การประเมินผล(Evaluation) เป็นกิจกรรมการวัดผลการดำเนินงาน มีส่วนสำคัญที่ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการประเมินทำให้ทราบถึงผลการดำเนินงานว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่เพียงใด มีข้อบกพร่องอย่างไรบ้าง ต้องปรับปรุงแก้ไขส่วนใด และสามารถนำผลที่ได้ไปใช้ในการวางแผนงานหรือโครงการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันให้ประสบผลสำเร็จได้และใช้ทรัพยากรคุ้มค่าที่สุดการประเมิน การประเมินผลสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการทำงานเริ่มจาก การประเมินก่อนเริ่มโครงการ(Pre evaluation) ในรูปการวางแผนงาน(Planning) การร่างโครงการ(Design) การศึกษาผลกระทบ(Impact assessment) ฯ การประเมินขณะดำเนินการ(On-going evaluation) ในรูปแบบการกำกับติดตาม(Monitoring) การประเมินเพื่อปรับปรุง(Formative) ฯ และการประเมินเมื่อสิ้นสุดการดำเนินการ(Post evaluation) ในรูปแบบการประเมินสรุปรวม(Summative) การติดตามผล(Follow up) เป็นต้น
กระบวนการประเมินผล ประกอบด้วยขั้นตอนที่ต่อเนื่อง 3 ประการ คือ
1. การวัดผล(Measurement) ทำให้ทราบสภาพความเป็นจริงขิงสิ่งที่จะประเมินว่ามีปริมาณเท่าใด มีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการนำไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์
2. เกณฑ์(Criteria) หรือมาตรฐานในการพิจารณาตัดสินคุณค่าของการดำเนินงาน
3. การตัดสิน(Decision) เป็นการชี้ขาดระหว่างผลการปฏิบัติกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ขั้นตอนการวัดและประเมินผล
1. การกำหนดสิ่งที่ต้องประเมิน
2. การกำหนดวิธีการหรือเครืองมือที่ใช้ประเมิน
3. การสร้างหรือเลือกเครื่องมือ
4. การดำเนินการทดสอบเครื่องมือ
5. การตรวจประเมิน
6. การวิเคราะห์และการนำไปใช้
การประเมินผลมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ เป้าหมายและความเหมาะสมในการนำไปประยุกต์ใช้องค์กร
CIPP MODEL (Conttext-Input-Process-Product Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) เป็นการประเมินที่ต่อเนื่องเพื่อให้ได้รายละเอียดต่างๆเพียงพอกับการตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกเป้าหมาย จุดมุ่งหมายการดำเนินงาน การกำหนดยุทธวิธี กำหนดแผนงาน รวมทั้งการปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมและการตัดสินใจเกี่ยวกับการคง ขยาย ยุบ เลิกแผนงานโครงการนั้นๆ โดยจะประเมินทั้ง 4 ด้านดังนี้
1. ประเมินสภาวะแวดล้อม(Context Evaluation) เป็นการประเมินเกี่ยวกับการวางแผนในการกำหนดวัตถุประสงค์ โดยเน้นความสัมพันธ์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ความต้องการ ความจำเป็น กระแสสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ตลอดจนปัญหาชุมชน มีอยู่ 2 วิธีได้แก่ การประเมินเพื่อหาโอกาสและแรงผลักดันจากภายนอก และการประเมินโดยการเปรียบเทียบกับการปฏิบัติงานจริงกับวัตถุประงค์ที่วางไว้
2. การประเมินปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) เป็นการตรวจสอบความพร้อมของปัจจัยนำเข้าหรือการประเมินทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานเช่น คน เงิน วัสดุอุปกรณ์ การจัดการ เป็นต้น
3. การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) เป็นการเลือกใช้วิธีการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ เพื่อติดตามความก้าวหน้า หรือหาข้อบกพร่องและแนวทางการแก้ไข
4. การประเมินผลผลิต(Product Evaluation) เพื่อวัดและประเมินผลสำเร็จ เป็นการประเมินผลที่ได้ทั้งหมดว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ โดยอาศัยรายงานจากสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้นและกระบวนการ เพื่อตัดสินใจยุบ ขยาย เลิก ล้มโครงการ
บาลานซ์สกอร์การ์ด (Balanced scorecard : BSC) โดย Dr Robert S. Kaplan และ David Norton เป็นเทคนิคหนึ่งในการประเมินประสิทธิภาพขององค์กร ซึ่ประกอบด้วยมุมมอง 4 มุมมอง ได้แก่
1. มุมมองด้านการเงิน(The Financial Perspective) ดูในเรื่องระบบการการเงินเป็นสำคัญเช่น กระแสเงินสด ลูกหนี้ เป็นต้น
2. มุมมองด้านลูกค้า(The Costumer Perspective) คูสิ่งที่มีผลกระทบต่อลูกค้าโดยตรง เช่น ความพึงพอใจ เวลาในการรับบริการ เป็นต้น
3. มุมมองด้านกระบวนการและประสิทธิภาพการทำงาน (The Business Process/Internal Operations Perspective) ดูสิ่งที่มีผลกระทบต่อกระบวนการทำงานเช่นเวลาในการทำงาน ผลงาน ผลสำเร็จของงาน เป็นต้น
4. มุมมองด้านการเรียนรู้และเติบโต(The Learning and Growth Perspective) เช่น รายได้ การพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรม เป็นต้น
การประเมินผลการปฏิบัติราชการตาม กพร.
สืบเนื่องจาก ปี 2546 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการและรายละเอียดของแนวทางในการกำหนดกรอบแนวทางและวิธีการสร้างแรงจูงใจให้ข้าราชการปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกำหนดให้ส่วนราชการต้องทำการพัฒนาการปฏิบัติราชการและทำข้อตกลงผลงานกับผู้บังคับบัญชาและจะได้รับสิ่งจูงใจตามระดับผลงานที่ทำข้อตกลงไว้ ภายใต้กรอบการประเมิน 4 มิติดังนี้
1. มิติด้านประสิทธิผล แสดงผลงานที่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของแผนปฏิบัติราชการตามที่ได้รับงบประมาณมาดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
2. มิติด้านคุณภาพการให้บริการ แสดงการให้ความสำคัญการผู้รับบริการในการให้บริการที่มีคุณภาพ สร้างความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ
3. มิติด้านประสิทธิภาพของการปฏิบัติราชการ แสดงความสามารถในการปฏิบัติราชการ เช่น การบริหารงบประมาณ การรัษามาตรฐานระยะเวลาการให้บริการ เป็นต้น
4. มิติด้านการพัฒนาองค์กร แสดงความสามารถในการบริหารจัดการองค์กร เพื่อสร้างความพร้อมในการสนับสนุนแผนปฏิบัติราชการ