Keyboard for iPad 2 คีย์บอร์ด สำหรับ ไอแพท 2


Keyboard for iPad 2 คีย์บอร์ด สำหรับ ไอแพท 2
เป็นเคสบวกคียบอร์ดสำหรับ iPad 2 ออกมาเพื่อตอบรับกับคนที่ต้องการใช้คีย์บอร์ดกับ iPad 2 เป็นประจำกับ Adonit Folio/Bluetooth Keyboard for iPad 2 

หน้าตาของ Adonit Folio จะเป็นเคสแบบฝาปิดเปิดด้านข้าง โดยด้านนอกเป็นพื้นผิวสีดำใช้วัสดุคล้าย ๆ กับเคส iPad รุ่นแรกของแอปเปิ้ลแต่ดูแล้วคุณภาพดีกว่า ด้านในเมื่อกางออกมาจะพบกับคีย์บอร์ดขนาดย่อม ๆ อยู่ที่ฝาเปิดด้านซ้าย ส่วนอีกด้านเป็นที่ใส่เครื่องจะมีกรอบพลาสติกล้อมกรอบไว้เพื่อล็อกตัวเครื่องไม่ให้ขยับไปมา ตัวเคสด้านในวัสดุจะบุผ้าขนนุ่ม ๆ
 

ช่องใส่ถ่ายแบบ AAA 3 ก้อน

ปุ่มเปิด/ปิดและจับคู่ (Pair) คีย์บอร์ดกับอุปกรณ์
สำหรับตัวคีย์บอร์ดที่ติดมาด้วยจะเป็นคีย์บอร์ดที่ต่อผ่าน Bluetooth โดยด้านบนคีย์บอร์ดที่เป็นช่วงแท่งกลม ๆ ที่ปลายด้านซ้าย (สัญลักษณ์ลบ) จะเป็นช่องให้ใส่ถ่าน AAA 3 ก้อน ส่วนปลายด้านขวา (สัญลักษณ์บวก) จะเป็นปุ่มเปิด/ปิดและการกดเพื่อเชื่อมต่อ (Pair) คีย์บอร์ดกับ iPad 2 ด้านปลายคีย์บอร์ดจะมีปุ่มยางเล็ก ๆ ตลอดแนว 3 อันเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เวลาพับเก็บคีย์บอร์ดจะได้ไม่ไปกดทับหน้าจอ
 

ปุ่มต่าง ๆ บนคีย์บอร์ดจะเป็นการสกรีนภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว ซึ่งตรงนี้ใครที่พิมพ์สัมผัสภาษาไทยได้คล่องคงไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าคนที่จิ้มกดมีปัญหาแน่นอน ส่วนปุ่มฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่อยู่บนคีย์บอร์ดสามารถใช้งานได้ดีเกือบทุกปุ่มไม่ว่าจะเป็นปุ่มเรียกหน้า Home Screen, ปุ่มเรียน Spotlight, ปุ่มกดเล่นเพลง, ปุ่มกดปรับระดับเสียง, ปุ่มกดล็อคหน้าจอ ปุ่มเดียวที่ผมใช้แล้วไม่สัมฤทธิ์ผลคือปุ่มเรียกรูปภาพแบบสไลด์โชว์ที่ลองกดใช้อยู่ 3-4 ครั้งก็ไม่มีภาพอะไรปรากฏขึ้นมา
การวางปุ่มต่าง ๆ บนคีย์บอร์ดแน่นอนว่ามีขนาดเล็กตามตัว โดยแต่ละปุ่มของตัวอักษรจะอยู่ชิดกันมากพอควรและระยะก้าวนิ้วจะสั้นมากทำให้ตรงจุดนี้เราจะต้องหด ๆ นิ้วอย่ากางมือเยอะเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ก้าวนิ้วเลยปุ่มที่ต้องการจะกดในบ้างครั้ง โดยเฉพาะปุ่ม Shift ทางด้านขวาที่จะสั้นทำให้การเอื้อมนิ้วก้อยไปกดอาจจะมีพลาดอยู่บ้างเหมือนกัน
 

จัดแจงวางเครื่องในท่าเตรียมพร้อมพิมพ์งาน

ลองยกเครื่องให้ลอยตัวคีย์บอร์ดก็ไม่หลุดไปไหน

เท่าที่ได้ลอง Adonit Folio อยู่พักใหญ่ พบว่าการพกพาเคสพร้อมคีย์บอร์ดและตัวเครื่อง iPad 2 แบบนี้แบกน้ำหนักมากอยู่สักหน่อย เลยดูไม่ค่อยคล่องตัวนักถ้าต้องถือเดินเหินทั้งวัน ส่วนเวลาต้องการใช้งานเมื่อจัดแจงวางคีย์บอร์ดให้เข้าตำแหน่งพบว่าตัวคีย์บอร์ดจะไม่หลุดไปจากตำแหน่งง่าย ๆ เนื่องจากข้างใต้คีย์บอร์ดมีแม่เหล็กและที่ฝาเคสก็มีแม่เหล็กดูดติดมากกัน ซึ่งทำให้การใช้งานมั่นคงดีมากในจุดนี้ โดยผมลองยกแล้วเขย่า ๆ ดูก็ไม่หลุดเลื่อนออกจากตำแหน่งเลย ซึ่งตรงนี้ทำให้การพับฝาปิดเครื่องจะทำให้หน้าจอปิดอัตโนมัติไปด้วย สำหรับการพิมพ์งานเท่าที่ผมได้ลองใช้จัดว่าพอถูไถไม่ถึงกับทดแทนคีย์บอร์ดใหญ่ได้เนื่องจากขนาดปุ่มที่เล็กทำให้กางมือกางนิ้วได้ไม่เต็มที่นั้นเอง
 

 
สำหรับตอนพับเมื่อไม่ใช้งาน ถ้าดูจากรูปจะเห็นว่าตัวเคสเมื่อปิดฝาแล้วก็จะหนาขึ้นมาเนื่องจากมีคีย์บอร์ดอยู่ด้านในด้วย ด้านการจับถือก็จะหน่วง ๆ มือจากน้ำหนักอยู่หน่อย
ผลสรุปจากที่ได้ลองใช้ Adonit Folio/Bluetooth Keyboard for iPad 2 โดยส่วนตัวผมว่าก็สะดวกดีใในเรื่องการนำมารวมกัน แต่ในเรื่องการใช้งานจะอยู่ในระดับกลาง ๆ จะมีเสียดายอย่างหนึ่งตรงที่ตัวคีย์บอร์ดน่าจะถอดออกมาได้ด้วยจะเวิร์คมากสำหรับวันที่เราไม่ต้องใช้งานเพราะจะได้ไม่ต้องแบกน้ำหนักส่วนเกินให้เมื่อย ตัวเปรียบเทียบโดยตรงของ Adonit Folio คงเป็นการซื้อเคสดี ๆ สักอันที่สามารถตั้งในองศาใกล้เคียงกับกันพร้อมกับซื้อ Apple Wireless Keyboard มาให้คู่กันซึ่งก็จะมีราคาพอ ๆ กันหรือสูงกว่า แต่จะได้เปรียบเรื่องที่่ว่าวันไหนไม่ต้องการพกคีย์บอ์ดก็ไม่ต้องนำออกไปด้วย
 
จุดสังเกต
  • เป็นเคสที่มาพร้อมคีย์บอร์ด พร้อมใช้งานในทุกสถานะ
  • ระยะห่างของแต่ละปุ่มจะชิดกันมากไม่เหมาะกับคนที่ชอบกางนิ้วเยอะ
  • น้ำหนักมากไม่เหมาะกับการถือติดตัวไปทั้งวัน  
     
     ที่มา arip.co.th
หมายเลขบันทึก: 477855เขียนเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2012 09:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 22:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท