ลิงกับลา


อุตทาหรสอนนาย เรื่องนี้ ขอขอบคุณเพื่อนที่ Forwarded Mail "เหตุที่องค์กรของเราต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้..ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา .""นายที่ดี...ไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้ ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดกับความสบาย นั่งขึ้นอืด..รอฟังแต่รายงานในห้องประชุม.....ต้องการชี้ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของหญิงชาวบ้านที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็น....ถ้าลิงสงบได้...องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืน

 

ลิงกับลา

หญิงชาวบ้านคนหนึ่ง...อาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม

ด้วยความเหงา...

นางจึงหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน 2 ตัว คือ...ลิงกับลา...

วันหนึ่ง...หญิงชาวบ้านคนนี้ต้องออกไปตลาด เพื่อหาซื้ออาหาร  

ก่อนออกจากบ้าน...

เธอได้เอาเชือกมาผูกคอลิงแล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้ง 2 ข้าง

เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ตัว  เดินย่ำไปมา

ในกระท่อมจนทำให้ข้าวของต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย

ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไปลิง...ซึ่งมีความฉลาดและแสนซน

อันเป็นคุณลักษณะประจำตัว  ก็ค่อย ๆ คลายปมเชือก

ออกจากคอของมัน  อีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีกด้วย

หลังจากนั้น...เจ้าลิงก็กระโดดโลดเต้นห้อยโหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อม

จนทำให้ข้าวของต่าง ๆ ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว อีกทั้ง..ยังซุกซน

รื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้าน มาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี

ในขณะที่ลาได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ

สักครู่หนึ่ง...หญิงชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด

 

เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกลจากทางหน้าต่าง

ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบนิ่ง...

ฝ่ายหญิงชาวบ้าน...เมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามา

เห็นข้าวของของตนถูกรื้อค้น กระจุยกระจาย เช่นนั้น

ก็เกิดโทสะขึ้นมาทันที  จึงหันหน้าไปมองลิงกับลา

เพื่อดูว่า...ใครเป็นผู้ก่อเรื่อง   และเห็นว่า..ลา..

ไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม   เธอจึงคิดเอาเองว่า...

เจ้าลานี่เอง..คือตัวปัญหา  ทำให้กระท่อมของเธอ

มีสภาพไม่แตกต่างไปจากโรงเก็บขยะ

ดังนั้น...หญิงชาวบ้าน  จึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมา

ทุบตีลาอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าลาผู้น่าสงสารก็ได้แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนสิ้นใจตายโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เธอทั้งหลาย...

เธอหลายคน...คงไม่ค่อยชอบตอนจบของนิทานเรื่องนี้นัก

เพราะสงสารเจ้าลา...ที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร

แต่กลับถูกเจ้าของทำโทษจนตาย

ส่วนเจ้าลิงซึ่งเป็นต้นเหตุแท้ ๆ กลับรอดพ้น  และไม่ได้รับผลกรรมใด ๆ

แต่แท้ที่จริงแล้ว...นิทานเรื่องนี้  ต้องการชี้ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของหญิงชาวบ้านที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้  เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็น....

แล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัว

เธอมองเห็นข้าวของเสียหาย  และมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก

แล้วตัดสินว่า...ลาคงเป็นผู้กระทำ  แต่ไม่ได้มองว่า...ลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก

และไม่มีนิสัยชอบรื้อค้นทำลายข้าวของ

เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่  ก็คิดว่าเอาว่า...ลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ

แต่มองไม่ออกว่า..ผู้ที่น่าจะแก้ปมเชือกได้และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้น.คือ..ลิง..

ความจริง..ถ้าเธอรู้จักสำรวจร่องรอยความเสียหายสักเล็กน้อย

เธอก็จะพบรอยเท้าและฟันของลิงกระจายไปทั่วห้อง

แต่จะไม่พบรอยเท้าของลาเลย  เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน

เหตุที่องค์กรของเราต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้...

ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา แต่ลารับเคราะห์"

ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมา  แต่ไร้เล่ห์เหลี่ยม

ลิงก็เหมือนกับคนที่ฉลาดแกมโกง พูดมาก พรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริงจัง

 

นายที่ดี...ไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้ ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดกับความสบาย  นั่งขึ้นอืด..รอฟังแต่รายงานในห้องประชุม

นายที่ดี...ต้องรู้จักยอมเสียสละตน  เสียสละเวลาอีกเล็กน้อย ...เพื่อค้นหาความจริง  เพื่อควบคุมเจ้าลิง...เพราะไม่เช่นนั้น...องค์กรก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   ถ้าลิงสงบได้...องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย

หมายเลขบันทึก: 469791เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2011 09:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 00:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผมอยากจะบอกว่า เหตุการณ์ทำนองนี้ดูเหมือนมันจะเป็นวิถีชีวิตที่ปรกติของคนในสังคมเราไปแล้วครับผม "จากเรื่องไม่ปรกติแต่เราไม่ใส่ใจ แล้วอยู่กับมันจนคุ้นเคย จนกลายเป็นเรื่องปรกติ" มีหลายคนบอกผมว่า "ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละอาจารย์" มันเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี คนที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องแต่ถ้าคนส่วนใหญ่เขาไม่ทำกันก็กลายเป็น "เจ้าแกะดำ" ในสังคมไทยมีคำพังเพยที่ผมเคยได้ยิน "ทำดีได้แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย" อันนี้ยิ่งย้ำความเชื่อมั่นว่าในวิถีไทยของเรา เจ้าลาที่ทำแต่ความดีต้องทำแบบแอบๆเงียบๆไม่เป็นที่เปิดเผย เพราะหากเปิดเผยมากไป "ไอ้พวกลิง" ที่นิสัยส่วนลึกมันมีแต่ความอิจฉา ริษยา ก็จะคอยหาเรื่องก่อกวน ปิดกั้น กั๊ก กักกัน ทุกวิถีทาง ยิ่งหากการทำความดีนั้น เป็นสิ่งที่ไปกระทบกับ "ผลประโยชน์" เจ้าลิงด้วยแล้วละก็ มันยิ่งต้องหาวิธีกำจัด "จุดอ่อน" ของเจ้าลา โดยการยุยง ปลุกปั่น คอยไซโคอยู่ข้างหูเจ้านายทุกวัน มิหนำซ้ำอาจมีการตบแต่ง สร้างเรื่อง เขียนบท เชื่อมโยงกับสิ่งที่มีอิทธิพลกับจิตใจคนส่วนมาก ให้มองการทำความดีของเจ้าลา เป็นความชั่วที่เลวร้ายไป

เรื่องพวกนี้แปลกนะครับ เวลาผมไปบรรยายให้ความรู้ ที่ไหน ถ้ายกประเด็นนี้มาพูด จะมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่พอฟังเข้าถึงจุดแล้ว จะแสดงความอึดอัดให้ผมเห็นทันที ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า อากัปกิริยา แต่มีส่วนน้อยที่จะพูดถึงความรู้สึกตัวเองในห้อง เพื่อแชร์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่วนมากก็เอาไปพูดต่อกันนอกห้อง แต่ผมไม่ได้สนใจ ผมแค่นึกถึงว่าที่เขามีพิธีสวดภาณยักษ์ (ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่านะครับ)เคยไปเข้าร่วมพิธี แล้วเห็นคนที่เขาบอกกันว่า "ของขึ้น" แสดงพฤติกรรมแปลกๆออกมา ทำให้ผมเข้าใจเลยว่า คนเหล่านั้นคือ "เจ้าลิง" .....นี่หว่า

เด็กบางคนถามผมว่า "อาจารย์ไม่กลัวเหรอ พูดตรงไปหรือเปล่า?" ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมไม่กลัวหรอกคนชั่ว เพราะคนชั่วนั้นด้วยกรรมของเขามันบดบัง "ปัญญา" เขาไปหมดแล้วละ แต่ผมกลัวคนดีมากกว่านะ เพราะเขาเป็นผู้มี "ปัญญาสูง" แค่คิดจะเล่นงานเขา เราก็มีกรรมแล้ว

ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้นะครับ มีโอกาสจะเข้ามาติดตามแลกเปลี่ยนอีกครับผม

จริงๆแล้วน่าสงสารลิงต่างหาก ลิงน่าสงสารที่สุด ที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน สุดท้ายผลก็กลับมาทำให้ตัวลิงเองเดือดร้อน คนที่ทำความผิดนั่งก็สะดุ้ง นอนก็สะดุ้ง ยืนก็สะดุ้ง กรรมมาทำให้สะดุ้งตลอดเวลา ยิ่งเจตนาแรงเท่าไรผลที่ย้อนกลับมาก็แรงเท่านั้น หนีอะไรหนีได้ แต่หนีกรรมหนีไม่พ้น กรรมชั่วจึงน่ากลัวที่สุด..

ขอบคุณครับท่าน อาจารย์ธนากรณ์ ฯ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์ ต่อสู้กับพวกลิงหลอกเจ้า ....

จริงอย่างที่คุณ ซาไก ว่า มันเป็นกรรมของเจ้าพวกลิง ที่เกิดมามีธรรมชาติเป็นเช่นนั้น

แล้วก็ต้องอยู่ไม่สุก กลายเป็นสัตว์ที่ต้องลุกลี้ลุกลน เมื่อเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกกระทำได้ ทำไมคนๆนั้นจึงเลือกทำเหมือนลิงล่ะ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท