จำได้ว่า สิงหาคม 2543 ชาวบำราศได้เปิด ลานแอโรบิคขึ้นโดยมี พ.นภา จิรคุณ เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีการติดต่อไปที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เราจึงได้ครูมาสองท่าน ครูสุภาพ เจียมบุญศรี (ครูตุ๊ก)และครู เพทริค เชน(ครูโจ)เราใช้ลานฝั่งตะวันตก(ปัจจุบันเป็นลานจอดรถ) เป็นที่ทำกิจกรรม มีสมาชิกมาพอสมควร
กิจกรรมมี 2 ตอน
ตอนที่1 เป็น แอโรบิคแบบกายภาพ (ไม่มันมากแต่ปลอดภัยและไม่ปวดเมื่อยหรือบาดเจ็บกล้ามเนื้อถ้าดูและทำตามครูฝึก)ใช้เวลาตอนที่1 มี 3 ระยะ คือ อบอุ่นร่างกาย ช่วงออกกำลังละลายไขมัน และ คลายกล้ามเนื้อ ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที
ตอนที่2 เป็นการออกกำลังกายแบบแนวราบ (นอน/นั่ง)เป็นการบริหารคลายและยืดเหยียดกล้ามเนื้อ อีกประมาณ 45-60 นาที
ปีแรกเรา เริ่มจากสัปดาห์ละ 2วันเริ่ม หลัง 17.15 น ในระยะนั้นต้องจ่ายค่าสมาชิก วันละ 20 บาท จึงมีคุณสมจิตรเป็น เหรัญญิก รวบรวมเงินเพื่อจ่ายให้ครูทั้งสอง ของเรา ระยะแรกก็มีสมาชิกมากต่อมาก็ลดลง บางครั้งเงินไม่พอจ่ายค่าครู แต่ได้สมาชิกอาวุโสช่วยกันจ่ายมากกว่าที่กำหนดตามแต่ศรัทธา (อุ๊ยไม่ใช่ทำบุญนะคะ)
เพราะพวกเรามีสุขภาพดีขึ้นหายปวดเข่า ปวดหลัง ยืนทำงานได้นานมากโดยไม่ปวดขา(อันนี้พี่เสาวลักษณ์ ที่โอพีดี ศัลยกรรม ยืนยันมาเพราะยืนเย็บแผลทั้งวัน)
ขึ้นบันไดสพานลอยไม่หอบ ที่สำคัญไขมันผิวส้มที่ขาอ่อนหายไปหลังจากทำได้สมำเสมอ (ดิฉันยืนยันเองค่ะ)
เดินได้ดีการทรงต้วดีขึ้น และปีนนำตกได้ไม่เหนื่อย (พี่รสสุคนธ์ยืนยันค่ะ)
ยังมีอีกหลายท่านที่มิได้เอ่ยชื่อที่หายจากอาการปวดสารพัดรูปแบบ
เราจึงอยากให้ลานอยู่กับพวกเราตลอดไป สนับสนุนและตีซี้กับครูมีขนมนมเนยมาฝากครูของเราเป็นประจำ จนสนืทกันมากขึ้น
จนกระทั่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้ประชาชนการออกกำลังกาย สบร.ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดจึงได้เลิกเก็บค่าสมาชิก ใช้บริการฟรี และเพิ่มวันเป็น ทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ โดยเริ่มเร็วขึ้นเป็น 16.45 เป็นต้นไป เมื่อมีการใช้สถานที่เดิมเป็นลานจอดรถ เราได้ย้าย ไปที่แฟลตพยาบาล ข้างตึก 8(LAB)
ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ข้างสนามเทนนิส สำหรับแอโรบิค และยืดเหยียดที่ชั้น1 ตึก 1 ตรงข้ามป้อมยาม วันไหนฝนตกก็ทั้งเต้นและยืดเหยียดที่ตึก 1 เมื่อ
ตอนกลางเดือน (17-18 สิงหา 49) อ. นัยนา และอ.วรรณิการ์ ได้มาเพิ่มพูนความรู้ด้านคุณภาพในงานเทคนิคการแพทย์ให้กับพวกเรา และได้แสดงให้เห็นว่า
พวกเรามีความเสี่ยงกับอาการปวดเมื่อยและความบกพร่องในการทำงานของส่วนต่างๆของร่างกายได้เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่ในท่าที่ซำๆ และสอนท่ายืดเหยียดให้หลายท่า
ต้องขอบคุณมากเพราะเราเองทำมานานแล้วจากลานของเราและพยายามชักชวนน้องๆ แต่ยังมีคนมาปฏิบัติน้อย ไม่นานคงมีมาเพิ่มนะคะ สัปดาห์ ละ 1-2 ครั้ง
สำหรับดิฉันพยายามลงลาน มาตลอด 6 ปีแม้ไม่ได้แอโรบิคเพราะเวลาไม่อำนวยในบางวัน แต่ต้องลงยืดเหยียดให้มากที่สุดเพราะช่วยให้คลายกล้ามเนื้อได้ดีและนอนหลับสนืท เลิกกินยาแก้ปวดหลัง ที่หมอ(เพื่อน ที่รพ.ภูมิพล)จ่ายให้ครั้งละ หลายพันบาท มาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ปี 39-42 รวมทั้งไม่ต้องใช้บริการคุณชื่นพักตร์ นักกายภาพ แบบเกือบทุกวัน มานานมาก
ขอบคุณ ครูตุ๊ก ครูโจ ผู้อำนวยการที่สนับสนุนรวมทั้ง พ.ศิริวรรณ พ.นภา คุณเยาวรัตนื คุณเบญจา คุณสมจิตร คุณมนัสนันท์(แดง) เจ้าหน้าที่หลายท่านในกลุ่มอำนวยการที่ช่วยจัดอุปกรณ์และดูแลเครื่องเสียงให้ตลอดมา เจ้าหน้าที่งานภูมิคุ้มกันที่จัดน้ำมาให้คุณครูและสมาชิก รวมทั้งอีกหลายท่านที่มิได้เอ่ยนาม ที่ช่วยกันทำให้ชาวบำราศมีลานแอโรบิคนาน อยู่จนถึงวันนี้ ครบ 6 ปี
แล้วพบกันที่ลานข้างสนามเทนนิส นะคะ ศิริรัตน์ 31 สิงหาคม 2549
มาช่วยยืนยันอีกคนครับว่าการออกกำลังกายดีต่อร่างกายจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องยานี่ผมเป็นเภสัชกร พูดแบบนี้อาจโดนแอนตี้ได้คือ
ผมเห็นว่า ยาเป็นสิ่งแปลกปลอมครับ (ไม่นับอาหารหรือสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยานะครับ) เพราะผลิตจากสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อร่างกาย ถ้าไม่จำเป็นก็อยู่อย่างห่างยานี่ดีที่สุดแล้วครับ
ตอนนี้หลังลดน้ำหนักสำเร็จแล้วผมได้ยกน้ำหนักตอนเช้าทุกวันๆ ละ 25-45 นาทีแล้วแต่ว่าตื่นเช้าแค่ไหน ซึ่งไม่ทำให้อ่อนเพลียเลยแต่ร่างกายสดชื่นขึ้นและรับงานได้มากกว่าเดิม
ปล. เรื่องบันทึกตัวติดนี่ผมก็เป็นครับ คือ คัดลอกมาจาก Word แล้วคล้ายกับบล็อกไม่รู้จักบรรทัดเลยเอามาติดกันหมด
หลังๆ เลยทำใจไม่ต้องแต่งมากพิมพ์ตัวอักษรได้ก่อนแล้วค่อยมาแต่งในบล็อคอีกที
ขอบคุณมากนะคะ "รัตน์" ดีใจที่ได้อ่านบันทึกค่ะ โอกาสต่อไปคงมีข้อเสนอแนะในงานคุณภาพด้วยนะคะ