเดือนจนกว่าจะถึงเวลาของผม ก็จะเป็นเช่นนี้เอง ตามธรรมชาติ
แรกพบ ผมรู้สึกว่าสนามบินโคลัมโบ แม้ดูไม่ใหญ่กว้างขวางเหมือนสุวรรณภูมิแต่ก็มีบรรยากาศของความสะอาด ห้องรับรองเล็กๆ แต่ก็เรียบร้อยดี นั่งรถจากสนามบินเข้ามาในเมืองเป็นครั้งแรก ถนนหนทางและบ้านเมืองดูไม่ใหญ่โตแต่เรียบร้อยดี เนื่องจากเป็นเวลาดึกมากแล้ว จึงไม่ค่อยเห็นผู้คนตามถนนเท่าใดนัก ทำให้บ้านเมืองดูสงบเงียบ ที่เห็นชัดเจนมาก ก็คือความสะอาดของถนน ฟุตบาทแทบไม่เห็นกองขยะเลย ร้านค้าส่วนใหญ่ใช้กระจกและอาคารดูเรียบร้อย ลงตัว ไม่มีแบบ “ยังไม่เสร็จ” เหมือนในอินเดีย ตึกทั้งหมดที่เห็นฉาบปูนทาสีขาวหรือสีอ่อน ดูสวยงาม สิ่งที่เห็นสะดุดตาเรื่องหนึ่งคือตามสี่แยกหรือข้างถนนเป็นระยะๆ จะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขนาดหน้าตักไม่ต่ำกว่าเมตรครึ่งตั้งอยู่ในศาลาซึ่งจะมีกระจกใสปิดรอบทั้ง 4 ด้าน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านี่คือเมืองพุทธ สองข้างทางจากสนามบินเข้าเมืองผมเห็นวัดพุทธที่มีเจดีย์สีขาวทรงระฆังคว่ำตั้งอยู่สองข้างทางเป็นระยะๆ ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นเพราะมีบรรยากาศคล้ายเมืองไทยมาก
รองอธิบดีพิธีได้กล่าวต้อนรับผมที่สนามบินว่า หวังว่าผมจะมีความสุขในการมาอยู่ที่ศรีลังกา ผมก็ตอบไปว่า ผมก็แน่ใจว่าผมจะมีความสุขในศรีลังกา เพราะทั้งสองประเทศมีสิ่งที่เหมือนกันหลายประการโดยเฉพาะพุทธศาสนา ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งและร่วมกันมาช้านาน ที่สำคัญทั้งสองประเทศต่างเอื้ออาทรกัน ช่วยเหลือกันในการทะนุบำรุงพุทธศาสนา ฟื้นฟูสืบต่อพุทธศาสนาระหว่างกันและกันเสมอมา และสิ่งนี้จะเป็นโซ่ทองคล้องใจประชาชนและประเทศทั้งสองสืบไป
อนาคตเป็นเช่นใด ใจแน่วแน่
คงแล้วแต่ บุญและกรรม ทำมาไฉน
ขอพูดทำ แต่กรรมดี จากหัวใจ
คงจะห่าง ไกลความทุกข์ สุขมาเยือน
ชีวิตของนักการทูต ไม่ว่าประเทศไหน มี 2 ด้านคือด้านที่มีเกียรติยศในฐานะผู้แทนประเทศ อีกด้านหนึ่งคือมนุษย์ธรรมดาที่มีครอบครัว การต้องอพยพไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ เป็นเรื่องสำคัญของครอบครัว เป็นการผจญภัยครั้งใหญ่และครั้งใหม่....
คืนแรกในโคลัมโบ บนเกาะของทศกัณฑ์กับนางสีดา ผมและครอบครัวหลับสนิทด้วยสุขใจยิ่งนัก วันรุ่งขึ้นจะเป็นเช่นใด ยังไม่ทราบ แล้วแต่โชคชะตาและบุญกรรมจะบันดาล แต่ที่แน่ๆ ก็คือผมจะทำทุกวันของ “วันนี้” ให้ดีที่สุด แล้ว “พรุ่งนี้”จะเป็นเช่นไร....ก็ให้เป็นไปก็แล้วกัน
เจริญสุขครับ
สวัสดีค่ะท่านทูตพลเดช แวะมาแสดงความยินดีค่ะ :)
ปล. วันก่อนได้เจอกับ ผอ.กำจัด ในงาน HA Forum ค่ะ ท่านได้เล่าให้ฟังว่าได้พบท่านทูตที่อินเดียด้วยค่ะ ดีใจมากค่ะที่ GotoKnow ทำให้เกิด Interest-based community ของไทยค่ะ
รู้สึกได้ความระทึกใจและประทับใจกับภาพแรกของท่านทูต ในการไปเป็นทูตที่ศรีลังกานี้ด้วยเลยละครับ คงได้ติดตามท่องสังคมและโลกกว้างในศรีลังกาอย่างน่าสนใจไปกับท่านทูตอีกเสมอๆนะครับ
อจ.วิรัตน์ครับ ผมนับวันเลยทุกวันนี้ และก็มีเรื่องที่ตื่นเต้นทุกวัน วันนี้เป็นวันที่ 28 แแล้ว
ก็ยังตื่นเต้นเสมอ ก็พยายามจดบันทึกเพื่อนำมาเล่าต่อ
อ้อ เพื่อความตื่นเต้น ผมเริ่มคุ้นกับเพลงชาติศรีลังกาแล้ว เพราะมีคำว่า นะโม นะโม นะโม มาตา
ขอบคุณทุกดอกไม้กำลังใจครับ
มาร่วมยินดีที่ท่านทูตได้เป็นตัวแทนประเทศ ในดินแดนพุทธศาสนา ค่ะ
เป็นอีกประเทศที่สนใจไปเยือนสักครั้ง
จะมาติดตามประสบการณ์ผ่านบล็อกของท่านนะค่ะ
ขอบคุณครับคุณหมอ ศรีลังกาต้องไปเยือนครับเพราะมีพระเขี้ยวแก้ว
ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนพระพุทธองค์ได้ดีครับ ส่วนต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้นก็ถือว่าเป็นต้นแรกและเก่าที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
มีภาพและเรื่องการยื่นพระราชสาส์นครับ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/481908
เรือนาวาชีวิตพิสมัย
ล่องลอยไปตามธาราอธิษฐาน
ให้ถึงฝั่งวิจิตราอลังการณ์
คนสำราญ งานสำเร็จ เหตุมงคล
แม้เรือน้อยถอยแรงจงแข็งกล้า
ลมบนโหมนาวาอย่าสับสน
ขอให้ปีกศรัทธามาล้อมวน
โอบกมลคนดีศรีลังกา
........
ขอแสดงความยินดี ในวันดีดี นะคะพี่โยคี
สวัสดีครับอาจารย์พลเดชครับ
ผมมาร่วมแสดงความยินดี และเป็นกำลังใจให้อาจารย์ด้วยนะครับ
ขอบคุณกลอนจากคุณตันติราพันธ์หรือลูกโยคีน้อย ซึ่งยังมีความเรียบง่ายและไพเราะเสมอ
และยินดีด้วยที่ได้ไปทัวร์อินเดียอีกครั้ง และได้พบกับเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจ
หากเราเป็นผู้มองได้ถูกและมองเป็น ที่ไหนก็ล้วนมีธรรมะและธรรมชาติให้เรียนรู้ทั้งนั้น
กำลังเรียนรู้ศรีลังกาอย่างตั้งใจ เพื่อนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไป
ภาพสวยครับ ทำให้ผมนึกถึงชายทะเลทางใต้ของเกาะศรีลังกา ซึ่งชาวประมงจะมีวิธีการตกปล่าแบบปักไม้และยืนบนไม้นั้นตกปลา
ยังไม่มีภาพมาฝากครับ แต่จะหาเวลาถ่ายภาพมาฝากกันด้วยตัวเอง
ผมคิดว่าโชคดีเหลือเกินที่โลกนี้ยังมีแสงแห่งความดี ส่องให้เห็นตามธรรมชาติ...ในทุกที่ ทำให้เรามีความหวังในการดำรงชีวิตต่อไป
เจริญสุขครับ