นิสิตชั้นปีที่หนึ่งคณะศึกษาศาสตร์ สอบเข้ามหาวิทยาลัยในคะแนนผลการสอบที่สูงลิ่ว ในช่วงของกระแสของความเป็นครูที่มาแรง จนอาจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น นิสิตที่เรียนคณะวิศวะ สอบได้เป็นลำดับที่สอง "แล้วเธอเลือก คณะอะไรเป็นอันดับที่หนึ่ง" "ศึกษาศาสตร์ครับ" เด็กนิสิตตอบ ปรากฏการความนิยมความเป็นครูเกิดขึ้นไม่ใช่ที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพียงแห่งเดียว แต่ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นิสิตเลือกคณะศึกษาศาสตร์ เป็นหมื่นคน แต่คณะสามารถรับได้เพียง ห้าถึงหกร้อยคน
กวาดใบไม้เพื่อฝึกสติ ไม่ใช่กวาดเพื่อให้เสร็จ คือสิ่งที่หลวงพอสอน |
ผมลองตรวจสอบคะแนนสอบเข้าจากคะแนนโอเน็ต เอเน็ตดู คะแนนสูงสูดของศึกษาศาสตร์ เทียบเท่ากับคะแนนระดับเดียวกับคณะเภสัชศาสตร์เลย เรียกว่า นักเรียนสามารถใช้คะแนนระดับนี้เลือกเข้าเรียนในคณะเภสัชศาสตร์ได้เลย
คะแนนสอบเข้าที่สูงมากทำให้อาจารย์ในคณะศึกษาศาสตร์ หลายคนดีใจ ว่าคราวนี้เราได้เด็กเก่งมาเรียนครูแล้ว แต่ท่ามกลางความดีใจนั้น เราก็มีคำถามอยู่ในใจว่า แล้วเด็กเก่งเหล่านี้ นอกจากเป็นคนเก่งแล้ว เค้ายังเป็นคนดีด้วยหรือไม่ เค้ามีความศรัทธาต่อความเป็นครูมากน้อยเพียงใด แล้วเราครูที่ทำหน้าที่สอนครู จะมีวิธีหล่อหลอมความเป็นครูในตัวเค้าเหล่านั้นหรือไม่.....
ตีห้าสี่สิบห้าหลังทำวัดเช้านิสิตทั้งหญิงและชายจะเดินตามบาตรหลวงพ่อเพื่อรู้จักชุมชน |
คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ คนใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ มีแจ้ง บอกกับพวกเราเสมอว่าการจะรับคนเข้ามาเป็นครูนั้นเราไม่ใช่ว่าจะรับแต่คนเก่งเข้ามา แต่เราต้องรับคนที่มีความศัทธาในวิชาชีพครูมาด้วย "สิ่งที่ผมต้องการจะพัฒนาคือความเป็นครูมืออาชีพ" ดร.สำราญ กล่าวในที่ประชุม
เก็บกวาดเศษใบไม้หลังจากกลับมาจากตามบาตรหลวงพ่อ |
แต่ถ้าดูแนวทางที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภูฟ้า เสวกพันธ์ รองคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ ฝ่ายกิจการนิสิต ที่วางแนวทางการพัฒนาความเป็นครูมืออาชีพ ผ่านกิจกรรมสำหรับนิสิตครูที่ต้องอยู่หอพัก ในปี การศึกษา ๕๕ เป็นต้นไป ตลอดทั้ง ๔ ปีแล้ว ละก็เราคิดว่าเราคงจะได้นิสิตที่มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูอย่างแน่นอน
ทำความสะอาดบริเวณที่ฉันอาหารของพระที่มาปฏิบัติธรรม 509 รูป |
แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ที่จะหล่อหลอมให้นิสิตของเรามีภูมิคุ้มกันตนเอง ก่อนที่จะถูกสิ่งแวดล้อมร้านเหล้า ร้านบันเทิงหลังมอ หลอกล่อ ยั่วยุให้กับวัยรุ่นที่เพิ่งจะมีอิสระเสรีในตนเองที่เพิ่งจากอกพ่อแม่มาอยู่ในรั้วสีขาวของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ต้องตกไปในความสนุกสนานจนเพลิดเพลิน
คั้นน้ำมะขามเปียก มีสติรู้ตัว บีบ ปล่อย บีบ ปล่อย |
"เราต้องรีบให้วัคซีน ความดี ความงาม และจิตอาสา" อาจารย์แอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทิพรัตน์ สิทธิวงค์ อาจารย์สาวสวยผู้สอนวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีความสนใจ เรื่องพระ เรื่องเจ้า และเคยไปปฏิบัติธรรมสงบจิต สงบใจในช่่วงสั้นๆ มาแล้วติดใจเห็นว่าดี ชวนว่า "แอนว่าจะพานิสิตปีหนึ่งสาขาเทคโนคอมฯ ไปปฏิบัติธรรม" ผมซึ่งอยากเห็นกิจกรรมแบบนี้เกิดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว (ปีที่แล้ว อ.สัญญา วันงาม พานิสิตปี 4 ไปพัฒนาวัดที่ผมบวชอยู่) บอกว่า "ดีเลย ทำเลย" ว่าแล้วผมก็ขอให้ อ.กิตติพงษ์ พุ่มพวง ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการทำนุบำรุงศิลปและวัฒนธรรม เป็นต้นเรื่อง โดยผมได้ชวน อาจารย์หนึ่ง ดร.พิชญาภา ยวงสร้อย อาจารย์ใหม่หมาดๆ ของภาควิชาเราเข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับโดยทันทีโดยไม่มีการปฏิเสธ
ช่วยแม่ชีทำกับข้าว สนทนาพูดคุยกับผู้ใหญ่ มีจิตอาสา |
ระหว่างการไปประชุมวิจัย Mix Medthod ที่จุฬา ผมก็ขายความคิดเรื่องนี้ให้กับ ดร.อมรรัตน์ วัฒนาธร รองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ฟัง "งั้นพี่ไปเรียนรู้ด้วย หาเวลาไปมานานแล้ว" ดร.อมรรัตน์ ซึ่งสามี (ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนาธร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา) เคยบอกว่าให้ลองไปฝึกปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน แต่หาเวลาว่างไม่ได้สักที เพราะทำงานบริหารมาโดยตลอด จึงเป็นพันธมิตรที่ดีในการที่จะช่วยพานิสิตไปเรียนรู้ร่วมกัน
ดีมากเลยครับอาจารย์
เลือกฝึกฝนสิ่งที่อยู่ภายใน มากกว่า เลือกฝึกฝนเพียงภายนอก
ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยครับ ;)...