ชื่อเรื่อง : รูปแบบพัฒนาศักยภาพครูด้านการ วิจัยในชั้นเรียนโดยใช้ชุดการ
เรียนรู้ด้วยตนเองโรงเรียนวัดวังน้ำขาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การ
ศึกษาประถมศึกษาชัยนาท
ชื่อผู้วิจัย : นายสงบ วงศ์กลม
ปีที่วิจัย : พ.ศ. 2552 – 2553
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อพัฒนาศักยภาพครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองโรงเรียนวัดวังน้ำขาว โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการการพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน 2) เพื่อสร้างชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน 3) เพื่อศึกษาแนวทางการนิเทศติดตามการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน และ 4) เพื่อศึกษาผลการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน ของโรงเรียนวัดวังน้ำขาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท
วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาการพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนวัดวังน้ำขาว โดยสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาศักยภาพครู ในสภาพปัจจุบันและความต้องการที่พึงประสงค์ ตามกรอบของการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน เป็นการเก็บข้อมูลในลักษณะเชิงปริมาณ (Quantitative) โดยการใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งเก็บข้อมูลกับครูโรงเรียนวัดวังน้ำขาว จำนวน 15 คน 2) ขั้นตอนที่ 2 การสร้างชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนวัดวังน้ำขาว โดยการวิเคราะห์เอกสารเกี่ยวกับรูปแบบวิธีการที่ใช้ในการถ่ายทอดความรู้ให้เกิดกับครูผู้สอนเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ขอบข่าย เนื้อหาเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง นำผลการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาศักยภาพครู ที่เกี่ยวข้องกับสภาพปัจจุบันและความต้องการที่พึงประสงค์ ตามกรอบของการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน 3) ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนวัดวังน้ำขาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท โดยการทดลองใช้ชุดการเรียนรู้กับครูผู้สอน จำนวน 3 ครั้ง เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 และครั้งที่ 4 ใช้จริงกับครูผู้สอนโรงเรียนวัดวังน้ำขาว 4) ขั้นตอนที่ 4 การนิเทศติดตามการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยใช้กระบวนการนิเทศภายในโรงเรียนซึ่ง ประกอบด้วย การให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่ครู (Direct Assistance to Teacher) การเสริมสร้างประสบการณ์ทางวิชาชีพ (Staff Development) การพัฒนาหลักสูตร (Curriculum Development) การพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม (Group Development) และการวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) และ 5) ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนวัดวังน้ำขาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท โดยดำเนินการประเมินผลศักยภาพการพัฒนาครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนโรงเรียนวัดวังน้ำขาว เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียน ประเมินพฤติกรรมการสอนของครู ประเมินเจตคติของครูผู้สอนต่อการวิจัยในชั้นเรียน ประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อชุดการเรียนรู้และประเมินผลคุณภาพของผู้เรียน
ผลการวิจัย พบว่า
1. การศึกษาสภาพปัจจุบันในการพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนวัดวังน้ำขาว มีการดำเนินงานในสภาพปัจจุบัน และความต้องการในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนวัดวังน้ำขาว โดยภาพรวมมีการดำเนินงานในปัจจุบันอยู่ในระดับมาก เมื่อนำมาวิเคราะห์ค่าดัชนีของความต้องการจำเป็น ( PNI modified ) ของโรงเรียนวัดวังน้ำขาวแล้วพบว่าการวิเคราะห์ผลการประเมินและกำหนดแนวทางพัฒนา การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยการทำวิจัยในชั้นเรียน มีความสำคัญในอันดับที่ 1
2. การสร้างชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนวัดวังน้ำขาว มีรูปแบบการสร้างและพัฒนานวัตกรรมการพัฒนาศักยภาพครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนวัดวังน้ำขาว มีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในระดับมาก และมีประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เท่ากับ 85.24/82.17 สรุปได้ว่า จากผลการทดลองใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองพบว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด แสดงว่า ชุดฝึก อบรมที่สร้างขึ้นมีคุณภาพสามารถที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาครูผู้สอน
3. การทดลองใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับครูโรงเรียนวัดวังน้ำขาว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท พบว่า มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.24 /82.17
4. การนิเทศติดตามการใช้ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง เรื่อง การพัฒนาศักยภาพของครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนวัดวังน้ำขาว ใช้รูปแบบของการนิเทศภายในซึ่งได้ดำเนินการตามความต้องการของครูผู้สอน โดยการนิเทศติดตามการปฏิบัติการวิจัยของครูผู้สอนทุกคนในโรงเรียนอย่างจริงจัง จริงใจและต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำเป็นการพบปะกันระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศ แบบโคชชิ่ง (Coaching Technique)
5. การประเมินผล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท
5.1 ผลที่เกิดขึ้นกับครูผู้สอน ด้านความรู้ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติ คุณภาพงานวิจัย ในชั้นเรียนของครูผู้สอน และความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการต่อการดำเนินงานการพัฒนาศักยภาพครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
5.2 ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ผลจากการวิจัยพบว่า นักเรียนที่ผ่านกระบวนการทดลองใช้นวัตกรรมชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองของครูผู้สอนในแต่ละรายชั้นเรียนแล้วปรากฏว่า มีสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น
ไม่มีความเห็น