มีนักวิชาการหลายท่าน กล่าวว่าลายผ้าเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ผมกลับบ้านเมื่อปีที่แล้วได้ถ่ายภาพผ้าไหมผืนหนึ่งไว้ แม่บอกว่าอายุร่วมร้อยปีเห็นจะได้ เป็นผ้าที่ป้าของยายทอไว้ตั้งแต่เป็นสาวๆ ใช้ในการห่อหนังสือผูก หรือห่อบาตรพระบวชใหม่ ดูในภาพนะครับ
ผ้าไหมอายุร่วมร้อยปี ของชาวภูไท บ้านนาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง
* ผมเคยเห็นลายผ้าของชาวภูไทที่สะหวันนะเขด ลายคล้ายกันมาก และยังไม่เคยเห็นกลุ่มชาติพันธุ์อื่นที่ลายคล้ายกัน
ชาวภูไทที่ร้อยเอ็ด ภาพจากเวปของชาวร้อยเอ็ด
ชาวภูไท สกลนคร ลายผ้าที่ใช้น่าจะบ่งบอกความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันได้ แล้วในต่างประเทศหละ มีที่ไหนลายผ้าแบบนี้บ้าง
ในลาวน่าจะมีนะครับ
นี่เป็นลายผ้าผู้ไท ที่จีนครับ ผู้ไทในจีน เรียกตัวเองปู้ไต่(ผู้ไท) เป็นกลุ่มชาติพันธ์ส่วนน้อยจัดอยู่ในกลุ่มชาวจ้วงกลุ่มหนึ่ง ผู้ไทในจีนอาศัยอยู่ที่ ตำบล เจิ้นหลง (จินหลง) เขตปกครองตนเองมณฑลกวางสี(จ้วงเป็นคำใหม่เรียกกลุ่มชาติพันธุ์หลายๆกลุ่มรวมกัน เหมือนกับคำว่า คนอิสาน ซึ่งมีทั้งชาติพันธ์ลาว เขมร โคราช ญ้อ ผู้ไทฯลฯ )
คนผู้ไทในเวียตนามนั้นจะมีอยู่มากใน จังหวัด เกาบัง Cao Bang โดยคำว่าผู้ไท ในภาษาเวียตนาม เขียนว่า phutay อ่านว่า ผู้ไท บางทีก็เรียกผู้โท้ หรือผู้โถ ทั้งนี้ผู้ไทเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เล็กๆแยกจากผู้ไทดำ ผู้ไทขาวและผู้ไทแดงต่างหาก ทั้งนี้คนทั่วไปเข้่าใจว่ามีกลุ่มผู้ไท แค่ผู้ไทดำ ผู้ไทขาวและผู้ไทแดงเท่านั้น ทั้งที่มีกลุ่มที่เป็นคนผู้ไท อีกต่างหาก(ที่รอการยืนยัน) ที่เวียดนาม นอกจากผู้ไท ไทดำ ไทขาว ไทแดง แล้วยังมีกลุ่มอื่นอยู่อีกหลายกลุ่มนอกจากผู้ไทแล้ว ก็มีผู้นุง ไทลื้อ ฯลฯ
ผู้ไทเวียดนาม ในหนังสือเล่มนี้กล่าวว่า ชาวผู้ไทเวียดนามมีประมาณ 1,328,725 คน ในปี 1999 อาศัยอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ในหลายจังหวัด
ขอบคุณครับอาจารย์สุเทพ เดี๋ยวผมจะเขียนใหม่ จำความมิได้แล้วครับ
2 วันก่อนไปขายของที่เมืองทอง เหลืองไปเห็นบูทชาวภูไทหลายบูท เลยแวะเข้าไปพูดคุย ภาษาเดียวกัย ประสาคนคิดฮอดบ้าน เลยได้ของฝากคุณแม่มาหนึ่งชิ้น สนนราคาแล้ว เมื่องรวมกับความอุตสาหะและเวลาที่ใช้ในการถักทอ ถือว่าไม่แพงเลยครับ
พี่สาวคนที่ทอบอกว่า ทอเอง กับมือ ครับ ร้านนี้ นายกหญิง เพิ่งมาซื่อไปก่อนหน้าผมไปนิดเดียว พี่สาวเขาบอกว่านายกจะใส่ชุดสาวภูไทไปเปิดงานผู็ไทนานาชาติที่เขาวง วันท่ี 10 มี.ค.55 ครับ
ผูู้เขียนกับพี่สาวที่จำหน่ายผ้าแพรวา แพรวาที่พี่สาวใช้อยู่ ราคาแค่ หกหมื่นเองครับ
ผ้าขิดหรือผ้าเก็บของชาวผู้ไทแถวเมืองกุดสิม จะมีลักษณะเฉพาะคือจะมีเชิงผ้าข้างเดียว ทอด้วยฟืมสิบสองโบราณ(ฟันฟืมจะมีความห่างกว่าฟืมปัจจุบัน)จะทอเป็นสองผืนแล้วเย็บต่อกันให้มีความกว้าง การใช้งานหลักๆก็จะใช้ห่อบาตรเวลาพระบวชใหม่ ใช้ในการห่มศพ(ผู้ไทเรียกดอยศพ)รอเวลาที่ทำโลงศพ ในอดีตบ้านที่เป็นบ้านใหญ่จะมีไว้บ้านละผืน ทอจากไหมที่เลี้ยงเองสาวเองและย้อมสีจากครั่งและเข การเก็บลายนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ทอ ผ้าลักษณะนี้จะพบในหมู่บ้านผู้ไทที่เมืองกุดสิมและบ้านโพน(คำม่วง)เป็นส่วนใหญ่ ส่วนผู้ไทกลุ่มอื่นจะมีบ้างแต่ไม่มาก ที่มีมากในผู้ไทกลุ่มอื่นจะเป็นผ้าที่เรียกว่า ผ้าจ่อง ลักษณะจะต่างกันแต่การใช้งานเหมือนกัน และในกลุ่มผู้ไทเมืองกุดสิมและบ้านโพนจะมีผ้าอีกชนิดหนึ่งคือผ้าแส่ว ซึ่งเป็นต้นแบบของลายผ้า ในบางครอบครัวยังมีผ้าที่บรรพบุรุษนำมาด้วยในคราวที่อพยพ แต่ในปัจจุบันจะมีการผสมระหว่างวัฒนธรรมผู้ไทกับผู้ลาว ทำให้ได้เห็นผ้าลักษณะนี้ที่ทำขึ้นใหม่มีมากขึ้นในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จึงขอฝากให้ผู้อ่านที่มีผ้าลักษณะนี้อยู่ ขอให้เก็บไว้เป็หลักฐานเพื่อสืบค้นประวัติความเป็นมาของชาติพัธุ์ต่อไป
สาวผู้ไทเมิงกุดสิม ขอบคุณครับที่นำความรู้มาแบ่งปัน วันงานผูููููู้ไทนานาชาติ คงได้พบสาวผู็ไทเมิงกุดสิม ลำผู้ไทนะครับ อยากฟังซักกลอน
ผ้าห่อบาตรของชาวบ้านโพน ถูกนำมาวางขายที่ศูนย์แสดงสินค้าเมืองทอง ราคา 5-6 พันบาท เมื่อเทียบกับภูมิปัญญาของบรรพชนผู้ไทแล้ว ราคาไม่แพงเลย ที่สำคัญหากเก็บรักษาดีๆ จะใช้ได้นานนับร้อยปี ที่นำมาวางขาย สอบถามพี่สาวเจ้าของร้าน บอกว่าเป็นของเก่าครับ ไม่ทราบอายุที่แน่นอน