เมื่อพระหลวงตามหาบัวตาย ธรรมจะไม่ตายตาม


เอาชีวิตแลกธรรม นำความจริงแห่งธรรมสู่ทุกหัวใจสัตว์โลก

เมื่อหลวงตาตาย ธรรมจะไม่ตายตาม

                                                                              ปริยสุทธิ์ อินทสุวรรณ

     

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัญโณ  ที่พวกเราคุ้นเคยที่จะเรียกท่านว่า หลวงตาบัว หรือ พระหลวงตามหาบัว ท่านเป็นเหมือนครูคนแรกในชาติภพนี้ของฉันที่สอนให้ฉัน ประจักษ์ในหัวใจเรื่องของการเสียสละ ทรัพย์ที่ใช้ในการประดับ ปรุงแต่งฐานะ ให้กลายเป็นทรัพย์เพื่อการกอบกู้ความเป็นชาติ แต่ลึกไปกว่านั้น ฉันรู้สึกได้ว่า การเสียสละทองคำของฉันนั้น ช่วยให้ฉันได้กอบกู้ธรรม และความตั้งใจของจิตในภพชาติที่แล้วมาที่ได้กลับมาเกิดเป็นตัวฉัน ในชาติภพนี้ด้วย

     ฉันไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยประจักษ์ในหัวใจ และไม่เคยแน่ใจ ว่าธรรม คืออะไร มีมาเพื่ออะไร  และเป็นไปเพื่ออะไร แต่ด้วยความเมตตา ของพระหลวงตามหาบัว และคุณแม่จันดี ที่เป็นดั่งเกล้ากระหม่อมจอมขวัญของฉันท่านได้เมตตาพาฉัน เข้าไปรู้ ไปเห็น ไปได้ยิน ไปสัมผัส ไปเป็นส่วนหนึ่งของธรรม และช่วยให้ฉันได้มีโอกาสละวางความสงสัย ได้ลงมือเดินตามทาง ทาน ศีล ภาวนา จนชั่วขณะหนึ่งจิตของฉันได้รับอรรถ รับธรรมและธรรมได้สอดคล้องกลมกลืน กับจิตในขณะนั้น จนฉันไม่มีความสงสัยอีกต่อไป ว่า ธรรม อันองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงประกาศไว้ เมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา และธรรม ที่พระหลวงตา และครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆได้พากเพียร อบรม สั่งสอน และชี้แจงอยู่ตลอดมานั้น มีความยิ่งใหญ่  มีความจำเป็น และมีความสำคัญ ต่อการเกิด การมีชีวิตอยู่ และการจบลง ของแต่ละชาติภพ ของฉัน ซึ่งเป็นทั้ง คนนี้ คนนั้น ตัวนี้ ตัวนั้น สิ่งนี้ สิ่งนั้น ตลอดห้วงแห่งการ เกิด และการดับอย่างไรบ้าง

      ความจริงของธรรมประจักษ์ อยู่กับจิตของฉัน จนอดอุทานไม่ได้ว่า ธรรมนี้ ยิ่งใหญ่  จำเป็น และคงอยู่เช่นนี้ มาโดยตลอด ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง ไม่เคยน้อยลง ไม่เคยมากขึ้น ไม่เคยดับ ไม่เคยสูญหาย แต่เพราะอะไร ฉันจึงไม่เคยสัมผัส รับรู้ หรือประจักษ์แก่ความจริงของธรรมมาก่อน ทั้งที่ชาติภพแห่งการเกิดของฉันหากนับได้ คงเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลย อะไรที่พยายามเบี่ยงเบนฉันออกจากธรรม อะไรที่ทำให้ฉันไม่อยากรับรู้ธรรม ทั้งที่ธรรมนั้น สำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการเกิด การดำรงอยู่ และการสูญหายไป ของชีวิตของฉันในแต่ละชาติ แต่ละภพ ทั้งสั้น และยาว

   เมื่อฉันมีความเข้าใจ เมื่อฉันมีความเชื่อจากส่วนที่ลึกที่สุดของจิต ซึ่งฉันเดาเอาว่า น่าจะลึกกว่า สันดาร ที่ได้รับการถ่ายทอดจาก พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย และคนที่เกิดมาก่อน ปู่ย่า ตายาย ส่วนที่ลึกที่สุดของจิตของฉัน บอกกับฉันว่า สิ่งนี้จริงแท้ สิ่งนี้สำคัญ และสิ่งนี้จำเป็น ทั้งในชาติที่ผ่านมา ชาติที่เป็นอยู่ และชาติที่จะเป็นไป ในจังหวะนั้นเองที่ฉันบอกได้ว่าจิตของฉัน ยินดี ปรีดา และสุข สงบเป็นอย่างมาก ฉันรู้สึกเหมือน พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ตลอดจนพระหลวงปู่มั่น พระหลวงตา และคุณแม่จันดี ต่างก็แสดงความเมตตา ยินดี กับการที่จิตได้สัมผัสอรรถ และ ธรรม ในชั่วขณะนั้น ตอนนั้นเองที่ฉันประกาศความมุ่งมั่นต่อหน้า ธรรมว่า ฉันจะไม่มีวันตกที่ต่ำ หากจิตของฉันยังคงเปิดรับอรรถรับธรรม อันครูบาอาจารย์พากเพียร ทุ่มเทสั่งสอน โดยใช้ ชีวิต ธาตุขันธ์ และชาติภพสุดท้ายเป็นเดิมพันเช่นนี้

 พอจิตสัมผัสว่าครูบาอาจารย์ ทุ่มเท เสียสละเพื่อเรา ทั้งที่เรานี้ทั้ง แบกบาป แบกกิเลส และความหมกมุ่นในความอยากเอาไว้ ท่านจะทิ้งเราเสียก็ได้  เพราะท่านนั้นผ่านและพ้น ในความหม่นหมองนี้ไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่ความสงสาร เมตตาที่มีต่อเรา และเพราะท่านเชื่อว่า ธรรม จะเชื่อมโยง จะเปิดประตู และจะกระตุ้น ให้จิตที่มีธรรมอยู่บ้างแต่ดั้งเดิม ได้เปิดออก สัมผัส เชื่อมโยง และเป็นส่วนหนึ่งของธรรมอีกครั้ง เพื่อให้จิตของเราได้ประจักษ์ ต่อหน้าธรรม  เชื่อ และฝักใฝ่ในเส้นทางของธรรม และจะไม่เลือกทางที่ต่ำ ที่ผิดต่อธรรมอีกไม่ว่าชาติภพใดๆ ท่านจึงยอมตาย เพื่อให้เราได้ เห็นธรรม

ที่ว่าท่านยอมตายเพื่อให้เราได้เห็นธรรมนี้ จิตก็ตอบรับว่าจริงแท้ ไม่มีครูบาอาจารย์พระองค์ไหนเลยที่ทอดทิ้งจิตที่น้อมรับอรรถ และน้อมรับธรรมโดยที่ไม่มีความสงสัยในอรรถ และธรรมแล้วให้โดดเดี่ยว และเผชิญความแปรปรวนของโลกอยู่ตามลำพัง ท่านคอยประคับประคอง กล่อมเกลา ขัดเกลา และอยู่กับธรรมที่เราน้อมรับเสมอ ทั้งตลอดที่เป็นมา ทั้งขณะที่เป็นอยู่นี้ และที่กำลังจะเป็นต่อไป ขอเพียงแต่จิตของเรา ยึดถือ มั่นคง และตระหนักในธรรมเท่านั้น

     ครูบาอาจารย์กำลังจะตาย

      พระหลวงตากำลังจะตาย

      คุณแม่จันดีกำลังจะตาย

           จิตที่เป็นมนุษย์ร้องไห้  และจิตที่น้อมรับธรรมก็ร้องไห้

         แต่น้ำตาส่งเสียงไม่เหมือนกัน

        น้ำตาของมนุษย์ร้องไห้เพราะ กลัว ว่าตัวเอง จะไม่มีครูบาอาจารย์ ปกป้อง และจะไม่มีความสุขในโลก

        แต่น้ำตาของจิตที่น้อมรับธรรม ร้องไห้ เพราะ ซาบซึ้ง เห็นคุณ และประจักษ์ ในการเสียสละ เพื่อให้โลกได้รับธรรมของท่าน อีกทั้งยังร้องไห้ด้วยความสังเวชในความหลง ของตัวเอง และร้องไห้เพราะมองเห็นภพชาติอีกแสนไกล ที่ไม่สามารถตัดให้สั้นลงได้ เมื่อไม่มีท่านคอยกระหน่ำให้ถอนตัวออกจากกิเลส และความหลงทั้งหลาย ร้องไห้ แล้วก็ร้องไห้

  แต่ท่านก็ต้องตายอยู่ดี...

ตายเหมือนที่พระพุทธเจ้า ทรงตาย

ตายเหมือนพระอรหันต์พระองค์ต่างๆ ทรงตาย

ตายเหมือนพระหลวงปู่มั่น...ท่านตาย

ตายเหมือนพระอรหันต์พระองค์ต่อๆมา ...ท่านตาย

        หากทุกๆพระองค์ ทุกๆองค์ ก็ล้วนแต่ต้อง ทรงตาย และต้องตาย     

       อะไรคือสิ่งที่พวกเราจะยึดเหนี่ยว น้อมนำ และมั่นคงอยู่ได้ต่อไปจาก การ ตาย ของครูบาอาจารย์เหล่านั้น

 

 

อยากจะเก็บ เล็บ ขน ผม ลมหายใจ เลือด เนื้อ หนัง น้ำลาย และกระดูกของท่านไว้

ท่านก็ห้ามว่า อย่าเอาสิ่งเหล่านี้เป็นสรณะ

 

มีแต่ให้ไปภาวนา และให้กำหนดจิตสงบ น้อมเข้าหาแต่สติธรรม และปัญญาธรรม

 อีกทั้งให้เอ่ยนาม พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ว่า พุทโธ ๆ ๆ ๆ ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น

ท่านว่า ให้ทำงาน คือ การปฏิบัติธรรม และให้ การปฏิบัติธรรม คือ การทำงาน

ท่านว่า ให้ระลึกนึกน้อม ถึงสิ่งที่ครูบาอาจารย์ นับตั้งแต่พระพุทธเจ้า เป็นพระองค์ต้นมา ว่าทรงสอนอะไร

จนมาพระอรหันต์ องค์ต่อมา องค์ต่อๆ มา องค์ต่อๆ ๆ ๆ มาว่าท่านสอนอะไร

จนมาถึงองค์ท่าน และสิ่งที่ท่านสอน ว่า ท่านสอนว่าอย่างไร

ว่าท่านทำอย่างไร ว่าท่านปฏิบัติอย่างไร สิ่งอันท่านเหล่านี้ กล่าวแล้ว ทำแล้ว ปฏิบัติแล้ว

ท่านว่า ถูกต้องตามธรรม ให้กำหนดเอาไว้ในจิต แล้วมุ่งทำตาม ปฏิบัติตาม

ท่านยังว่าอีกว่า ให้ตระหนักถึงบุญคุณครูบาอาจารย์ ที่เอาชีวิตแลกธรรม และนำความสว่างสู่ทุกดวงจิต

เอาไว้ในลมหายใจ เข้า และออก อย่าลืม คุณท่าน

แล้วจิตเรา จะประจักษ์ ตระหนัก สัมผัส และรับรู้ได้ด้วยกระแสแห่งธรรมว่า

ท่านไม่เคยห่างจากจิตที่มีธรรม เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ของพวกเราทั้งหลายเลย

ไม่เคยห่างเลย

ไม่เคยทอดทิ้ง

ไม่เคยดูดายเลย

แม้แต่ขณะจิตเดียว....

หมายเลขบันทึก: 474863เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2012 22:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 12:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท