ความโกธรของพระพุทธเจ้า


จากบันทึก...โลกใบเก่า...กับเช้าวันเสาร์ที่วัด

และ หูมีไว้สำหรับรับเสียง ? 

"หู" น่าจะเป็นอวัยวะที่ทำให้คน ๆ หนึ่ง เกิดความรู้สึก "โกธร" ได้ง่าย

และสามารถเพิ่มความรุนแรงสู่การทะเลาะวิวาทได้มากที่สุด

ถ้าเราไม่สามารถควบคุมสติสตางค์

เมื่อเทียบกับ...จดหมายมาด่าเรา หรือใช้สายตาเหยียดหยาม

กว่าจะส่งความรู้สึกโกธรให้เราน่าจะเดินทางช้าหน่อยกว่า "เสียง"

 

ความโกธร คือ อะไร ?

ผมยกเจ้าของทฤษฎีที่เกิดจากการปฏิบัติจริงนะครับ

หลวงปู่บุดดา ถาวโร  เล่าเรื่องราวของท่านให้ฟังว่า...

มีคราวหนึ่ง ท่านได้รับนิมนต์ให้ไปเทศน์คู่กับท่านเจ้าคุณรูปหนึ่ง

ซึ่งเป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค  ท่านเจ้าคุณรูปนั้นคงเห็นหลวงปู่

เป็นพระบ้านนอก จึงอยากลองภูมิหลวงปู่ ได้ถามหลวงปู่ว่า

จะเทศน์เรื่องอะไร ?

 

หลวงปู่ตอบว่า

 

" เรื่องตัวโกธร  กิเลสตัณหา"

 

ท่านเจ้าคุณชักต่อว่า...

"ตัวโกธรเป็นอย่างไร ?"

หลวงปู่ตอบสั้น ๆ ว่า.... "ส้นตีนไงล่ะ"

ท่านเจ้าคุณก็โกธรหัวฟัดหัวเหวี่ยง หลวงปู่จึงอธิบายว่า...

 

"ตัวโกธรมันเป็นอย่างนี้เองนะ

มันหน้าแดง ๆ นี้แหละ"

 

เราจะจัดการความโกธร ได้อย่างไร ?

ตามจริงผมว่า...มีหลายวิธีที่จะจัดการความโกธรหลายวิธี อาทิ เช่น 

วิธีคลายโกรธ ใน เรื่องเล่าริมระเบียงโบสถ์  โดย โสภณ เปียสนิท

   
สำหรับบันทึกนี้ผมขอยกกรณีศึกษาที่สำคัญในการจัดการความโกธร
พระพุทธเจ้ากับอสุรินทกพราหมณ์
อสุรินทกสูตรที่ ๓
เล่มที่ ๑๕  (อ้งอิงจาก http://www.tipitaka.com/groat.htm )

[๖๓๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในพระวิหารเวฬุวัน อันเป็นที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์ ฯ อสุรินทกภารทวาชพราหมณ์ได้สดับมาว่า ได้ยินว่า พราหมณ์ภารทวาชโคตร ออกจากเรือน บวชเป็นบรรพชิตในสำนักของพระสมณโคดม โกรธขัดใจ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ครั้นแล้ว ด่า บริภาษพระผู้มีพระภาคด้วยวาจาอันหยาบคาย มิใช่ของสัตบุรุษ ฯ เมื่ออสุรินทกภารทวาชพราหมณ์กล่าวอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคได้ทรงนิ่งเสีย ฯ ลำดับนั้นแล อสุรินทกภารทวาชพราหมณ์ได้กล่าวกะพระผู้มีพระภาคว่า พระสมณะ เราชนะท่านแล้ว พระสมณะ เราชนะท่านแล้ว ฯ

[๖๓๖] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ชนพาลกล่าวคำหยาบด้วยวาจา ย่อมสำคัญว่าชนะทีเดียว แต่ความอดกลั้นได้เป็นความชนะของบัณฑิตผู้รู้แจ้งอยู่ ผู้ใดโกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ผู้นั้นเป็นผู้ลามกกว่าบุคคลผู้โกรธแล้ว เพราะการโกรธตอบนั้น
บุคคลไม่โกรธตอบบุคคลผู้โกรธแล้ว ย่อมชื่อว่าชนะสงครามอันบุคคลชนะได้โดยยาก ผู้ใดรู้ว่า ผู้อื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติสงบอยู่ได้ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย คือแก่ตนและแก่ผู้อื่น
เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์อยู่ทั้งสองฝ่าย คือของตนและของผู้อื่น ชนทั้งหลายผู้ไม่ฉลาดในธรรม ย่อมสำคัญบุคคลนั้นว่าเป็นคนเขลา ดังนี้


[๖๓๗] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว อสุรินทกภารทวาชพราหมณ์ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระโคดมผู้เจริญ ทรงประกาศพระธรรมโดยปริยายเป็นอันมาก เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยคิดว่าคนมีจักษุย่อมเห็นรูปได้ฉะนั้น
ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระโคดมผู้เจริญ พระธรรม และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอข้าพระองค์พึงได้บรรพชา พึงได้อุปสมบทในสำนักของพระโคดมผู้เจริญฯ อสุรินทกภารทวาชพราหมณ์ได้บรรพชา ได้อุปสมบทแล้วในสำนักของพระผู้มีพระภาค ก็ท่านอสุรินทกภารทวาชะอุปสมบทแล้วไม่นานแล หลีกไปอยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไปอยู่ ไม่นานเท่าไรนัก ก็กระทำให้แจ้งซึ่งคุณวิเศษอันยอดเยี่ยมเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์
ซึ่งกุลบุตรทั้งหลายผู้ออกจากเรือน บวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ มีความต้องการ ด้วยปัญญาเป็นเครื่องรู้ยิ่งเอง ในปัจจุบันนี้เข้าถึงอยู่ ได้ทราบว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ก็แหละท่านพระอสุรินทกภารทวาชะได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ในบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้แล ฯ

สรุปการจัดการความโกธรของพระพุทธเจ้า คือ

การหยุดเพื่อเป็นผู้แพ้  จากการไม่ตอบโต้ผู้ที่โกธรแล้ว

เมื่อเราอยู่ในเวทีแห่งความโกธร

ทำไมเราต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว...ลงเวทีการแข่งขัน

เพื่อจะไปสู่ความพ่ายแพ้ในอนาคตอันใกล้ทั้งสองฝ่าย

 

เมื่อเวลาผ่านมานานนับถึง ๒,๕๐๐ กว่าปี

แต่ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่เคยตกยุคตกสมัยเลย

เพราะหลักคำสอนมีความเป็นวิทยาศาสตร์ คือ มีเหตุมีผลและพิสูจน์ได้

ผมว่า พระพุทธเจ้าต้องการให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิด

บังคับ...แรงโกธร = แรงเฉื่อย

 

แรงเฉื่อย (อังกฤษ: Inertia http://th.wikipedia.org/wiki) หมายถึง การต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุใด ๆ แรงเฉื่อยมีค่าเท่ากับมวลของวัตถุ หลักการของแรงเฉื่อยเป็นหนึ่งในหลักการพื้นฐานของฟิสิกส์ดั้งเดิม ซึ่งถูกใช้เพื่ออธิบายถึงการเคลื่อนที่ของสสารและการที่สสารนั้นได้รับผลกระทบจากแรงที่มากระทำ คำว่า Interia มาจากภาษาละติน "iners" หมายถึง เฉื่อยชาหรือขี้เกียจ

 

ในกฎการเคลื่อนที่ข้อที่หนึ่งของนิวตัน ระบุว่าวัตถุที่ไม่มีแรงภายนอกมากระทำจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ หากจะอธิบายอย่างง่าย แรงเฉื่อยหมายความว่าวัตถุจะเคลื่อนที่ตลอดเวลาที่ความเร็วเท่าเดิมและในทิศทางเดิมจนกว่าจะมีแรงบางอย่างมากระทำต่อวัตถุอันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความเร็วและทิศทาง นี่รวมไปถึงวัตถุที่ยังไม่เคลื่อนที่ด้วย (คือมีความเร็วเท่ากับศูนย์) ก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่จนกว่าจะมีแรงบางอย่างมากระทำต่อวัตถุให้เคลื่อนที่

 

แต่แรงอย่างอื่นที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อตนเอง และผู้อื่น

ผมว่า...พระพุทธเจ้า...ท่านต้องการให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย

เกิดแรงและเคลื่อนที่เสมอ ๆ

นั้นก็คือ การปฏิบัติ และความเพียรพยายาม

ซึ่งแล้วแต่บุคคล

 

สำหรับผมและครอบครัว...การมาทำความสะอาดวัด และกุฎิหลวงปู่

แม้โอกาสที่จะได้เป็น "ข้ารับใช้พระพุทธศาสนา" จะน้อยนิด

แต่การมารับใช้หลวงปู่...ท่านที่เป็นข้ารับใช้พระพุทธศาสนามายาวนาน

แม้ท่านจะไม่เคยสอนธรรมะให้พวกเราโดยตรง

แต่ด้วยแสงพระธรรมที่ผมมีโอกาสได้มองอย่างสลัว ๆ

ผมรู้สึกอบอุ่นและอ่อนละมุนแผ่ซ่านซึมในหัวใจ

จนอยากเดินทางตามแสงสว่างอันนุ่มนวลนั้น....

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 466664เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2011 22:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 21:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

นำไปเผยแพร่ต่อที่ Ka Poom ค่ะ

...

ขอบพระคุณค่ะ

ขอบคุณ ข้อคิด และการเปรียบเทียบน่าสนใจ แรงโกรธ=แรงเฉื่อย

ให้เราหยุดแรงโกรธ ด้วยแรงทำประโยชน์

I noted the word "โกธร" and "โกรธ" (sankrit).

I am sure it is intentional but I looked up a pali dictionary and found "kodha" (anger).

Perhaps, kodha+ara (อะระ ซี่ล้อ spoke of wheel) --> โกธะระ or in Thai spelling โกธร

We do need to manage our anger (which is difficult in time of great floods and poor government),

in this instance, we should not be silent, but to speak and release our anger.

We can be creative in releasing our anger.

There is no need for vulgarity and swearing.

There is a need to make clear the points of deep concern.

There are many people who are in need of urgent help and we can speak for them (on the Net).

สวัสดีค่ะน้องทิมดาบ

การหยุดเพื่อเป็นผู้แพ้ ขอบคุณข้อคิด คำสอนดีๆที่นำมาฝากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท