ว่าด้วยเรื่องของนิติราษฎร์กับกลุ่มต่อต้าน
สิ่งที่เราเห็น่ได้ชัดเจน คือ การนำเสนอข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันของกลุ่มคนสองกลุ่มนี้ เพราะอะไรถึงได้พูดเช่นนี้ หากท่านติดตามข่าวสารนี้มาโดยตลอด จะเห็นว่า วิธิการนำเสนอของกลุ่ม ๒ กลุ่มนี้ ต่างกัน คือ กลุ่มนิติราษฎร์ มีวิธีการนำเสนอข้อมูลแบบเป็นหลักวิชาการ ปราศจากอารมณ์หรือความรู้สึก กลุ่มต่อต้าน ซึ่งจะเห็นว่ามีหลายกลุ่ม ทั้งภาควิชาการ ...ประชาชน นักการเมือง ล้วนแล้วแต่ต่อต้านและนำเสนอข้อมูลที่เป็นอารมณ์และความรู้สึก ดังนั้น การตอบโต้ของกลุ่มต่อต้านจึงออกมาในรูปของความรุนแรง ขณะเดียวกันที่สังคม นักการเมือง หรือนักวิชาการ ออกมาตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย กระทั้งนักการเมืองพรรคต่อต้านเป็นระดับโฆษกพรรค สถบคำว่า "นักวิชาการเศษสวะ" แต่สิ่งที่เราเห็นคือ กลุ่มนิติราษฎร์ใช้หลักวิชาการในการตอบโต้มากกว่าอารมณ์ ความรู้สึกหรือความเคียดแค้น ประเด็นนี้ สอนผู้คนทั้งหลายว่า หากเราใช้เหตุผล (ปัญญา) มากกว่าความรู้สึก (อารมณ์) สังคมเราจะมีบรรยากาศที่ดีกว่านี้ไม่น้อย สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือ โอกาสในการนำเสนอข้อมูลต่างๆผ่านสื่อกระแสหลักของประเทศของกลุ่มนิติราษฎร์มีน้อยกว่า กลุ่มนักการเมืองเก่า หรือพรรคการเมืองใหญ่ที่ต่อต้าน หากสื่อกระแสหลักให้ความสำคัญเท่ากัน สังคมไทยน่าจะได้ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ดีกว่า ไม่บิดเบือนกันแบบนี้ ครบทุกด้านของข้อมูลที่ประชาชนควรรู้ สังคมไทย การเมืองไทยไม่เคยเปิดโอกาสการรับรู้ให้ประชาชนเลย