พัฒนาบ้านนอกของเราให้ยั่งยืน


เมื่อโรงงานถูกปิด กระบวนการผลิตหยุด มีการสั่งพักงานไประยะหนึ่ง ต่อจากนั้นเมื่อสถานการณ์ค่อยๆคลี่คลาย ทางโรงงานบวกลบคูณหารแล้วสั่งให้พนักงานออกแล้วประกาศรับพนักงานใหม่

วิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในหนนี้หนักหน่วงรุนแรงกระทบไปทุกภาคส่วน  โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมนิคมอุตสาหกรรมทั้ง  โรจจนะ ไฮเทค นวนคร สหรัตนะ  บางกระดีและอีกหลายๆแห่งที่จำไม่ได้นำมากล่าวไม่หมดในที่นี้  อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจและอวยชัยให้ผ่านพ้นไปด้วยดีตามอัตภาพสภาวการณ์ของแต่ละผู้ประกอบการณ์

จากวิกฤตสถานการณ์ดังกล่าวนอกจากกระทบในระดับมหภาคในเรื่องของการหยุดผลิตปิดกิจการ หรืออีกหลายบริษัทถอดใจย้ายออกไปลงทุนยังประเทศอื่น  เนื่องจากความไม่ชัดเจนในหลายๆ  ด้าน ทั้งความกดดันด้านค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ความไม่มั่นใจในแผนรับมือน้ำท่วมของรัฐบาลที่ไม่ชัดเจน ยังไม่มีการรับปากที่เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าปีหน้าจะท่วมอีกหรือไม่ และยังมีด้านอื่นๆอีกที่เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจในการลงทุน ทำให้ผู้ประกอบการณ์เหล่านั้นขาดความมั่นใจ

ส่วนผลกระทบด้านจุลภาคที่เกี่ยวกับปากท้องพี่น้องลูกหลานเกษตรชาวไทยต่างหนีไม่พ้นวิกฤตในครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน  เมื่อโรงงานถูกปิด กระบวนการผลิตหยุด  มีการสั่งพักงานไประยะหนึ่ง ต่อจากนั้นเมื่อสถานการณ์ค่อยๆคลี่คลาย  ทางโรงงานบวกลบคูณหารแล้วสั่งให้พนักงานออกแล้วประกาศรับพนักงานใหม่  ซึ่งอายุงาน เงินเดือน  สวัสดิการ ค่าใช่จ่ายต่างๆของบริษัทหรือโรงงานก็น้อยตามไปด้วยช่วยลดต้นทุนได้ไม่มากก็น้อย หลายๆโรงงานจึงนิยมใช้วิธีการนี้  ส่งผลให้ลูกหลานเกษตรกรที่ตื่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้าจากต่างจังหวัดใกล้ๆมาทำงานแถบอยุธยา  ปทุมธานีและจังหวัดอื่นใกล้เคียง  ต่างตกงาน ไม่มีงานทำ เคว้งคว้าง ขาดขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต

ในวิกฤตย่อมมีโอกาส  วิกฤตการณ์ครั้งนี้พนักงานโรงงานที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้. อีกทั้งถ้ายังมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดอีกด้วยถือว่ายังมีความโชคดีอยู่ไม่น้อย  ควรกลับไปเริ่มต้น ตั้งหลักที่บ้านเกิด  กลับไปทบทวนจุดอ่อนจุดแข็งในอาชีพที่พ่อแม่และบรรพบุรุษสืบสานมาอย่างยาวนาน ว่าควรจะช่วยปรับปรุงพัฒนาในด้านใดบ้างเพื่อให้อาชีพเกษตรกรรมดีกว่าเดิมที่เป็นอยู่ ทำอย่างไรให้อาชีพบรรพบุรุษของเราต้นทุนลดผลผลิตเพิ่ม  ควรมีการตรวจวัดกรดด่างของดินให้มีค่าที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตหรือไม่ ควรมีการลดละเลิกการใช้สารพิษหรือยาฆ่าแมลงให้ลดน้อยแล้วใช้วิธีการดูแลบำรุงรักษาในรูปแบบปลอดสารพิษจะดีกว่าหรือเปล่า  ก็ต้องฝากความคิด ความหวังกับหนุ่มสาวชาวนา ชาวไร่ยุคใหม่ให้ช่วยพัฒนาอาชีพที่เป็นเสาหลักของประเทศไทยให้ยั่งยืนตลอดไป ดีกว่าปล่อยไปให้เป็นสาวโรงงาน  เดี๋ยวจ้าง เดี๋ยวเลิกไม่แน่นอน

มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 472648เขียนเมื่อ 27 ธันวาคม 2011 13:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม 2012 13:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท