เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว
แต่เนื่องจากพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อน
สุขุมคัมภีรภาพ ยากต่อบุคคลจะรู้ เข้าใจและปฏิบัติได้
ทรงเกิดความท้อพระทัยว่าจะไม่แสดงธรรมโปรดมหาชน
ต่อมาท่านได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้ง
แล้วทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้
เปรียบเสมือนบัว ๔ เหล่า
ดังนั้นแล้วจึงดำริที่จะแสดงธรรมเพื่อมวลมนุษยชาติต่อไป
บัว ๔ เหล่า ได้แก่
๑.พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ
เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว
เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
(อุคฆฏิตัญญู)
๒.พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ
เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม
จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า
เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
(วิปจิตัญญู)
๓.พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ
เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ
มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอยด้วยศรัทธา ปสาทะ
ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า
เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ
โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ)
๔.พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ
แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้
ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร
เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา
ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน
(ปทปรมะ)
คนเราเป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่ร่วมกันตั้งแต่เกิดจนต้องตายขากกันไป จะพบว่าแต่ละคนที่เราได้รู้จักไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลายล้วนแต่เป็นคนที่เราต้องรู้จักและเข้าใจ และเมื่อเข้าใจแล้วเราจะได้ไม่เป็นทุกข์ คนที่เราพบในสังคมมีหลากหลายเปรียบดุจบัว 4 เหล่าที่แต่ละเหล่ามีความแตกต่างกันซึ่งเมื่อเราเข้าใจปัจัยเจกบุคคลแล้วจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสหกุข แต่ต้องทำใจให้รับให้ได้นะครับ....อย่าคิดว่าจะเปลี่ยนคนอื่นให้เป็นดังที่ใจเราคิด แต่เราควรเปลี่ยนความคิดและเข้าใจในตัวผู้อื่นง่ายกว่าครับ.....
เป็นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และสอนใจดีมากค่ะ
ถ้าเราเอามาจากที่อื่น ควรใส่ที่มาด้วยนะคะ เพราะจะเป็นการให้เกียรติแก่เจ้าของงานและช่วยให้ผู้สนใจติดตามไปอ่านเพิ่มได้ค่ะ
เคยเรียนมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กๆ พ่อ แม่สอนเสมอว่าอย่าเป็นบัวใต้น้ำ จนมาถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังคงเป็นคำสอนที่ดีเสมอมา ยังใช้สอนต่อไปถึงลูก หลานได้อีกด้วย
ข้อมูลสมบูรณ์ปฏิบัติได้เลยและเป็นอมตะตลอดกาล
พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเปรยมนุษย์ไว้ถูกต้องดีมากเลย คนเราก็เหมือนดอกบัว 4 เหล่าที่ค่อยๆทะยอยบานเมื่อได้รับแสงสว่างเหมือนมนุษย์ที่ได้ฟังคำสั่งสอนก็จะค่อยๆรู้ค่อยเข้าใจไปทีละน้อยจนในที่สุดก็สามารถฉลาดได้ แต่...เอ..แล้วอย่างพี่จะเป็นเหล่าที่เท่าไรดี
เหล่าที่ 1 คงจะไม่ได้แน่ เหล่า 2 ก็คงจะไม่ได้อีก เหล่า 3 ก็ไม่มีสิทธิ์ แล้าเหล่าที่ 4 ละ ก็คงยาก ว้า..กลุ้มใจจังเหล่าไหนดี ?