วาเลนไทน์สวีตตี้ : Valentine Sweety
ผู้กำกับ ฤกษ์ชัย พวงเพชร
ประเภทหนัง Romantic/Comedy
ภาพยนตร์ภาคต่อจาก ส.ค.ส. สวีตตี้ ที่มีดาราดังคับคั่งผลัดเปลี่ยนมานำเสนอมุมมองของความรักในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์
วาเลนไทน์สวีตตี้ เสนอเรื่องราวความรักต่างมุมมองระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง การหาจุดพอดีของคำว่าความรัก อีกทั้งยังบอกว่าความรักไม่ได้เป็นเพียงเรื่องระหว่างคนสองคน มีครอบครัวเพื่อนและคนรอบข้างเป็นส่วนประกอบด้วย
มีหลายประเด็นที่ทำให้คู่รักต้องทบทวนว่า อะไรคือความรักที่แท้จริง อะไรคือความลงตัวของความรักและองค์ประกอบที่สำคัญของความรักมีอะไรบ้าง ในสภาวะที่แตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงทำให้มุมมองเรื่องความรักนั้นย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการมองความแตกต่างอย่างเข้าใจแล้วทำการปรับเปลี่ยนให้ลงตัวเหมาะกับคู่ของตนเองมากที่สุด
จุดเด่นของหนังนั้นต้องยกให้กับบทสนทนาฉลาด ๆ เล่นคำ ที่ได้ยินแล้วกินใจ เก็บไปคิดต่อได้ ซึ่งผมคงไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่าง ความฉลาดของบทนั้นเป็นจุดเด่นและจุดขายของผู้กำกับ ฤกษ์ชัย พวงเพชร ที่หลายคนชื่อชอบจากภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องที่ผ่านของเขา
และเช่นกัน การตัดฉาก เปลี่ยนฉากที่อาจจะขัดใจก็เป็นจุดเด่นของผู้กับกับคนนี้เช่นกัน
สำหรับภาคต่อนี้ ส่วนตัวผมเองนั้นชอบฉากแสดงอารมณ์มากที่สุด โดยเฉพาะดารานำฝ่ายหญิงที่เล่นได้ดีมากจนผม “อิน” น้ำตาซึมไปกับเรื่อง เช่นฉาก สายป่านทวงคำสัญญาที่โก๊ะตี๋สัญญาไว้ ฉากสายป่านพูดกับหมอที่โรงพยาบาลเพื่อบอกหมอว่าความรักของครอบครัว การดูแลคนที่รักด้วยตัวเองนสำคัญแค่ไหน ฉากจ๋าทะเลาะกับบีมเพราะต่างคนต่างไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ฉากยิปโซบอกรักโทนี้เพื่อนสนิทของเธอ ฉากอารมณ์แบบนี้ผมต้องยกนิ้วให้กับ ฤกษ์ชัย พวงเพชร เช่นกัน เพราะแทบไม่เคยเห็นฉากอารมณ์ยาว ๆ แบบนี้ในหนังของเขา
ดาราฝ่ายหญิงเล่นได้ดีมากมากกว่าฝ่ายชาย ที่ผมชอบคือ ยิปโซ สายป่าย และ จ๋า สามคนนี้คือตัวเอกของเรื่องและอธิบายความหมายของคำว่ารักในมุมมองของแต่ละคนได้ดีที่สุดเท่าที่ผมรู้สึก
นี่คือหนัง Feel Good ที่ดีที่สุดของ ฤกษ์ชัย พวงเพชร และผมมีความเชื่อว่า หลังจากหนังเรื่องนี้แล้ว ฤกษ์ชัย พวงเพชร คงจะหยุดการทำหนังแนวนี้ไปนานพอสมควรแล้วหันไปทำหนังแนวอื่นบ้าง
กุมภาพันธ์นี้ ช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้ วาเลนไทน์สวีตตี้ เหมาะสำหรับการจูงมือคนที่คุณรักเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์แล้วออกมาพร้อมกับรอยยิ้มครับ
วาทิน ศานติ์ สันติ
ดูเมื่อ ๑๖ กุภาพันธ์ ๒๕๕๕
บัตรราคา ๑๖๐ บาท
เมเจอร์ซีนีเพล๊กซ์ปางกะปิ
ยังไม่ได้ชม แต่แอบนิยม และอมยิ้ม ขอบคุณค่ะอาจารย์