คิดแบบผู้นำทำแบบเจ้าสัว 1


ความคิดคือธงนำสำคัญให้แต่ละคนปฏิบัติ

คิดแบบผู้นำทำแบบเจ้าสัว 1 จากการอ่านหนังสือเอามาเล่าต่อครับ...
"ในความสำเร็จ ย่อมมีความยากลำบากซ่อนอยู่"
"ผมไม่มีเคล็ดลับอะไรมากมายในการประกอบกิจการค้าสู่ความสำเร็จ ผมไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย ไม่เคยศึกษาในต่างประเทศ การศึกษาที่ผมได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพของผมนั้นส่วนหนึ่งมาจากการเรียนในโรงเรียน อาจารย์ท่านหนึ่งเคยสั่งสอนผมว่า จงขยัน มีความสื่อสัตย์ มานะบากบั่น ผลสำเร็จจะตามมาเอง" เจ้าสัวสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ผู้นำตระกูลรุ่นที่ 2
"ถ้าคุณอดทน(ผมมองว่าเป็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ)เพื่อจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จคุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลงมือศึกษาเรื่องนั้นๆอย่างเป็นจริงเป็นจัง" เจ้าสัวอนันต์ กาญจนพาสน์ แห่งกลุ่มเมืองทองธานี
"ความขี้เกียจเป็นสุสานฝังคนทั้งเป็น"คำพังเพยของชาวจีนโบราณ
"อย่าเรียกความผิดพลาดว่าเป็นความล้มเหลว ให้เรียกว่าเป็นบทเรียนที่ควรเรียนรู้" ความล้มเหลวเป็นครูของเรา ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ทว่าความล้มเหลวเป็นแต่เพียงความล่าช้าไม่ใช้ความปราชัย แม้จะปราชัยก็เป็นเพียงชั่วคราว"
"จงยิ้มแย้ม เยือกเย็น ยืดหยุ่น ยืนหยัด ยกย่อง จึงเป็นผู้ที่น่าเชื่อถือน่าเคารพนับถือ"
รวงข้าวเปรียบเสมือนมนุษย์ที่มีนิสัยแตกต่างกันบางคนเฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง เก่ง ร่ำรวยและเป็นเศรษฐี แต่แทนที่เขาจะยกตนข่มผู้อื่น กลับทำตัวเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตาและถ่อมตน เปรียบเสมือนรวงข้าวที่สุกปลั่งและโน้มน้าวลงต่ำเรี่ยดิน "ความอ่อนน้อมถ่อมตนจะนำพาสู่ความสำเร็จ ความเย่อหยิ่งยโส จะนำพาสู่โทษทัณฑ์มหันต์"
"เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ทีมงานทุกทีมจะต้องมีความมุ่งมั่นที่จะทำงาน เพื่อสังคมอันเป็นแนวทางที่เครือ ซี.พี.ยึดมั่นมาตลอด เพราะถ้าสังคมไทยล้าหลังกิจการของเราจะก้าวหน้าไปได้อย่างไร" นี่คือคำสอนและแนวคิดของผู้นำในการบริหารระดับสูงคนหนึ่งของเครือซี.พี. ที่ไม่เพียงแต่จะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นปรารถนา ในการสร้างทีมงานที่มีคุณภาพ เพื่อการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลเท่านัน ทว่า ยังมุ่งหวังที่จะให้ทีมงานที่มีคุณภาพนี้เป็นทีมงานที่ช่วยเสริมสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่เจริญก้าวหน้าอีกด้วย
"ในด้านการบริหารงาน ผมเชื่ิอในเรื่องของทีมเวิร์ก(Team Work)มากกว่าการเป็นพระเอกคนเดียวเพราะรู้ดีว่างานขององค์กรทำคนเดียวไม่ได้แน่เพราะมีหลายอย่างที่เราไม่รู้และไม่เก่ง จึงต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์อื่นๆเข้ามาช่วยงาน ซึ่งจะต้องทำงานกันเป็นทีม มีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง ภารกิจขององค์กรจึงประสบความสำเร็จด้วยดี ต้องให้ความเคารพและความไว้วางใจเขาอย่างเต็มที่ ใครทำดีก็ต้องปูนบำเน็ญบำนาญให้อย่างพอเพียงโดยไม่ต้องร้องขอ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจในการครองใจคน และเป็นการสร้างความจงรักภักดีต่อองค์กรอย่างแท้จริง ผมมีสูตรในการบริหารงานง่ายๆอย่างนี้แหละครับ และก็ดูจะได้ผลดีเสียด้วย" หน้าที่ของผู้บริหารสูงสุดก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการฟัง การคิด และการตัดสินใจ ส่วนงานสำคัญๆในด้านปฏิบัติและบริหารอื่นๆก็ต้องมอบความรับผิดชอบให้แก่ทีมงานและผู้บริหารระดับต่างๆทำไป_เจ้าสัวชาตรี โสภณพนิช ผู้สร้างอาณาจักรธนาคารกรุงเทพ

บิลล์ เกตส์ ตระเวณเยือนตัวแทนที่ไม่รู้จักหน้าค่าตาเป็นเวลาเกือบ 10 ปี แล้วจึงตกลงขายลิขสิทธิ์ในการจำหน่ายให้
ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดก็คือทรัพยากรมนุษย์ จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มศักยภาพแก่ทรัพยากรมนุษย์
สรุปว่าการทำงานเป็นทีมเกิดขึ้นจากปัญหาที่ว่า ไม่มีใครคนไหนที่เก่งหรือสมบูรณ์ไปเสียทุกอย่าง ทว่าแต่ละคนล้วนแต่เก่งหรือมีความสามารถ รวมทั้งมีบุคลิกภาพ มีประสบการณ์ และมีความรู้แตกต่างกัน จึงต้องรวมพลังความเก่งของแต่ละคนเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะใช้ความสามารถพิเศษที่แต่ละคนมีอยู่ผสมผสานกัน ก่อให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน
"แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง" คือ "การแสวงหาความร่วมมือ ละเว้นข้อแตกต่างที่อาจจะมี"
บางครั้งต้องแยกกันเดิน บางครังต้องรวมกิจการกัน เติบใหญ่ไปด้วยกัน

เมื่อมุ่งมั่นจะทำการใหญ่ อย่ามัวใส่ใจเรื่องเล็กน้อย_ผู้ที่คิดแต่เรื่องเล็ก มิอาจจะทำงานใหญ่ได้สำเร็จ
"ความคิดคือธงนำสำคัญให้แต่ละคนปฏิบัติ"

การแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆดำเนินไปบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่ใช้แก้ปัญหาอย่าง "จิตนิยม" คือคิดฝันเอาเอง วิเคราะห์และประเมินตามความคิดของตัว หรือตัดสินใจโดยปราศจากข้อเท็จจริง
เจ้าสัวชิน_ไม่ว่าจะขยายกิจการใด หรือขยายสาขาธนาคารกรุงเทพไปเปิดบริการในประเทศใดมักจะมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบ ทำการศึกษาค้นคว้าสภาพพื้นที่ และสภาพบุคคลในแต่ละท้องที่จะไปลงทุนให้ถ่องแท้ก่อนเสมอ

     สำหรับมุมมองของผม
การจะประสบความสำเร็จใดๆย่อมต้องใช้อะไรมากมาย ก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆนาๆ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และลงมือกระทำอย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถ อย่างมีวินัย การบริหารคน มองทุกคนคือเพื่อนร่วมงานในแบบที่ทุกคนสามารถร่วมงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความแตกต่างแปลเปลี่ยนเป็นความสร้างสรรค์ มองอุปสรรคคือบันไดแห่งความสำเร็จ มองความล้มเหลวเป็นบทเรียน สร้างเป้าหมายที่ท้าทาย อยู่กับจังหวะชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัด หม่เสียเวลากับการ "สงสัย" หนักแน่นในการตัดสินใจ รับผิดชอบกับผลลัพธ์ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และผมสามารถทำมันให้เกิดขึ้นได้ในทุกฝันที่ผมใฝ่ ผมเป็นความสำเร็จนั้น ผมคือ _โค้ชต้อม_ทุกคนทำได้

Coach TOM

หมายเลขบันทึก: 479766เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2012 16:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 15:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท