คลังหมดหน้าตักกู้อีกแสนล้าน

คลังเตรียมรับวิกฤตเงินสดขาดมือ เล็งขอ ครม. กู้ โดยวิธีออกตั๋วเงินคลังอีกแสนล้านบาทเพิ่มเสริมสภาพคล่อง แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เร็ว ๆ นี้  เพื่อออกตั๋วเงินคลังเพิ่มอีก 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้มั่นใจว่าจะมีสภาพคล่องหรือเงินคงคลังเพียงพอกับการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2550 ที่ตั้งไว้สูงถึง 1.476 ล้านล้านบาท เนื่องจากวงเงินตั๋วเงินคลังที่ขอไว้เดิม         2.5 แสนล้านบาทนั้น ได้กู้ไปเต็มวงเงินแล้ว แหล่งข่าวกล่าวว่า การเพิ่มวงเงินตั๋วเงินคลังจะส่งผลให้ฐานะเงินคงคลังดีขึ้นมาก จากเดิมคาดว่า             สิ้นปีงบประมาณ 2550 สภาพคล่องของเงินคงคลังจะมีเพียง 3.3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วง โดยระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคมของทุกปี เงินคงคลังจะติดลบตลอด แต่เมื่อกู้เงินเพิ่มทำให้เงินคงคลัง      เพิ่มเป็น 1.3 แสนล้านบาท นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มเติม เพื่อรองรับแผนตั้งงบประมาณปี 2550 แบบขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการออก     ตั๋วเงินคลังดังกล่าว นอกจากชดเชยงบประมาณขาดดุลแล้ว อีกส่วนหนึ่งใช้เป็นเงินสดหมุนเวียน และรองรับ      การเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงต้นปีงบประมาณ 2550 เนื่องจากรายรับยังเข้ามาค่อนข้างน้อย   “เราคงต้องรอดูรายรับรายจ่ายของปีหน้าอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร หากขาดดุลมากก็จะต้องกู้มาก โดยจะเสนอแผนก่อหนี้เพิ่ม   โดยการออกตั๋วเงินคลังให้ ครม. พิจารณาประมาณกลางเดือนกันยายน” นางพรรณี กล่าว ทั้งนี้ หาก ครม. อนุมัติจะทำให้รัฐบาลมีภาระการออกตั๋วเงินคลังรวมกับที่ออกแล้วเดิมเป็น 3.5 แสนล้านบาท จะมีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ย 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจในปี 2550 ว่าจะขยายตัวไม่ถึง 4.5% เพราะการลงทุนที่ต่ำลง หากรัฐบาล ไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวจะอยู่แค่เพียง 3.5-4% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่กำลังพัฒนา จึงจำเป็นต้องขยายเพดานการออกตั๋วเงินคลัง โพสต์ทูเดย์  29  ส.ค.  49