ก่อนเริ่มต้นภาคเรียนวิมังสา วันศุกร์สุดท้ายของการปิดภาคเรียน (๑๗ ก.พ.๕๕) คุณครู ๙ คน และคุณครูคู่ชั้นที่เคยทำการเปิดชั้นเรียนเมื่อ ๒ ภาคเรียนที่ผ่านมาได้มานั่งล้อมวงคุยกันเพื่อสรุปประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในช่วงที่ได้ทำการเปิดชั้นเรียนไป
ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มครูที่ได้ร่วมเรียนรู้ไปกับกิจกรรมการเปิดชั้นเรียน คือ การได้เปิดมุมมอง เปิดสายตา และเปิดตัวครูให้ก้าวขึ้นสู่กระบวนทัศน์ใหม่ แต่ละก้าวย่างที่พานพบ ล้วนเป็นก้าวที่มีความหมายสำคัญยิ่ง
ประสบการณ์ชุดนี้เปลี่ยนครู
...จากที่เคยเริ่มจากการออกแบบแผนการสอน ไปสู่การออกแบบบันไดการเรียนรู้
...จากความคุ้นชินว่าครูสอนอะไรไปแล้วบ้าง ไปสู่การเริ่มคิดไตร่ตรองจาก มี met before อะไรบ้างที่เป็นย่างก้าวของเด็กจริงๆ
...จากที่ครูเคยเป็นผู้สอน ไปสู่การเปิดโอกาสให้เด็กเป็นผู้ขับเคลื่อนการเรียนรู้
...จากที่เคยวางกรอบให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ที่ครูชี้นำ ไปสู่การ “คืนการเรียนรู้ให้กับเด็ก”
และเมื่อครูเริ่มคืนการเรียนรู้ให้กับเด็ก ครูก็เริ่มมีสายตาใหม่ ที่ช่วยให้ครูมองเห็นตัวเอง มองเห็นตัวเด็ก มองเห็นบทบาทของครู มองเห็นอาการของการเรียนรู้ มองเห็นการตื่นขึ้นของผู้เรียน
คุณครูปาด – ศีลวัต กล่าวสรุปคุณค่าของประสบการณ์ชุดนี้ว่า
เพียงครูได้ยินความคิดเห็นของเด็ก เด็กคนนั้นก็ตื่นขึ้นจากความหลับใหล
การตื่นขึ้นของเด็ก เป็นการตื่นขึ้นรับรู้ของตัวชีวิต เป็นกลไกของธรรมชาติ
เพียงครูรับรู้การมีอยู่ และอยู่เป็นประจักษ์พยานในความสำเร็จ และความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับเขาอย่างกรุณาและสร้างสรรค์ เขาก็จะรับรู้ตัวเองอย่างกรุณาและสร้างสรรค์
เพียงแค่เขารับรู้ตัวเอง เขาก็จะตื่นขึ้น และดำรงอยู่บนโลกนี้อย่างมีคุณค่า
เพียงครูเปลี่ยนสายตาและการรับรู้ มารู้จักกับการสอนให้เกิดผู้เรียนที่ไม่ใช่ผู้ถูกสอน ครูก็เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน
ขั้นตอนทั้งหมดเป็นเครื่องมือที่รอให้ครูเอาใจของครูไปอยู่ที่ใจของเด็ก ไปอยู่ที่ภาวะของเด็กนักเรียน ด้วยการใส่จิตวิญญาณของครูลงไปในกระบวนการที่สร้างขึ้น
เมื่อสายตาครูเปลี่ยน เด็กเปลี่ยน เพื่อนครูเปลี่ยน เพื่อนเด็กเปลี่ยน ทั้งหมดเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวครู
ไม่มีความเห็น