พัฒนาการทางการเมืองในเมียนมาร์ได้สร้างความสนใจอย่างมากต่อนักวิเคราะห์และสื่อต่างชาติต่างๆ โดย พ.อ. R Hariharan ผู้เชี่ยวชาญข่าวกรองทหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า การตัดสินจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายของพรรค NLD เมื่อ ๒๓ พ.ย.๕๔ เพื่อให้สมาชิกพรรคสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ หลังจากปฏิเสธที่จะลงทะเบียนเป็นพรรคการเมืองและคว่ำบาตการเลือกตั้งเมื่อ
ปี ๕๓ อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ของเมียนมาร์ เนื่องจากแสดงถึงความคืบหน้าของการปฏิรูปประชาธิปไตยของประธานาธิบดี Thein Sein และการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งของพรรค NLD จะเป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ความกล้าหาญและการผลักดันการปฏิรูปที่มากขึ้นของผู้นำเมียนมาร์ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศยังมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเมียนมาร์ โดยประเทศสมาชิกอาเซียนได้ตอบสนองพัฒนาการ และสนับสนุนการปฏิรูปประชาธิปไตยที่ดำเนินการโดยรัฐบาลด้วยการตกลงที่จะให้ตำแหน่งประธานอาเซียนแก่เมียนมาร์ในปี ๕๗ ขณะเดียวกัน สหรัฐและสหภาพยุโรปซึ่งต่างให้การสนับสนุนการต่อสู้ของนางอองซาน ซูจี ยังได้ตอบสนองในเชิงบวกต่อมาตรการการปฏิรูปของประธานธิบดี Thein Sein โดยสหรัฐได้ส่งนาง Hillary Clinton เข้ามาตรวจสอบนโยบายของเมียนมาร์อย่างจริงจังเมื่อ ๒ ธ.ค.๕๔ อย่างไรก็ตาม แม้ประธานาธิบดี Thein Sein จะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการปฏิรูปประชาธิปไตยด้วยการแก้กฎหมาย และการอนุญาตให้มีการชุมนุมประท้วงของประชาชนในประเทศ ซึ่งเป็นที่ต้องห้ามในการปกครองโดยทหาร รวมทั้งความสำเร็จในการนำพรรค NLD กลับเข้าสู่การเมืองระดับชาติ ซึ่งอาจจะเป็นความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดในวันที่ แต่การหาทางออกที่เป็นธรรมให้กับชนกลุ่มน้อยที่ต้องการปกครองตนเองในดินแดนดั้งเดิมของตน ยังคงเป็นปัญหาต่อศักยภาพในการเจริญเติบโตของเสถียรประชาธิปไตยในเมียนมาร์ จึงเร็วเกินไปที่จะคาดหวังว่าระบอบการปกครองของประธานาธิบดี Thein Sein จะเป็นไปเพื่อประชาธิปไตยที่เต็มเปี่ยมของเมียนมาร์
ดร.จักษวัชร ศิริวรรณ
ไม่มีความเห็น