ตอนนี้ในหัวมีเรื่องอะไรดีดขึ้นมานะ เป็นมึน ๆ ขี้เกียจ ๆ อะ ศีลข้อ ๕ ด่างพร้อยเพราะไม่มีสติ เวลางานไม่ตั้งใจทำงาน ศีลข้อ ๒ ลักทรัพย์ด่างพร้อย มาว่าด้วยเรื่องศีลข้อ ๒ หนูดูท่าทางจะด่างพร้อยหนัก เปิดปีใหม่มานี่ ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วมีงานอะไรที่รอทำนะ
-งาน ComMedSci ๗ จังหวัด ที่รอการดำเนินการและตรวจเยี่ยม เพื่อเชียร์และให้กำลังใจ แว๊บ ขึ้นมาว่ายังไม่ได้ประสานเรื่องชุดทดสอบ พูดแล้วโทรเลย กลับมาเขียนต่อ ได้โทรละ แต่เรื่องราวยังไม่ถึงไหน ก็เอาไว้ก่อน
-งานที่กรมอยากให้ทำคือ ทำ Momograph ของสมุนไพร ที่ข้างในรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง แต่พอหันมองใหม่ว่า “มีประโยชน์นะ” ก็อดเอา ถามตนเองอยู่ว่า ถ้าทำก็ต้องเหนื่อยมากอยู่ ทำคนเดียวไม่ไหว อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีน้องช่วยทำเพิ่ม นั่นหมายถึงว่า ต้องจัดเตรียมสถานที่และบุคลากรเพิ่ม ปัญหาของหนูคือ “ใจสู้รึเปล่า” ความรู้ก็พอมีต้นทุน ประสบการณ์ก็คิดว่า “หาเอาข้างหน้าได้” แบบที่เขาเรียกกันว่า “เรียนไปทำไป” เจ๋งกว่า รอเรียนให้จบแล้วค่อยมาเริ่มทำอีก ทำไมตอนนี้หนูยังลังเลสงสัยเรื่องนี้นะ ข้างในที่เห็นเข้าไปคือ
“ความรู้สึก กลัวความล้มเหลว ลึกเข้าไปอีกคือ ความขี้เกียจ”
มันเป็นกิเลสเห็น ๆ พบจุดบกพร่องใหญ่ ๆ ของตนเองอย่างหนึ่งว่า
“กลัวการดึงศักยภาพที่มี ดึงต้นทุนที่มีออกมาใช้ค่ะ มันเป็นอะไรของมันก็ไม่รู้”
หนูมีนิสัยชอบเรียนรู้ ชอบทำอะไร ๆ แบบใหม่ ๆ ไปเรื่อย แต่พอจะหันกลับมาทำสิ่งที่เคยทำ มันดูฝืด ๆ ในความรู้สึก ยังไงไม่รู้
หนักเข้าไปอีก
พบว่า
“เมื่อไหร่ที่สัมผัสได้ว่า มีความคาดหวัง มีใครมาคาดหวังในสิ่งที่กำลังทำ จะเกิดความรู้สึก ไม่อยากทำ ประมาณว่า หนูไม่ท๊ำ หนูไม่ทำ”
แล้วก็จะเป็นปรากฏหารณ์ ไม่ยอมลงมือทำสักที จะยอมลงมือทำก็ต่อเมื่อ
“ไฟลนก้น”
ผลก็จะออกมา แย่ ๆ ไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราวสักกะที แล้วก็รู้สึกแย่กับตนเอง
สรุป
แล้วก็จะมาอ้างว่า “หนูไม่มีเวลา”
- งานที่กรม ฯ อยากให้เติมเต็มคือ งานเภสัชเวท อันนี้สืบเนื่องจากการที่บังเอิญไปเห็นว่า บุคลากร ด้านนี้ของกรมกำลังขาด เลยขอเข้าไปเทรนระหว่างที่เป็น HiPPS พอกลับมาที่ต้นสังกัดหนูก็ยังไม่ได้เริ่มงานนี้เป็นชิ้นเป็นอันเสียที มีแต่เริงร่ากับงานด้านอื่นอยู่ ครานี้เขาต้องการให้ แทนคุณ คือ ที่ไปฝึกฝนมา ให้ช่วยเอามาใช้เพราะบุคลากรด้านนี้ขาดจริง ๆ แทบร้องจ๊ากกับตนเองค่ะ
“หนูเนี๊ยะนะจะทำได้”
เสียงข้างในตะโกนออกมาเลยในใจ หลังจากรับทราบทางโทรศัพท์ก่อนเข้าห้องประชุม พอถึงห้องประชุม ถึงขั้นพูดไม่ออกแบบน้ำท่วมปาก เขาให้หนูตอบไปตั้งแต่วันที่ ๕ แต่วันนี้วันที่ ๗ แล้ว พี่เขาเลยทวงถามผ่านมาทางระบบออนไลท์ เสียงคร่ำครวญภายในดังขึ้น รึ หนูจะหนีไม่ได้จริง ๆ
ถ้าต้องทำก็ต้องมีงบประมาณมาเสริม สถานที่มารองรับ มีคนมาช่วยแบบต้องจ้างเพิ่ม เบื้องต้นผู้อำนวยการโอเค แต่ต้องเป็นงบประมาณจากส่วนกลาง ณ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า “หนูดึงเรื่องไว้ เพราะยังไม่ตอบกลับไปที่กรม” ไม่ลงใจกับตนเองค่ะ แม้จะเคยได้รับการสอนมา แต่ไม่มั่นใจกับตนเองเลยว่า จะทำได้ดี งบประมาณที่จะมาลงในส่วนนี้ไม่น้อย
เขียนมาถึงตรงนี้ รู้สึกว่า
“ขยะชีวิต ขยะในจิต ในใจนี้เหลือเยอะจริง”
ก็ต้องยอมรับกับตนเองว่า
“ยังโง่อยู่ ยิ่งโง่ ยิ่งต้องเพียร ยิ่งโง่ยิ่งต้อง อดทน”
สวัสดีครับ และคิดถึง
เอาคำคมมาฝากครับ
"...สิ่งที่แย่... กว่าการทำไม่ได้ คือ การที่ไม่ได้ทำ..."
เป็นกำลังใจครับ
ขอบคุณค่ะพี่อดิเรก
ไม่ว่าอย่างไรก็คงต้องก้าวไปข้างหน้าค่ะ