“กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี”

     การจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี   ได้มีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ.2555 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำสำหรับการลงทุน การพัฒนาอาชีพ การสร้างโอกาสในการทำงาน และสร้างรายได้ การพัฒนาศักยภาพสตรี และเครือข่ายสตรี การเพิ่มบทบาท และสร้างภาวะผู้นำสตรี การเฝ้าระวังดูแลปัญหา และการช่วยเหลือเยียวยาสตรี การคุ้มครอง และพิทักษ์สิทธิ ตลอดจนการส่งเสริม และการพัฒนาไปสู่การสร้างสวัสดิภาพ และสวัสดิการแก่สตรี ผ่านองค์กรสตรีในทุกจังหวัดของประเทศไทย สตรี และองค์กรที่จะสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มี 2 ประเภท คือ 1. สมาชิกประเภทบุคคลธรรมดา ได้แก่ สตรีผู้มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป และมีภูมิลำเนา หรือ ถิ่นที่อยู่ หรือ เป็นผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือ อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน หรือ ชุมชนที่ขอขึ้นทะเบียนไม่น้อยกว่า 6 เดือน 2.สมาชิกประเภทองค์กรสตรี ได้แก่ มูลนิธิ หรือ สมาคมที่มีที่ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบล หรือ จังหวัดที่ขอขึ้นทะเบียนไม่น้อยกว่า 6 เดือน ที่ได้ดำเนินงาน และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในความรับผิดชอบเสียสละ หรือ มีส่วนร่วมในการทำประโยชน์แก่สังคมเกี่ยวกับการทำงาน การฝึกอาชีพ การพัฒนาการช่วยเหลือ หรือ การคุ้มครอง และพิทักษ์สิทธิสตรี.

“กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญยิ่งของ “ชาวกศน.” ในขณะนี้ เพราะเป็น “นโยบายรัฐบาล” ยุค “ผู้หญิงแถวหน้า” อย่างคุณยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่ต้องการให้มี “คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ในระดับตำบลและระดับจังหวัด” และสืบเนื่องจากพวกเราชาวกศน.ได้สร้างผลงานไว้เมื่อครั้ง “มหาอุทกภัย” ปี 2554 ทำให้รัฐบาลจึงเทใจและเชื่อใจว่าพวกเราชาวกศน. “ทำได้”

           นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล กล่าวว่า “เป็นงานนโยบายรัฐบาล ซึ่งคนที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนสตรี จะมีสิทธิในการเลือกตั้งคณะกรรมกองทุนสตรีและมีสิทธิในการกู้เงินในโครงการนี้ ซึ่งเงินโครงการนี้จะมีอยู่ 100 ล้านบาท โดยจะจัดสรรให้ตามความเหมาะสมของแต่ละจังหวัด 

          เวลาประมาณ 13.30 น. นายประเสริฐ  บุญเรือง เลขาธิการสำนักงาน กศน. ได้มามอบนโยบายและแนวทางการทำงานตรงนี้ให้ประสบความสำเร็จ

          นายประเสริฐ  บุญเรือง กล่าวว่า ขอให้ทุกคนใส่ใจและมีความรับผิดชอบ และขอชื่นชมในความเสียสละ โดยจะมอบวุฒิบัตรให้ทุกคน ให้กลุ่มส่งเสริมปฏิบัติการเป็นผู้ทำวุฒิบัตร สำหรับรางวัลใหญ่หากจังหวัดใดที่ทำผลงานบรรลุตามเป้าหมายและเป็นข้อมูลที่มาตรฐานและใช้ประโยชน์ได้เลย จะได้รับการคัดเลือกไปศึกษาดูงานในประเทศฮ่องกง ภาคละ 1 จังหวัด  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเดินทางมาศูนย์วิทย์รังสิตในวันที่ 24 ก.พ.55 และในวันที่ 29 ก.พ. 55 เพื่อแถลงข่าวการปิดงาน

          เลขาธิการสำนักงาน กศน. กล่าวต่อไปอีกว่า วันสุดท้ายปลายทางจะต้องคีย์ข้อมูลอย่างต่ำๆ 10 ล้านคนขึ้นไป ทำให้อัตราเฉลี่ยสตรี 3 คนต้องสมัคร 1 คน เนื่องจากทั่วประเทศมีสตรี ประมาณ 35 ล้านคน และข้อมูลสรุปทุกอย่าง เมื่อปิดการรับสมัครแล้ว จะต้องส่งให้กับนายอำเภอทุกคนของแต่ละจังหวัด ภายในวันที่ 2  มีนาคม 2555

         

         สำหรับ กศน.อำเภอไทรน้อย ได้มีการประชุมวางแผนในรดำเนินการสมัครสมาชิก และมอบหมายงานให้ กศน.ตำบลได้ลงพื้นที่  โดยการขอความร่วมมือกับเครือข่าย ทั้งผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน แกนนำชุมชน หัวหน้าส่วน กลุ่มสตรี อสม.  การประชาสัมพันธ์ทั้งป้ายประชาสัมพันธ์และคลื่นวิทยุชุมชน  หลังจากลงพื้นที่ในวันอังคารปรากฏว่าผู้หญิงสนใจสมัครเป็นจำนวนมากจากสื่อวิทยุ โทรทัศน์และจากการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่เอง 

        เนื่องจากความคลาดเคลื่อนของการสื่อสารในการเก็บข้อมูลใบลงทะเบียนทำให้ 3 วันแรกของการสมัคร กศน.อำเภอไทรน้อยจึงมีจำนวนผู้รับสมุครจำนวนน้อยนิด แต่คาดว่านับตั้งแต่วันวันนี้เป็นต้นไป จะมีผู้สมัครมากขึ้นเรื่อยๆ