ในช่วงที่ผ่านมาชาวไร่มันยังคงต้องเผชิญกับปัญหาการระบาดของเพลี้ยแป้งอยู่ เพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพูยังมีอยู่ แต่ความรุนแรงต่างกันตามเงื่อนไขการปฏิบัติของเกษตรกรและการตกของฝน จากการเดินทางสำรวจในบางพื้นที่ยังพบพื้นที่ที่กลับมารุนแรงอีกโดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังมีการใช้สารเคมีฉีดพ่น ระบบการปลูกมันแบบอุตสาหกรรม ไม่ได้เป็นเจ้าของทำเองยังกระตุ้นการระบาดด้วยการฉีดพ่นสารเคมีอยู่เนื่อง ๆ ทั้ง ๆ ที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำให้แช่ท่อนพันธุ์ก่อนปลูก การแช่หมายถึงแช่นานประมาณ 5-10 นาที ก่อนปลูก และหากเริ่มพบการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูให้นำแตนเบียนมาปล่อย ปีนี้หลายหน่วยงานผลิตได้และสามารถหามาปล่อยได้ง่าย เช่น หน่วยงานของกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร มูลนิธิฯ(ห้วยบง) 088-341-8352 แต่ด้วยเงื่อนไขการจ้างแรงงาน ทำให้ถูกปฏิเสธการแช่ท่อนพันธุ์ หรือให้เพียงจุ่ม และฉีดพ่นไปที่ท่อนพันธุ์ทำให้การควบคุมไม่มีประสิทธิภาพ แต่หากมั้นใจว่าท่อนพันธุ์สะอาดไม่มีเพลี้ยแป้งติดมา และในพื้นที่ปลูกไม่เพลี้ยแป้งมาก่อนก็อาจทำได้ แต่ต้องหมั่นตรวจแปลง การบำรุงต้นให้แข็งแรงยังช่วยลอการระบาดของเพลี้แป้งได้ พันธุ์ที่มีไซยาไนด์มากไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชอบหรือไม่ชอบของเพลี้ยแป้ง จากการสังเกตุหลายแปลงหลายพื้นที่พบว่าพันธุ์ห้านาทีซึ่งมีไซยาไนด์ต่ำกลับเป็นพันธ์ที่เพลี้ยแป้งเข้าทำลายทีหลัง หรือไม่ทำลายเลย นำเรื่องนี้มากล่าวเนื่องจากมีผู้นำไปเกี่ยวโยงเรื่องพันธุ์ต้านทางกับเปอร์เซนต์ไซยาไนด์ ซึ่งไม่ถูกต้อง การบำรุงต้นให้แข็งแรงจะช่วยทำให้สารเคมีบางชนิดในต้นมันสำปะหลังเปลี่ยนแปลง เช่น รูทิน(rutin) รินามาริน(linamarin)
ขอบคุณครับ วลัยพร ให้ความรู้ ดีมาก
ใบไหม้|เกษตรน่ารู้|ปุ๋ย
จริงครับ เกษตรกรส่วนมากถูกแรงงานปฎิเสธการแช่ท่อนพันธุ์ เพราะแช่ท่อนพันธุ์แล้วปลูกทั้งที่ท่อนพันธุ์ยังเปียกอยู่มันอัีนตราย แต่ที่ไร่ จะแช่ท่อนพันธุ์ก่อน 1-2 วันถึงจะปลูก จะแช่เป็นมัด ตัดหัว ท้าย จะเอาส่วนที่จะปลูกจริง จริง ลงแช่ในบ่อที่เตรียมแล้วเอาขึ้นจากบ่อตั้งไว้ในร่ม 1-2 วันจึงจะตัดท่อนปลูก ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องแรงงาน