พระครูอุดมธรรมานุกิจ
พระ พระครูอุดมธรรมานุกิจ อุตฺตโม บัวทะราช

ปัญญาความรู้อันฉลาด


ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก

ลักษณะของปัญญา

         คำว่าปัญญาทุกคนแสวงหา เพราะปัญญาเปรียบดั่งแสงสว่างในโลก จะทำอะไรมักเกิดผลเมื่อมีปัญญา  แต่ก็ยังมีคำกล่าวของคนอีสาน ว่า "ปัญญามีบ่อแพ้ เงินสิค้ากะบ่อมี" อย่างไรก็ตามปัญญาย่อมเป็นคุณธรรมคู่กับ  ศีล  สมาธิ และปัญญา

         พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ นี้ มีอยู่ในโลก บุคคล ๓ คือใคร   คือ

           บุคคลปัญญาดังหม้อคว่ำ

           บุคคลปัญญาดังหน้าตัก

           บุคคลปัญญามากดังหม้องาย

บุคคลปัญญาดังหมอคว่ำ เป็นอย่างไร

       บุคคลลางคนในโลกนี้ไปวัดเพื่อฟังธรรมในสำนักภิกษุทั้งหลายเนื่อง ๆ ภิกษุทั้งหลายแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้น อันงามในท่ามกลาง อันงามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะแจ่มแจ้งเต็มที่แก่บุคคลนั้น  เขานั่ง ณ ที่นั่งนั้นไม่ใส่ใจถึงเบื้องต้น  ท่ามกลาง  ที่สุดแห่งธรรม กถานั้น  แม้ลุกไปจากที่นั่งนั้นแล้ว ก็ไม่ใส่ใจถึง เปรียบเสมือนหม้อคว่ำ นำที่บุคคลราดลงไปบนหม้อนั้นย่อมไหลไปไม่ขังอยู่ ฉันใด บุคคลไปวัดเพื่องฟังธรรม แต่ไม่ใส่ใจในธรรมนั้น เหมือนหม้อคว่ำ

บุคคลปัญญาดังหน้าตักเป็นอย่างไร

        บุคคลลางคนในโลกนี้ไปวัดเพื่อฟังธรรมในสำนักภิกษุทั้งหลาย เนือง ๆภิกษุทั้งหลายแสดงธรรม อันงามเบื้องต้น  ท่ามกลาง และที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะแจ่มแจ้งเต็มที่แก่บุคคลนั้น

        เขานั่ง ณที่นั้นใส่ใจทั้งเบื้องต้น  ท่ามกลาง และที่สุด แห่งธรรม กถานั้น

เมื่อลุกไปไม่ใส่ใจ  เปรียบเหมือนของเคี้ยวต่าง ๆวางรายอยุ่บนหน้าตักของคน เช่น งา  ข้าวสาร แปป้ง พุทรา คนนั้นเผลอตัวลุกขึ้นจากที่นั่งนั้น(ของเคี้ยวนั้น) ก็เกลื่อนไปฉันใด  บุคคลลางคน ไปวัดฟังธรรมลุกจากที่นั่งแล้วไม่ใส่ใจ เหมือนปัญญาดังหน้าตัก

บุคคลปัญญามากเป็นอย่างไร

        บุคคลลางคนในโลกนี้ ไปวัดเพื่อฟังธรรมในสำนักภิกษุทั้งหลาย เนือง ๆ เขานั่งฟังใสใจทั้งเบื้อต้น  ท่ามกลาง และที่สุด แห่งพระธรรมกถานั้น  แม่ลุกไปแล้ว ก็ใส่ใจไว้เบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดแห่งธรรมกถานั้น เปรียบเหมือนหม้อหงาย นำที่บุคคลเทลงไปในหม้อนั้น ย่อมขังอยู่ไม่ไหลไป  ฉันใดก็ฉันนั้น เปรียบได้ผู้ปัญญามาก

       นี้แล ภิกษุทั้งหลาย บุคคล  ๓  มีอยู่ในโลก  และเราได้เปรียบบุคลลดั่งดอกบัวยังมีสี่เหล่า  ปุถุชนก็มี  ๔  เหล่าเช่นกัน  ๑. ฉลาดมีปัญญามาก  ดอกบัวเหนือน้ำต้องแสงตะวันก็จะบานในเช้านั้น  ๒  ฉลาดปานกลาง อีกวันต่อมาต้องแสงแดดก็จะบาน  ๓.ฉลาดพอแกไขได้ ดอกบัวที่ขึ้นพ้นดินมา ไม่เป็นอาหารเต่าและปลา มีปุ๋ยพอเหมาะสมก็จะเจริญต้องแสงตะวันและบานในวันต่อมา ๔.ฉลาดแบบมองไม่เห็น ดอกบัวที่อยู่ใต้โคลนตม เมื่อขึ้นก็คงจะเป็นอาหารเต๋าและปลา จะเขี้ยวเข็ญสักปานใด ก็ไม่สามารถ เห็นตะวันและบานได้ เป็นต้น

        ความคิดเห็น  คนเราสอนได้ดีในโรงเรียนที่มีนักเรียนเป็นอุคติตัญญู เหนือน้ำแล้ว แม้อะบายเพียงเล็กน้อยก็เข้าใจได้  และปะทะปรมะ ใต้โคลนตม จะพร่ำสอนสักเท่าใด กิจกรรมมากเท่าใด ก็ไม่สามารถจะสำเร็จผลได้ อ่านไม่ได้  เขียนไม่เป็น พูดไม่ชัด ชุกชน สร้างจุดเด่นในทางที่ไม่ดี ..............ผู้เหล่านี้แล เอวังเจริญพร

ข้อมูลจากพระไตรปิฏก เล่ม  ๓๔ หน้า ๙๘

คำสำคัญ (Tags): #ลักษณะของปัญญา
หมายเลขบันทึก: 469168เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2011 22:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 22:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท