ตอนที่แล้วได้พากันไปชม พิพิธภัณฑ์และสวนอนุสรณ์สันติภาพ เป็นการเตือนใจตน ทุกคนและทุกชนชาติ ให้ช่วยกันรักษาสันติภาพของโลกให้ดีๆ
ตอนนี้จึงขอนำเสนอเรื่องเบาๆแต่สำคัญสำหรับคนเดินทาง คือ ที่พัก และ อาหารขึ้นชื่อท้องถิ่น
ถนนสายหลักจะกว้างขวางและมีรถรางวิ่งตรงกลาง มีสถานีขึ้นลงที่สะดวกมาก
ที่พัก
เป็นธรรมเนียมของเราว่าต้องเลือกที่พักต้องสะอาด ปลอดภัย เข้าถึงไม่ยากจากสถานีรถไฟ และ ราคาไม่แพง
พนักงานต้อนรับมีคนเดียวทำทุกอย่างแต่ท่าทางเขาสนุกกับงาน พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก เธอเคยมาเที่ยวเมืองไทยด้วย
ห้องพักเล็ก แต่จัดพื้นที่ได้เปี่ยมประสิทธิภาพ สะอาด เราได้ห้องแบบตะวันตกหนึ่งห้อง อีกห้องเป็นแบบญี่ปุ่น ห้องน้ำกระทัดรัดเป็นไฟเบอร์กลาสหล่อมาฟิตพอดีห้องน้ำทั้งห้อง
ที่เขาคิดราคาไม่แพงได้เพราะผู้มาพักช่วยกันทำบางอย่างที่ช่วยได้ เช่น เมื่อเช็คเอาท์ต้องถอดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนไปใส่ตะกร้านอกห้องวางอยู่ใกล้ๆลิฟท์ ยกกระเป๋าเอง ผ้าเช็ดตัวเอาไปเอง หากเราไม่มี ก็จ่ายเงินเช่าผ้าเช็ดตัวใช้
เขามีครัว มีเครื่องมืออุปกรณ์ทุกอย่าง เป็นระเบียบ สะอาดมาก ให้ทำอาหารได้ ชา กาแฟก็ชงดื่มได้ฟรี ยังเป็นโอกาสพบปะกับผู้มาพักนานาชาติ ส่วนมากเป็นหนุ่มสาวฝรั่ง(ป้าๆรู้สึกอายนิดๆเหมือนอยู่ผิดที่)
พวกเรานั่งทานขนมที่ซื้อมาอยู่ในห้องครัว มีหนุ่มฝรั่งเข้ามาถามหาว่าใครเห็นขวดซอสพริกพิเศษของเขาบ้าง เขาสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต บอกว่ายอดเยี่ยม ชอบมาก ไม่มีล่ะก็ทำให้มื้ออาหารหมดชีวิตชีวากันเลยทีเดียว เลยต้องตามหา ไม่มีใครเห็น เขากลับออกไป แป๊บเดียวก็กลับเข้ามาใหม่ บอกว่าเจอแล้ว เราเลยคุยกัน เขาโชว์ขวดซอสพริกที่ว่าให้ดูและชวนพวกเราชิม ขู่ว่านี่เผ็ดมากๆ ดูชื่อก็แล้วกัน ทุกคนชิมยกเว้นผู้เขียน เพราะสมาชิกกลุ่มเราอีกสามคนเป็นพวกชอบทานเผ็ด ขนาดพกน้ำพริกนรกติดตัวไปญี่ปุ่นด้วย
ท่านพี่ทั้งสามชิมแล้วก็บอกว่าเผ็ดจริงแต่เผ็ดทื่อๆ กลิ่นก็ไม่เย้ายวน ฮ่ะ ฮ่ะ ว่าแล้วพี่ไทยก็ควักกระปุกน้ำพริกนรกขึ้นมาชวนเจ้าหนุ่มผมทองชิมเปรียบเทียบ เขาลงความเห็นว่าเผ็ดพอๆกันแต่ของเรามีกลิ่นและรสชาติที่ซับซ้อนกว่า น่าปลื้มใจนะคะ
ห้องพัก ใหม่ สะอาดมากแต่เราคิดว่าเขาคงตกแต่งยังไม่เสร็จดี ดูมันโล่งและกว้างเกินมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่นราคาแบบนี้ หนูแหม่มชอบใจเตียงสองชั้น ให้ความรู้สึกกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง น้ำฝักบัวที่นี่แรงที่สุดกว่าโรงแรมไหนๆที่เราได้เคยพัก ฝักบัวก็ไฮเทคเกินกว่าเราจะเข้าใจปรับ
นั่งรถรางหน้าตาทันสมัยอย่างนี้เป็นรุ่นใหม่ ชื่อ Greenmover Max จากสถานีรถไฟฮิโรชิมา ไปที่พัก สะดวกมาก สามารถซื้อเป็น One-day, Two-day Card ได้ หากต้องนั่งวันละหลายเที่ยวจะคุ้มดี การใช้รถรางสะดวกและง่ายมาก
หนังสือท่องเที่ยวยังแนะนำไว้ว่า
...วิธีเที่ยวชมเมืองฮิโรชิมาที่ดีที่สุดคือการนั่งรถราง
หลังจากเมืองอื่นๆพากันรื้อรถรางออกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง รถรางทั้งหมดก็ถูกส่งมายังฮิโรชิมา เมืองฮิโรชิมาจึงมีคอลเลคชั่นรถรางที่ดีที่สุดให้ชม บางคันมีอายุนับย้อนไปถึงทศศตวรรษ ๑๙๔๐ ทีเดียว.”
(หนังสือชุด หน้าต่างสู่โลกกว้าง: ญี่ปุ่น หน้า ๓๐๑)
โอโคโนมิยากิ หรือ พิซซ่าญี่ปุ่น
มาฮิโรชิมาแล้วถือว่าเป็นสิ่งพลาดไม่ได้ หรือ a must ที่ต้องชิม โอโคโนมิยากิแบบฮิโรชิมา มีชื่อเสียงโด่งดังประชัน โอโคโนมิยากิแบบโอซากา ที่เป็นที่พบเห็นกันทั่วไปมากกว่า ฮิโรชิมาเขาโปรโมทขนาดมีสถานที่รวมร้านโอโคโนมิยากิไว้มากมายในที่เดียวกันชื่อ Okonomiyaki Village อยู่ถนนฮอนโดริซึ่งติดย่านช้อปปิ้ง
แต่เราลิ้มรสโอโคโนมิยากิแบบฮิโรชิมาที่แหล่งรวมร้านอาหารและภัตตาคารเป็นอาคารหกเจ็ดชั้นติดสถานีรถไฟฮิโรชิมานั่นเอง
ไปลองเดินชมบรรยากาศแล้วไปเจอร้านเหมาะที่ชั้นหนึ่ง มีคนเข้าแถวรอยาวแต่บรรยากาศคึกคัก เลยตัดสินใจว่าเอาที่นี่แหละค่ะ
โอโคโนมิยากิเขาจะปรุงบนกะทะแผ่นเหล็กร้อน ทำเสร็จแล้วทานเลย
โอโคโนมิยากิแบบโอซากา นั้นเขาจะผสมรวมส่วนผสมและเครื่องปรุงทุกอย่างแล้วทำเป็นแผ่น อย่างนี้
ภาพจากวิกิพีเดีย
โอโคโนมิยากิแบบฮิโรชิมา ส่วนผสมก็คล้ายกันแต่เขาจะวางส่วนผสมหลากหลายเป็นชั้นๆ หลักๆประกอบไปด้วยแผ่นแป้ง กะหล่ำปลี ถั่วงอก ไข่ และ เส้นซึ่งเลือกได้ว่าจะเอาเส้นโซบะ หรือ เส้นราเม็ง รวมทั้ง เนื้อสัตว์แล้วแต่จะเลือก เช่นหมู ไก่ เบคอน ปลาหมึก
พอทำเสร็จแล้วเขาก็จะราดซอสพิเศษสำหรับโอโคโนมิยากิโดยเฉพาะ เป็นสีน้ำตาลเข้มๆ รสชาติออกเค็มหวาน และมีอย่างเผ็ดด้วย หากยังเผ็ดไม่พอ เขาก็มีพริกป่นญี่ปุ่นวางไว้ให้ แต่รสชาติก็เผ็ดแบบญี่ปุ่น
ความแตกต่างโดยสรุปก็เห็นจะสรุปได้ว่า โอโคโนมิยากิแบบฮิโรชิมา
หลังจากแบ่งกันชิมโอโคโนมิยากิแบบฮิโรชิมาอย่างสนุกสนาน ยังไม่เต็มท้องเลยไปต่อด้วยสุกียากี้แบบนี้ หน้าตางั้นๆ แต่ร้านคนแน่นมาก เราเลยตัดสินใจรอคิว รสชาติยอดเยี่ยมสมกับการรอคอย น้ำซุปหวานรสผัก เต้าหู้แสนนุ่มละเอียด ปิดท้ายด้วยเส้นราเม็งที่เหนียวนุ่มกับน้ำซุปที่งวดลงจนเข้มข้น
เติมพลังแล้ว ตอนหน้าไปเที่ยวต่อที่ เกาะมิยาจิมา หรือ เกาะศาลเจ้าอิทสึคุชิมา Itsukushima ชื่อเสียงลือเลื่องว่าเป็นทัศนียภาพติดอันดับหนึ่งในสามของทิวทัศน์ที่งามที่สุดของญี่ปุ่นทีเดียวค่ะ
*ชอบการเที่ยวแบบนี้จังเลยค่ะ..ไม่ได้ออกจากเมืองไทยมานานแล้ว..รอคุณหลานๆว่างๆมาชวน..แต่เมื่อไหร่น้อ ??..
*เก็บภาพดอกมะลิบานเต็มต้นที่บ้านหลังน้ำท่วมสวน มาฝากค่ะ..
ชอบที่พักลักษณะนี้ค่ะพี่นุช ได้เรียนรู้และปรับตัวด้วย
จำที่พี่นุชเคยพูดไว้ เวลาไปท่องเที่ยวต้องชิมลิ้มรสอาหารบ้านเมืองเค้าด้วย
ชอบน้ำต้มผัก หลายๆ ค่ะ น้ำต้มผัก เดือนแห่งความรัก ยิ่งหว๊าน หวาน ? คะ
สวัสดีค่ะพี่นุช
อ่านสองเที่ยวแล้ว....หิวตาม2หนเลยค่ะ
ต้องลองถามหาร้านอาหารญี่ปุ่นบ้างแล้วค่ะ
^____^