จดหมายถึงครู l กลับบ้านพ่อแม่


วันอาทิตย์ ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔

กราบสวัสดีค่ะครู

เช้านี้ตื่นขึ้นมากำลังว่าจะลุก พลิกตัว แม่หลับอยู่แต่พ่อกำลังนั่งสมาธิ ใจรู้สึกปีติกับความตั้งใจของพ่อ แต่ติ๋วก็พลิกตัวกลับนอนอยู่เช่นนั้นแล้วหลับไป ตื่นมาอีกที ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้ว จึงอาบน้ำ แล้วก็เตรียมกับข้าวไปวัด ระหว่างทางสวดอิติปิโสไปเรื่อย ๆ ก่อนถึงหน้าวัด มีไก่ตัวหนึ่งบินกระโจนเข้ามา ตรงกะจังหน้าชนปักเข้าไป รถขับไม่เร็ว แต่ใจหายวูบ ปาณาติปาต ผิดศีลข้อหนึ่งเต็ม ๆ ติ๋วจอดรถกึก กำลังจะลง มีแม่ท่านหนึ่งเดินออกมาหยิบไก่ตัวนั้นขึ้นแล้วก็เดินไป มีเสียงถามตนเอง ทำไมไม่ลงไปดู ไม่ถาม แกอำมหิตมาก พร่ำพูดกำบตนเองในใจ ระลึกถึงครั้งหนึ่งที่ครูเล่าให้ฟังถึงการขับรถชนแมวโดยไม่ตั้งใจ ครูได้ทำให้ดูถึงความงดงามในใจ ทวนสอบเข้ามาในใจตนเอง แม้ไก่จะถูกหยิบไปแต่ก็ถอยรถไปถามได้ ระลึกขออโหสิกรรมและอุทิศบุญให้ ขอบพระคุณที่มาเตือนสติ อย่าประมาท แล้วกับข้าวที่นำมาวันนี้คือ “ไก่ย่าง และตับไก่” เหมือนตอกย้ำกับตนเอง ขอโอกาสอุทิศกุศลนี้ และทั้งหมดทั้งมวลที่ได้สั่งสมมาแด่ไก่ตัวนี้

พอขึ้นไปถึงวัดรถขนกับข้าวมาพอดี เจอนายตู่เดินผ่านบอกว่าลงไปเอาของที่แม่ชีลืมที่ครัว ซึ่งก็ห่างไปกิโลกว่าๆแบบขึ้นลงเขา จึงอาสาพาลงไป ระลึกว่าเป็นโอกาสค่ะครู พอขึ้นศาลาวันนี้ต่างไปจากเมื่อวาน เพราะเมื่อวานมางานกฐิน จะว่าไปต้องบอกว่า “คืนสู่สภาวะปกติ” พระที่มาฝึกปฏิบัติภาวนาที่วัดนี้รวมๆก็ยี่สิบกว่ารูปได้ค่ะครู มีจำนวนมากกว่า แม่ออก พ่อออกที่มาวัดเช้านี้อีก มีแม่ออกท่านหนึ่งแต่ขันธ์มาขอขมาหลวงปู่ หลวงปู่เมตตาเทศน์สอนเรื่องสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม กรรมใดที่มีต่อท่านนั้นไม่ให้มีหรอก ทุกคนมีกรรมเป็นของ ๆ ตน ทำอะไรไว้ก็ให้ผล ธรรมะทำให้คนอยู่ร่วมกันได้ แต่กิเลสนั่นแหละที่ทำให้ทะเลาะกัน เราเป็นผู้มาฝึกฝนตนเอง อย่าให้กิเลสมันนำหน้า แม่ออกสองท่านน้ำตาไหล หลวงปู่ท่านก็เมตตาค่ะครู เสร็จงานก็ลงมาช่วยดูร้าน พี่ตุ๊กไปช่วยพ่อ และพี่เขย ปลูกมันที่สวน แต่พอบ่าย ๆ ต้องรีบเอาตังค์ไปขึ้นให้พี่สาวจึงได้ออกมาเร็ว ใจก็ระลึกที่ครูแนะให้ไปภาวนา “ถ้าไปภาวนาที่วัดซะคงดี อยู่ไม่อยู่ใจก็รู้สึกไม่ต่าง โดนกิเลสหลอกตามเคย”

ขากลับส่ง sms บอกครู แล้วครูก็โทรมาคุยด้วย ใจระลึกถึงโจทย์ที่ครูชวนคุย แล้วนึกย้อนกับตนเองว่า “กิเลสช่างไม่เลือกหน้า รวย จน คนเข้าวัด ไม่เข้าวัด คนภาวนา ไม่ภาวนา โชคดีที่คนภาวนา มีสติพอจะเห็นกิเลสแล้ว บริหารกิเลสได้ชัดกว่า”

หนทางนี้มีผู้คนเดินมาน้อย เพราะต้องใช้ความอดทนสูง ต่อสิ่งที่ปะทุอยู่ภายใน เห็นผู้คนแล้วก็เข้ามาเตือนตนอยู่ภายใน ติ๋วเองก็ไม่ต่างจากคนทั่วไป ยังวิ่งๆอยู่ภายนอก แต่ภายในยังขาดความนิ่งเย็น และร่มเย็นเองภายใน แต่ก็พออยู่ได้บ้างกับทุกวันนี้ เหนื่อยหน่อย ท้อหน่อย ทุกข์หน่อย ก็ทนเอา อย่างที่ครูพูดเสมอ

ศีลวันนี้ขับรถชนไก่ ผิดศีลข้อ ๑ ค่ะ ทำเพียงระลึกอุทิศบุญแต่ก็ไม่ได้ลงมือไปช่วยเหลือเอง ศีลข้อ ๒ ไม่ได้ขโมยของใครค่ะ ศีลข้อ ๓ ไม่ได้แย่งของรักใคร พอจะปลอดภัยดีค่ะ ศีลข้อ ๔ วันนี้จีบปากจีบคอพูด กระแนะกระแหนบ่อยค่ะ ศีลข้อ ๕ ไม่ดื่มเหล้าค่ะ แต่ที่บ้านขายบุหรี่และยาสูบค่ะครู ยังไม่สามารถนำพาพี่สาวเลิกจำหน่ายได้

หมายเลขบันทึก: 466672เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2011 22:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 21:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ

ชอบคำว่า บริหารกิเลส ...โดนกิเลสหลอก...จังครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท