ครั้งแรกที่จันทบุรีกับมิตรภาพในหลักสูตร Note Taker ของโรงพยาบาลพระปกเกล้า ตอนจบ
กิจกรรมวันที่ ๒ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของ Workshop ครั้งนี้ วิทยากรจาก สคส. ให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกทัษะการจดบันทึกเรื่องเล่า ซึ่งกิจกรรมนี้ นอกจากผู้เข้าร่วมจะได้ฝึกทักษะการจดบันทึกเรื่องเล่าแล้ว ผู้เข้าร่วมแต่ละคนยังได้ฝึกการเล่าเรื่อง ฝึกการตั้งคำถามเพื่อดึง Tacit Knowledge พร้อมทั้งการสรุปตีความเรื่องเล่าแต่ละเรื่องด้วย ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความตั้งใจจริงในการจดบันทึกเรื่องเล่า เพราะเราให้แต่ละคนได้ฝึกทักษะต่างๆ เหล่านี้กันทุกคน
เมื่อจบกิจกรรมนี้ ทุกคนจะมีผลงานของตนเอง คือ การบันทึกเรื่องเล่าของเพื่อนหนึ่งคนในกลุ่ม หลังจากนั้น เราได้ให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้เดินอ่านผลงานของเพื่อนคนอื่นๆ เพื่อพิจารณาว่า แต่ละเรื่องที่เพื่อนๆ ได้บันทึกเรื่องเล่าไว้นั้น เรื่องไหนที่เราประทับใจ เรื่องไหนที่บันทึกได้ดี เพราะอะไร เพื่อนำสิ่งที่แต่ละคนได้เดินอ่านเรื่องเล่าทั้งหมด มาสะท้อนในวงการเรียนรู้ร่วมกัน
กิจกรรมถัดมา เราได้ให้ผู้เข้าร่วมกระบวนการทั้งหมดได้ช่วยกันสกัดแก่นหรือเทคนิคสำคัญของการบันทึกเรื่องเล่าที่ดี ต้องมีองค์ประกอบหรือลักษณะอย่างไรบ้าง ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมได้สรุปการเรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับกิจกรรมสุดท้ายของ Workshop ครั้งนี้ คือ การ AAR โดยผู้เขียนสรุป AAR ของผู้เข้าร่วมกระบวนการ ได้ดังนี้
- ถ้าเราต้องการ MK เราต้องมีเงิน แต่ถ้าเราต้องการ KM เราต้องมีใจ
- จะเป็นผู้ฟังและจับประเด็นที่ดีขึ้น
- นำไปใช้ในการทำงานหรือการเก็บข้อมูลได้
- คิดว่าจะนำไปใช้ในการจดบันทึกการประชุมได้ดีขึ้น
- ได้มิตรภาพที่ดี
- รู้จักกันมากขึ้น รู้ว่าแต่ละคนมีความสามารถอะไรที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
- มีความชัดเจน เข้าใจการจดบันทึกเรื่องเล่ามากยิ่งขึ้น บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ สนุกสนาน ได้แลกเปลี่ยน ได้เปิดใจ กลับไปคงได้ไปประสานงาน ร่วมกันงาน มีสมาชิกเข้ามาเรียนรู้มากขึ้น งานของโรงพยาบาลก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ความรู้ที่ได้รับ จะไปทำหน้าที่เลขาฯ ให้ดียิ่งขึ้น จะกลับไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้มา เพราะกว่าจะเข้าร่วมครั้งนี้ได้ ยากมาก ต้องผ่านการพิจารณาหลายขั้นตอน
- การสร้างสัมพันธภาพระหว่างหน่วยงาน
- กับ KM ยังเป็นแค่เพื่อนสนิท ยังไม่ใช่เพื่อนซี้ เกินความคาดหวังคือ เรื่อง อุนดา ได้เรื่องการเป็น Note Taker ที่ดี และการเป็นคนเล่าเรื่องที่ดี ถ้าใช้ KM กับครอบครัว ความขัดแย้งก็จะลดน้อยลง อยากได้ตัวอย่างที่ดีของการใช้ KM ในที่ต่างๆ
- กิจกรรมที่ได้ทำ เหมือนกับการดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้มากกว่าที่เราคิดไว้
- ตอนแรกไม่เข้าใจว่าเทคนิคการดึงความรู้ปฏิบัติ คืออะไร เมื่อมาเรียนรู้แล้ว ได้มาก ได้เรียนรู้มากขึ้น จับประเด็นเป็น บันทึกเป็น ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข
- ถ้าเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดกัน จับประเด็นไม่ได้ เราจะไม่สามารถจดบันทึกอะไรได้เลย ได้เพื่อนในวัยเด็กกว่าเราอีกเยอะ จะนำไปฝึกปฏิบัติต่อไป
- เป็นการอบรมที่สบายๆ แต่ได้อะไรเยอะ จะนำไปถ่ายทอดต่อ
- ปกติไม่ค่อยฟัง ชอบพูด กลับไปจะเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้น และจดบันทึกให้มากขึ้น
- จะนำไปใช้ต่อกับงานที่รับผิดชอบ (โรคเรื้อรัง)
- ได้เรียนรู้หลายๆ เรื่อง การฟัง การเล่าเรื่อง การจดบันทึก ได้เพื่อนใหม่ที่เป็นเด็กๆ ทำให้เราเด็กไปอีกเยอะ
- ได้หลักการของการเล่าเรื่อง เล่าอย่างไรให้เข้าใจและติดตามเรื่องที่เล่า รู้ว่าคนเล่าต้องการสื่ออะไร ฟังได้ดี ก็น่าจะทำให้เราจดได้ดียิ่งขึ้น
- ตอนแรกเครียดมาก อ่านกำหนดการแล้วทำไมดูเป็นกันเองจัง เมื่อได้มาก็รู้สึกว่าสนุกและอยากมาอีก และอยากให้คนอื่นๆ ได้มาด้วย เพราะมีประโยชน์จริงๆ
- ขั้นตอนการสมัคร มีการสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกคนที่จะเข้ามาด้วย กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่าย ได้เทคนิคต่างๆ ที่จะดึงความรู้ของคนอื่นๆ ออกมาบันทึกจัดเก็บไว้ ได้เทคนิคนี้ไปใช้กับส่วนงานของเรา ได้พับจรวดเป็น
- ได้ตามที่คาดหวัง กลับไปเล่าให้คนอื่นๆ ที่ทำงานฟัง เห็นแนวทางว่าจะกลับไปทำอะไรกับงานของกลุ่มงานตัวเอง
- กลับไปจะนำไปใช้ในการจดบันทึกการประชุม นำไปใช้กับตัวเอง และไปแนะนำให้คนอื่นๆ ได้รู้จักด้วย
- จะกลับไปใช้กับน้องๆ ที่ทำงาน ให้แต่ละคนได้เล่าเรื่องความสำเร็จในเรื่องต่างๆ มาแลกเปลี่ยนและจดบันทึกไว้ เป็นความรู้ของกลุ่มงาน
- ได้เพื่อนใหม่ ได้รับรู้ความรู้สึกนึกคิดที่ดีต่อกัน จะนำความรู้ไปพัฒนาตนเองก่อน คิดว่าตัวเองยังจับประเด็นไม่ดีเท่าไร ฟังแล้วยังจดบันทึกไม่ได้เท่าไร การเล่าก็ต้องพัฒนาในการเล่าให้ดีและน่าสนใจมากขึ้น แล้วจึงนำไปพัฒนางานที่รับผิดชอบ รู้สึกว่า เวลาน้อยเกินไปในการเข้าร่วมอบรม
- รู้ข่าวการอบรมนี้หลายเดือนแล้ว ก็ตั้งใจไว้ว่า เราจะเข้าอบรมนี้ครั้งนี้ให้ได้ จึงมีความตั้งใจในการเรียนรู้มาก อยากได้เอกสารสรุป เพื่อนำไปใช้ต่อ
- KM กับการเล่าเรื่อง เคยได้ยินบ่อยมาก แต่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ชอบการอบรมแบบนี้ เป็นรูปแบบที่ดี ได้รู้จักพี่ๆ น้องๆ เพิ่มเติม
- ตอนแรกไม่ได้มา แต่มาแทนคนอื่น มาอบรมทำให้เราได้เรียนรู้ จะกลับไปพัฒนาตนเองให้ดีก่อน จึงจะไปบอกคนอื่น
- ได้น้อย คือ การได้เที่ยว แต่ไม่เสียใจ เพราะทำให้เราได้รู้จักับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มากขึ้น สำหรับความรู้ เชื่อว่าจะนำไปปฏิบัติจริงได้มากขึ้น กล้าที่จะนำไปใช้ เพราะเราเข้าใจมากขึ้น
- ได้เกินความคาดหวังตั้งแต่เรา เพราะไม่คิดว่า เราจะได้รับเลือกให้มาอบรม ตอนแรกไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจเลย แต่เมื่ออบรมแล้ว ได้เข้าใจมากขึ้น ได้ประโยชน์กับการทำงานของเรามาก ประทับใจวิธีการอบรม ที่นั่งกอดหมอน นอนอบรม รู้สึกสนุกสนานและอยากเรียน ไม่เครียดเลย อบอุ่นน่ารัก ประทับใจมาก
ครั้งแรกที่ได้ไปเยือนจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้ ผู้เขียนและทีม สคส. ได้อิ่มเอมใจและประทับใจกับมิตรภาพ ของผู้เข้าร่วมกระบวนการจากโรงพยาบาลพระปกเกล้าเป็นอย่างดี ประทับใจมากจนผู้เขียนต้องบันทึกเรื่องนี้ไว้ และคิดว่า คงได้มีโอกาสไปเยือนจันทบุรีอีก
หญิง สคส.
ความเห็น (2)
สบายดีนะคะด้วยความระลึกถึงจากชาวป่าติ้ว
สบายดีตามสภาพน้ำท่วมบ้านค่ะ ขอบคุณชาวป่าติ้วด้วยนะค่ะที่ยังระลึกถึงกัน