วันก่อนอีกเช่นกัน ได้อ่านหนังสือ "LIVE & LEARN" ของ อ.วรากรณ์ สามโกเศศ มีตอนหนึ่งอาจารย์เขียนเรื่องการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในญี่ปุ่น ที่เน้นกระบวนการ (Process) มากกว่าผลลัพธ์ (Outcome) ซึ่งออกจะขัดกับแนวคิดของคนที่ชอบ "คิดนอกกรอบ" เพราะคนเหล่านี้มักชอบคิดว่า "ผลลัพธ์น่าจะสำคัญกว่ากระบวนการ" (ซึ่งอาจรวมทั้งผมด้วย) แต่พออ่านจนจบก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า "การคิดนอกกรอบควรเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนกระบวนการ" ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น หากเราสอนเด็กว่า ๒+๒ จะได้เท่ากับ ๔ โดยอาจให้เด็กทำบ่อยๆ บวกให้ได้เร็วๆ นั่นแสดงว่าเราเน้นที่ "ผลลัพท์" แต่หากเราถามเด็กว่า จำนวน ๔ สามารถเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง คำตอบคือ ไม่รู้จบ อาจมาจาก ๒+๒,๑+๓,๒.๕+๑.๕,๘/๒,๕-๑.............๑,๐๐๐,๐๐๕-๑ การถามลักษณะนี้จึงเน้น "กระบวนการให้ได้มาซึ่งผลลัพท์" ซึ่งจะเป็นการปูพื้นฐาน "กระบวนคิด" ให้เด็กมากกว่า ไม่จำเป็นต้องเร็วแต่มีหลากหลายวิธีการ และจะว่าไปก็คือ "การคิดนอกกรอบภายใต้ผลลัพธ์เดียวกัน" ซึ่งก็หมายความว่า การคิดนอกกรอบก็ควรมีขอบเขต นั่นก็คือควรมีเป้าหมายหรือผลลัพท์เดียวกันด้วย
สมัยผมเป็นอาจารย์มีนักศึกษารายงานผมว่า "ผู้ป่วย............ต้องนอนยกหัวสูง ๓๐ องศา" ผมถามกลับว่า "แล้วถ้า ๖๐ องศา จะเป็นยังไง" ทุกวันนี้ยังไม่ได้คำตอบนั้น เหมือนที่ผมถามทิ้งไว้ใน Facebook ว่า "หากไม่มี........... จะเกิดอะไรขึ้น" ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ แบบนี้ผมคิดนอกกรอบหรือเปล่า........
ไม่มีความเห็น