ตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) เริ่มเข้ามามีบทบาทในการลงทุนสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นทุกวัน ผู้ลงทุนทั่วไปจึงมีความจำเป็นต้องทำการศึกษาถึงกลไกการทำงานของตราสารอนุพันธ์ให้มากขึ้น เพราะตราสารอนุพันธ์นั้นจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในอนาคต ที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสินทรัพย์สามารถป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนได้ด้วยตนเอง
ตราสารอนุพันธ์ที่เป็นที่รู้จักและมีใช้ในประเทศไทยมาค่อนข้างนาน คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Forward Contract) ของเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นการทำข้อตกลงกันระหว่างผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกสินค้าและบริการ กับธนาคารพาณิชย์ โดยที่ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกทำการป้องกันความเสี่ยงโดยการทำการซื้อหรือขายดอลลาร์ล่วงหน้ากับธนาคาร
ในช่วงระยะเวลา 4 – 5 ปีที่ผ่านมานักลงุทน นักเก็งกำไร และผู้ที่ต้องการใช้ตราสารอนุพันธ์ในการป้องกันความเสี่ยงในประเทศไทย ได้รู้จักกับตราสารอนุพันธ์อีกประเภทหนึ่งคือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures Contract) ของสินค้าเกษตร ซึ่งดำเนินการซื้อขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (Agricultural Futures Exchange of Thailand: AFET) ซึ่งในปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเกษตรหลายประเภท เช่น ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ยางแท่งเอสทีอาร์ 20 แป้งมันสัมปะหลังชั้นพิเศษ น้ำยางข้น มันสำปะหลังเส้น ข้าวขาว 5% Both Options ฯลฯ
ซึ่งสัญญาการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแบบปกติในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยนั้น เป็นสัญญาการซื้อขายล่วงหน้าแบบ Physical Delivery คือเป็นสัญญาที่ต้องมีการส่งมอบสินค้าตามที่ตกลงกันในสัญญา แต่สัญญาซื้อขายข้าวขาว 5% แบบ Both Option เป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนในการตัดสินใจว่าจะให้มีการส่งมอบสินค้าในอนาคตกันจริง ตามรูปแบบของ Physical Delivery หรือจะเป็นแบบการชำระราคาตามราคาตลาดแบบ Cash Settlement คือการชำระผลกำไรและขาดทุนจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเป็นการยุติภาระผูกพันในการส่งมอบสินทรัพย์ตามสัญญา
และใน 2 – 3 ปีที่ผ่านมานักลงทุนได้รู้จักกับตราสารอนุพันธ์ชนิดใหม่คือ SET50 Index Futures เป็นตราสารอนุพันธ์ที่ออกมาเพื่อใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนของนักลงทุนทั่วไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนสถาบัน หรือผู้บริหารกองทุนรวมต่าง ๆ เพราะการลงทุนใน SET50 Index Futures นั้น จะเป็นวิธีการช่วยในการลดความเสี่ยง คือ หากผู้ลงทุน หรือผู้บริหารกองทุนรวมต่าง ๆ ได้ลงทุนในหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นสามัญที่ถูกบรรจุในการนับเป็นค่าดัชนี SET 50 อยู่แล้ว แต่เกรงว่าราคาหุ้นจะเกิดการผันผวน ไม่เป็นไปที่คาดการณ์ไว้ในอนาคต ผู้ลงทุน หรือผู้บริหารกองทุนอาจทำการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนนั้นได้โดยการซื้อหรือขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ประเภท SET50 Index Futures ซึ่งสัญญาประเภท SET50 Index Futures นี้ มีซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ประเทศไทย
และในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา ตลาดอนุพันธ์ประเทศไทย ได้ออกตราสารอนุพันธ์ประเภทนี้ให้จำหน่ายให้แก่นักลงุทน และนักลงุทนประเภทสถาบัน คือ SET50 Index Option ซึ่งตราสารประเภทออปชั่นนี้จะมีความสลับซับซ้อนมากกว่าสัญญาแบบ Futures มาก เพราะผู้ลงทุนในออปชั่นต้องมีความรู้ในการลงทุนเป็นอย่างมาก ด้วยตราสารอนุพันธ์ประเภทนี้จะมีสัญญาสองด้านคือ สัญญาซื้อ (Call Option) และสัญญาขาย (Put Option) จึงทำให้ตัวสัญญาเองนั้นต้องกำหนดเป็นสัญญาย่อย ๆ ถึง 88 สัญญาในคราวเดียวกัน ผู้ลงทุนจึงจำเป็นต้องมีความรู้ในการลงทุนในตราสารประเภทนี้อย่างลึกซึ้ง
ตราสารอนุพันธ์ นอกจากจะมีสัญญา 3 ประเภทข้างต้น คือ Forward, Futures และ Option แล้ว ตราสารอนุพันธ์ยังคงมีสัญญาอีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ สัญญาแลกเปลี่ยน (Swap Transaction) เช่น สัญญาแลกเปลี่ยนภาระดอกเบี้ย หรือสัญญาแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เป็นต้น
หลังจากได้ทราบถึงบทบาทของตราสารอนุพันธ์ที่จะเข้ามามีอิทธิพลกับการลงทุนในประเทศไทยแล้ว นักลงทุนยังคงมีความจำเป็นจะต้องทำการศึกษาถึงกลเม็ดการลงทุนในตราสารอนุพันธ์อย่างละเอียดก่อนการลงทุน เพราะการลงทุนในตราสารอนุพันธ์นั้นมีความเสี่ยงที่สูงมาก
อ้างอิง
ไม่มีความเห็น