ผมค่อยๆ ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ว่าหน้าที่ของคนแก่อย่างผม ไม่ใช่เน้นให้คำตอบ แต่ควรเน้นกระตุ้นการตั้งคำถาม แล้วให้คนหนุ่มสาวเขาไปช่วยกันหาคำตอบ โดยเฉพาะคำตอบที่เป็นรูปธรรม เป็นสารสนเทศ ยิ่งหาจากอินเทอร์เน็ต คนหนุ่มสาวยิ่งหาเก่ง แล้วเราไปช่วยเขาตีความ ช่วยเอา ความรู้ฝังลึก ที่เรามีในฐานะคนที่ผ่านโลกมามาก เอาไปเป็นเครื่องปรุงต้มยำความรู้
กล่าวใหม่ว่าเป็นการช่วยกันคนละไม้คนละมือ มีการค้นหาสารสนเทศรูปธรรม เอามาตีความเป็น explicit knowledge แล้วผสาน tacit knowledge (คนแก่มีมากหน่อย โดยเฉพาะความรู้เชิงบริบท) ก็จะได้ความรู้สำหรับเอาไปทดลองใช้สร้างความสำเร็จตาม "หัวปลา"
คำถามชุดแรก คือคำถามเชิง "ภาพใหญ่" (macroscopic) ในระดับมหาวิทยาลัย และในระดับเหนือมหาวิทยาลัย เช่นระดับการจัดการระบบอุดมศึกษาของประเทศ ระบบการจัดการงาน วิจัย/นวัตกรรม ของประเทศ ระบบการให้เสรีภาพทางวิชาการ อดทนต่อความเห็นทางวิชาการที่แตกต่างจากนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น
แค่เรื่องตั้งคำถามหัวข้อเดียว ก็เขียนบันทึกได้หลายบันทึกแล้วละครับ ผมจะลงรายละเอียดเพื่อจะชี้ให้เห็นว่า เรื่องมหาวิทยาลัยวิจัย มีความซับซ้อนมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันแบบ "หลาวหลาว" (ภาษาปักษ์ใต้ครับ) หรือแบบแค่ lip service
ลองไปศึกษาดูซีครับว่าในประเทศที่มหาวิทยาลัยวิจัยของเขาก้าวหน้า สังคมและการเมืองของเขาอดทน อดกลั้นต่อความเห็นที่แตกต่างอย่างไร รัฐบาล / ประธานาธิบดี / นายกรัฐมนตรี ของเขายอมเปิดกว้างให้มีการวิจัยเชิงนโยบาย ที่อาจวิเคราะห์เชิงตำหนิหรือไม่เห็นพ้องต่อ นโยบาย / มาตรการ ของรัฐบาล ได้อย่างไร เขามีกฎหมาย / มาตรการ ที่ป้องกันฝ่ายการเมืองเข้าไปล้วงลูก ปิดกั้นงบประมาณทางวิชาการ ที่อาจไม่สอดคล้อง หรือไม่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรค หรือของรัฐบาล อย่างไร เราน่าจะเข้าไปศึกษาให้ทะลุ
และถ้า สกอ. กล้าหาญที่จะสนับสนุนการศึกษานี้ จะขอความร่วมมือจากสถานทูตสหรัฐอเมริกา ขอความร่วมมือจาก NSF, NIH, NIST, etc. หรือขอความร่วมมือจาก บริติช เคาน์ซิล ขอข้อมูล และให้คนของเขามาร่วม ลปรร. เขาก็จะยินดีให้ความร่วมมือ เพราะนี่คือพื้นฐานสำคัญของการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของสังคม ย้ำว่ามหาวิทยาลัยของสังคมนะครับ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยของรัฐบาล มหาวิทยาลัยต้องมีเสรีภาพทางวิชาการ ที่จะตรวจสอบ และวิจัย นโยบายสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายระดับพรรคการเมือง ระดับรัฐบาล ระดับองค์การระหว่างประเทศ ระดับประเทศอื่น ระดับองค์กรธุรกิจ ระดับ NGO โดยที่ความน่าเชื่อถือก็จะอยู่ที่ความเป็นกลางและความแม่นยำ เฉียบคม ทางวิชาการ
สรุปว่า คำถามแรกก็คือ บรรยากาศ และระบบของเสรีภาพทางวิชาการ เป็นอย่างไร เชื่อมโยงกับกฎหมายที่บังคับรัฐบาลให้ต้องสนับสนุนอุดมศึกษา และระบบปัญญาอื่นๆ ของสังคมอย่างไร จึงจะทำให้มหาวิทยาลัยวิจัย และระบบทางปัญญาอื่นๆ เกิดขึ้น เติบโต แข็งแรง และทำประโยชน์ให้แก่สังคม ได้จริง
เรื่องนี้เราต้องอย่าเข้าใจผิด ว่ารัฐบาลมีอำนาจทำอะไรก็ได้ ที่เขาอ้างว่าทำเพื่อประชาชน ในประเทศที่ระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็งเขาจะมีกฎหมายป้องกันนักการเมืองเข้าไปใช้อำนาจครอบงำระบบสร้างสรรค์ปัญญาของประเทศนะครับ ประเทศที่เขามีประสบการณ์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาก่อน เขารู้ว่า ต้องจำกัดอำนาจการเมืองครับ ถ้าไม่จำกัด ไม่สร้างการถ่วงดุล การเมืองจะรวบอำนาจ ครอบงำ และในที่สุดสังคมก็จะล่ม การทำวิจัยค้นหากลไกป้องกันอำนาจฉ้อฉลทางการเมืองให้เจอและเอามาบอกสังคมก็จะเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องครับ
ที่จริงประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต้องมีกฎหมาย ระบบ และกลไก ป้องกันการครอบงำ ไม่ว่าโดยใคร แค่มีคณะทำงานของมหาวิทยาลัยศึกษาระบบป้องกันการครอบงำในสังคม ก็จะเกิดคุณูปการแก่บ้านเมืองในขณะนี้อย่างมหาศาล และที่สำคัญจะช่วยยกการครอบงำมหาวิทยาลัย (ทางอ้อม แบบไม่รู้ตัว) ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ออกไปด้วย
วิจารณ์ พานิช
๒๖ สค. ๔๙
คังเซน-เคนโก ธุรกิจออนไลน์ รายได้ดี มั่นคงสำหรับคนไทย
หากคุณอยากเปลี่ยนชีวิตคุณ ลองดูนะคะ โอกาสไม่ได้มีบ่อยครั้ง
• ค่าสมัครแสนถูก ไม่แพง ไม่บังคับซื้อเหมือนบริษัทต่างชาติ
• สะสมคะแนนเพื่อเลื่อนตำแหน่ง ขึ้นไม่มีตก ไม่ต้องกดดัน
• จ่ายผลตอบแทนมากที่สุดถึง 85% หรือ จ่ายคืน 42 บาท ทุกๆ 100 บาท
• ทำได้จริง ไม่เพ้อเจ้อ จ่ายตรงทุกวันที่ 20 ของเดือน
• บริษัทเป็นของคนไทย ดำเนินการมากว่า 15 ปี มีสาขาในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนิเชีย พม่า ลาว ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฯลฯ
• ปัจจุบันมียอดขาย กว่า 2,000 ล้าน/ปี มีสมาชิกมากว่า 500,000 คน สาขามากว่า 100 สาขาทั่วประเทศ
• มีระบบการอบรม ระบบสนับสนุนการทำงาน โดยทีมงาน และบริษัทคังเซน
• กองทุนต่างๆมากมายเมื่อคุณขึ้นตำแหน่ง (SM-CSD)
• สินค้าคุณภาพเยี่ยม เป็นที่รู้จักมากว่า 15 ปี
• มีประกันชีวิตให้ฟรีสำหรับสมาชิก*
• **ผ่านร้อนผ่านหนาว มากว่า 15 ปี แล้วคุณจะลองผิดลองถูก ทำไม?
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมคลิ๊ก www.kangzenthai.com/?id=9
หรือ
"*** เปลี่ยนรายจ่าย เป็นรายรับ กับธุรกิจคังเซน-เคนโก ***
คุณสามารถ ทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา มีเว็บไซด์ ออนไลน์ ให้ระบบทำงาน 24 ชม.
1. ค่าสมัครไม่แพง
2. ไม่ต้องอบรมไม่ต้องเดินขายแบบเดิมๆ ไม่บังคับซื้อ เรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์
3. ขึ้นตำแหน่งใดๆแล้วขึ้นเลย XML:NAMESPACE PREFIX = O />XML:NAMESPACE PREFIX = O />
4. สินค้าคุณภาพราคาประหยัด
5.มีเว็บไซต์ขยายงานฟรีไม่ต้องทำเอง
6.รับประกันชีวิต 120,000 - 360,000 บาท
7. ซื้อสินค้าในราคาสมาชิก (เครื่องสำอาง, ของใช้ในบ้าน, สินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 2,000 รายการ)
8. สินค้าคุณภาพ ราคาไม่เเพง ผู้บริโภคสามารถซื้อใช้ซ้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ง่ายต่อการสร้างเครือข่าย
9. บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีชื่อเสียงและมีความมั่นคงสูงไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นเเชร์ลูกโซ่
10. ศูนย์บริการ มีมาก ถึง 94 แห่งทั่วประเทศ
11.เป็นบริษัทเดียวที่จ่ายภาษีให้สมาชิก ได้เท่าไหร่รับไปเต็มๆ
12.รายได้เสริมคังเซน-เคนโกออนไลน์พึงประเมิณสำหรับมือใหม่สูงถึง4000บ/ด
รายละเอียดเพิ่มเติม หรือสมัคร เพื่อเรียนรู้การหารายได้ ออนไลน์กับเรา คลิก
http://www.kangzenthai.com/?id=9
( หากคลิกไม่ได้ ให้ Copy ไปใส่ที่ Address ค่ะ ) หรือติดต่อ [email protected]
สมัครเป็นสมาชิกคังเซน-เคนโก กับเรา บริษัทมั่นคง สมาชิกมั่งคั่ง สนใจสมัคร หรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ โทร. 084-3062899
คังเซน-เคนโก ธุรกิจออนไลน์ รายได้ดี มั่นคงสำหรับคนไทย มาร่วมสร้างทีมงานกับเราได้แล้ววันนี้