เมื่ือคืน (๓ ก.พ.๕๕) ผมนอนอ่านหนังสือก่อนนอนของ "นิ้วกลม" ชื่อ "ความสุขโดยสังเกต" ตอน "เสียดายเวลาเสียดาย"
"นิ้วกลม" เขาเล่าถึงความโชคไม่ดีของตัวเองที่ต้องเสียของรักถึง ๓ ชิ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งก็ได้แก่ ไอพ็อดที่เก็บเพลงและภาพถ่ายจากเซี่ยงไฮ้ เจ้าหูเงิน รถยนต์ประจำตัวที่เกิดอุบัติเหตุทำให้เสียหาย และโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ที่ถูกน้ำหกใส่
และบังเอิญ "นิ้วกลม" ได้มีโอกาสอ่านหนังสือ ชื่อ "มองทุกอย่างจากทุกมุม" ที่เขียนโดย ณัฐ AF4 หรือ ณัฐ ศักดาทร ในบท "ราคาของความเสียดาย"
ณัฐ เขียนคำว่า ...
ฟังดูคล้ายศัพท์ทางเศรษฐศาสตร์ แต่แท้จริงมันคือ ศัพท์ของวิชาชีวิต (นิ้วกลมเค้าว่าอย่างนั้น)
"นิ้วกลม" อธิบายต่อว่า คอนเซ็ปต์ของมันมีง่าย ๆ ว่า ถ้าเรามีทางเลือกสองทางที่ไม่สามารถทำได้พร้อมกัน สิ่งที่ไม่ได้ทำย่อมเป็น "ค่าเสียโอกาส"
สมมติว่า ช่องสามกำลังมีละครเจนี่ ช่องเจ็ดมีละครอั้ม ถ้าเราไม่ได้เอาทีวีสองเครื่องมาตั้งคู่กันเหมือน รปภ.ตามอาคารต่าง ๆ เราก็คงเลือกดูได้เพียงหนึ่งช่องในเวลานั้น ถ้าเลือกอั้ม เราก็ต้องพลาดเจนี่ และเจนี่ก็จะเป็น "ค่าเสียโอกาส" ของเราในสถานการณ์นั้น
ณัฐ บอกว่า ด้วยวิธีคิดนี้ เขาจึงไม่เคยเสียดายอะไรที่ได้ทำลงไปแล้ว หรือที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วในชีวิต
ถ้าชีวิตคนเราแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ คือ อดีต ปัจจุับัน อนาคต
เหมือนร้านสามร้าน
เราจะเลือกเดินเข้าไปใช้เวลาในร้านใดร้านหนึ่งได้แค่ร้านเดียวในหนึ่งช่วงเวลา
ถ้าเรามัวแต่นั่งเสียดายอยู่ในร้าน "อดีต" เราก็จะไม่มีเวลามาลงมือทำอะไรใหม่ ๆ ไม่มีเวลามานั่งฟังเพลง นั่งกินขนมเค้ก ไม่มีเวลามามีความสุขในร้าน "ปัจจุบัน" ไ้ด้เลย
เมื่อเราใช้เวลาเสียดายกับ "สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว" ต้นทุนค่าเสียโอกาสก็คือ "ห้วงเวลาในปัจจุบัน" ที่เราสามารถนำไปสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ โอกาสใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย
สู้เอาเวลาเสียดายสิ่งที่พลาดไปแล้วมาทำปัจจุับันให้ดีขึ้นยังจะดีกว่า
เพราะต่อให้เสียดายต่อไปอีกนานแค่ไหนก็แก้ไขอดีตไม่ได้อยู่ดี
"นิ้วกลม" เล่าต่ออีกว่า คงจะเสียดายกว่า ถ้ามัวแต่ใช้เวลามานั่งเสียดายในสิ่งที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
คนมองโลกในแง่ดี อาจมิใช่คนที่มองว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นดีงาม หรือมองเห็นความสวยในความซวยได้ในทุกสถานการณ์ แต่ผมว่า คนมองโลกในแง่ดีคือ คนที่มองเห็นวันพรุ่งนี้มากกว่าที่จะจมจ่ออยู่กับเมื่อวาน และเชื่อว่าเรายังสร้างสิ่งที่ดีกว่าให้เกิดขึ้นได้
"เสีย" กับ "สร้าง" เป็นของคู่กัน
และสิ่งแรกที่ต้องสร้างขึ้นมาก่อนคือ กำลังใจที่ดี
การใช้เวลากับความรู้สึกเสียดายนานเกินไปนั้นเป็นอะไรที่น่าเสียดาย
พอผมอ่านถึงตรงนี้แล้ว ก็คิดถึงเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นโดยตรงกับตัวเอง และยอมรับว่า ยังเสียดายสิ่งดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นอยู่ เหมือนอยู่ในภวังค์ ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ตัวเองยังความฝังใจกับอะไรบางอย่าง แบบสลัดทิ้งไม่ออก
อ่านจบ ผมจึงค้นพบ ...
จริงอย่างที่ "ณัฐ AF4" และ "นิ้วกลม" ว่าไว้จริง ๆ
ขอบคุณมากครับ
คืนนี้ เมื่อผมอ่านตอนนี้จบแ้ล้ว ผมนอนหลับสนิทจนถึงตอนเช้า เหมือนได้พบกุญแจบางดอกมาเข้ามาไขหัวใจของผมแล้ว
บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...
.......................................................................................................................................................
แหล่งอ้างอิง
นิ้วกลม (นามแฝง). ความสุขโดยสังเกต. พิมพ์ครั้งที่ ๔. กรุงเทพฯ : มติชน, ๒๕๕๔.
ครูบนดอยชอบมาอ่าน หาความรู้ ความคิดจากคุณได้อะไรไปมากมาย ขอบคุณมากค่ะ แต่รู้สึกหนักอึ้งทุกครั้ง เพราะครูบนดอย
สอนนักเรียน ป.1และ ป.2 ซึ่งจะต้องสดชื่น เพื่อไปเจอกับเด็กๆในชนบท
ยินดีต้อนรับ คุณ ครูบนดอย เสมอครับ
หากบันทึกที่ผมได้เขียนไว้จากประสบการณ์รอบตัวยังคงเป็นประโยชน์บ้าง ผมก็ดีใจแล้ว
ขอให้กำลังใจนะครับ
ขอบคุณมากครับ ;)...
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่สังเกตพบของดี อ่านของดี วิเคราะห์ได้ดี ชี้บอกสรุปหนทางที่ดีให้แก่ผู้เข้ามาเยี่ยมอ่าู้น ผมอ่านแล้วได้สาระและเป็นคุณประโยชน์เสริมความคิดติดปัญญาได้ทุกตัวอักษรครับ ขอบคุณสาระที่นำมาแบ่งปันครับ
ขอบคุณ ท่านอาจารย์ ธนา นนทพุทธ เช่นกันครับผม ;)...
เป็นช่วงเวลาที่กำลังรู้สึกเสียดาย และฝังใจกับบางเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีดีนะค่ะ จะพยายามทำให้มันผ่านไปให้ได้ค่ะ
ยินดีและขอบคุณมากครับ น้อง กอหญ้า ;)...
อ่านแล้ว...ก็มีความสุข...
นมัสการพระคุณเจ้า Phra Anuwat ;)...
ขอบคุณมากครับท่าน ;)...
ได้กระตุกมุม อย่าย้อนเลยอดีต มิว่าหวานหรือขม
ยินดีเน่อเจ้าอ.เสือ เริ่มต้นใหม่เดือนแห่งความรักเปิงๆ
อิ่มลำยามเย็น และส่งกำลังไปเช่นเคยเจ้า ... :)
ฉันจมอยู่กับอดีตกาลนาน
จนไม่สมารถก้่าวเดินตอ่ไปในเวลาที่เหลืออยู่
ทุกเวลาในอดีตฉันทำเต็มที่ ไม่มีคำว่า เสียดาย
แต่ที่ฉันกำลังเสียดาย
คือเวลาในปัจจุุบัน
ดีมากครับ คุณอุนนุน ;)...