รายงานสถานการณ์น้ำท่วมย้อนหลัง (ต่อ)


น้ำท่วมไปแล้ว

จันทร์ที่  ๑๐  เดือนตุลาคม  ๒๕๕๔  ๑๕.๐๔ น. บ้านพักหัวเดียด

เมื่อวานออกตระเวนติดตามสถานการณ์ตามบ้านคนรู้จักคุ้นเคย  ตื่นเช้าได้ก็มุ่งหน้าไปทางบ้านป้ากาน-ป้าน้อยก่อนเลย  ต้องใช้รถยนต์เพราะรถจักรยานยนต์คงจะไปไม่รอด  มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปทางเส้นหัวเดียดสายหลัง  ผ่านศาลาปู่ทรัพย์หรือที่เรียกภาษาเมืองว่า “ป่าเหี้ยว”  ซึ่งก็เป็นสถานที่เผาศพคนตายของชาวหัวเดียด-ไม้งามนั่นเอง  เข้าซอยหลัง อบต.ไม้งามก็พบกับน้ำท่วมประมาณครึ่งล้อรถยนต์  ไม่แน่ใจว่าจะไปได้หรือเปล่า  แต่ไปได้ซักพักก็พบรถยนต์วิ่งสวนผ่านมาหลายคัน ก็เริ่มเบาใจว่าเป็นเส้นทางที่ทุกคนใช้สัญจรไปมา  ผ่านหน้าอบต.ไม้งามไปเรื่อยๆตามเส้นทางในหมู่บ้านมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปทาง “บ่อปลาพิทักษ์” ซึ่งก็มีน้ำท่วมบนถนนเป็นระยะๆ สักพักก็พบทางแยก  เลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าไปถนนสายริมน้ำ  เป็นถนนข้างโรงเรียนชุมชนบ้านไม้งาม ซึ่งไปตามเส้นทางที่ป้ากานบอกไว้  พอถึงเส้นริมน้ำก็เลี้ยวซ้ายล่องกลับมาทางใต้  ผ่านหน้าวัดเกาะตาเถียร  ซึ่งบนถนนแห้ง  แต่น้ำในแม่ปิงฝั่งขวามือของเรามีน้ำเอ่อขึ้นมาท่วมบ้านที่มีบริเวณต่ำเลยวัดไปประมาณ ๑๐๐ เมตรก็ถึงบ้านป้ากานซึ่งเจ้าของบ้านกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ข้างถนนใต้เต้นท์ที่กางไว้พักหลบแดด  ในรั้วประตูบ้านก็มีเต็นท์ทำครัวอีก ๑ เต้นท์ ซึ่งป้าน้อยกำลังนั่งกินข้าวมื้อกลางวันอยู่  เจ้าของบ้านสาธยายให้ฟังว่า  น้ำเพิ่งลดลงเมื่อเช้าและเพิ่งทำความสะอาดบ้านกันเสร็จเดี๋ยวนี้เอง  ป้ากานพาเข้าไปดูบริเวณหลังบ้านซึ่งน้ำท่วมขึ้นมาถึงบริเวณพื้นนอกชานหลังบ้าน ซึ่งในสภาพปกติจะสูงขึ้นมาจากพื้นดินประมาณ เมตรครึ่งจนถึงสองเมตรแล้วแต่ความต่างระดับของพื้นดินในสวนหลังบ้าน  ป้ากานบอกว่า  ห้องน้ำเพิ่งใช้ได้วันนี้เอง  ไม่ได้ใช้มา ๔ วันแล้ว  เมื่อเยี่ยมบ้านป้ากานเสร็จนั่งพูดคุยกันสักพักก็ซื้อขนมจากบ้านป้ากานแล้วเดินทางต่อไปเยี่ยม  “บ้านน้องกรณ์”  พนักงานราชการครูที่โรงเรียน  ซึ่งป้ากานบอกว่าได้สละบ้านมานอนเต้นท์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ขับรถต่อไปทางใต้อีกประมาณ ๑๐๐  เมตรก็พบบ้านเช่าบนพื้นที่สูงหลายหลังและพบเต้นท์พักชั่วคราวประมาณ สามสี่หลัง  แต่ละหลังอาศัยกันอยู่ สองถึงสามครอบครัว  ครอบครัวของน้องกรณ์อยู่บริเวณใกล้ริมแม่น้ำปิง ซึ่งถ้ามองจากเต้นไปทางใต้ก็จะเห็นบ้านที่น้ำกำลังไหลผ่านมีความสูงประมาณ ๑ เมตรจากพื้นที่ปกติ  น่าเห็นใจทุกครอบครัว  แต่ในยามวิกฤตก็ทำให้หลายครอบครัวรักกัน  พี่สาวคนหนึ่งกำลังผัดซีอิ๊วก็ชวนกินและบอกว่าเมื่อวานมีคนนำเส้นมาแจกก็ทำแล้วแบ่งกันกินไป  บ้านไหนมีอะไรก็กินกันไป  พี่สาวยังพูดทิ้งท้ายให้ฟังด้วยว่า  บ้านเราแค่นี้ไม่เท่าไรดีกว่าภาคกลางเป็นไหนๆ  เค้าลำบากกว่าเรามากแค่ท่วมระดับเราถือว่าสบายมากเลย  ก็นับว่าเป็นความคิดที่ถูกต้องทีเดียว  ในระหว่างที่อยู่บ้านกรณ์   เพื่อนม๋องโทรมาชวนไปดูบ้านที่วังหินซึ่งเป็นเขตน้ำท่วมเช่นเดียวกัน  ซึ่งเจ้าของบ้านทิ้งมาตั้งแต่วันจันทร์(๓ ต.ค.)ที่ผ่านมาแล้ว  คุยโทรศัพท์เสร็จก็เดินทางกลับตามเส้นทางเดิมที่เข้ามาออกมาอยู่บ้านสักพักใหญ่ม๋องก็มารับ  เดินทางลงใต้ไปทางหมู่บ้านวังหินซึ่งต้องผ่านท่าแคที่ว่าน้ำท่วมมากเช่นเดียวกันตั้งแต่วันจันทร์อังคารมาแล้ว  แต่เราใช้เส้นทางสายหลังบ้านเอ๋  ซึ่งมองทำเลแล้วบ้านเอ๋ไม่น่าเป็นห่วง เพราะสูงเด่นเป็นสง่า   เมื่อเข้าเขตบ้านน้ำโจนก็พบกับปรากฏการณ์น้ำท่วมอย่างหนัก  ซึ่งไม่เห็นมีรถสัญจรไปมาเนื่องจากน้ำท่วมครึ่งล้อรถสี่ประตูของม๋อง  สักพักเห็นรถปิคอัพบรรทุกของและคนม้าเกือบเต็มคันรถวิ่งไล่หลังมาอย่างเร็วในขณะที่รถของเราค่อยลุยน้ำไปจนต้องจอดถามคนข้างทางว่าไปได้หรือไม่  ก็ได้รับคำตอบว่าไปได้  แต่ต้องขับเบาๆเพราะน้ำเข้าบ้านคน  ในขณะที่รถคันที่ตามมาทีหลังก็แซงซ้ายไปอย่างมั่นใจ ซึ่งแสดงว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่  กระแสน้ำกำลังไหลเชี่ยวมาก  ไหลจากทิศทางในแม่น้ำออกสู่ด้านท้องนา  ถ้าตรงไหนมีซอยก็จะมองเห็นได้ชัดเจนเพราะว่าน้ำจะไหลไปรวมกันและล่องไปอย่างรวดเร็ว  สองข้างทางเต็มไปด้วยน้ำคนที่อยู่บ้านบางคนก็โบกไม้โบกมือให้กับกล้องถ่ายรูปที่ข้าพเจ้ากำลังเก็บภาพ  บางคนก็จะยืนหน้างอเหมือนไม่พอใจที่รถเราเข้ามา  บางคนก็ร้องบอกให้ขับเบาๆ ซึ่งม๋องบอกว่า ไม่ได้เร็วเกิน ๑๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยแต่รถมันไหลไปเอง  เราก็ขับรถลุยกันไปสองคนด้วยใจกึ่งสู้กึ่งถอย  ถึงปากทางเข้าโรงเรียนบ้านวังหินใกล้บ้านม๋องซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนลาดยางตาก-วังเจ้าสายหลัง  ซึ่งในครั้งแรกคาดว่ามาได้  แต่มีป้ายกั้นทางและบอกว่า  ห้ามผ่าน น้ำลึกมาก  แสดงว่าม๋องได้สำรวจเส้นทางก่อนเข้ามาแล้ว เลยไปสัก ๑๐๐เมตร ก่อนถึงบ้านหลังใหญ่และสวยที่ใครผ่านแล้วต้องมอง ก็ต้องพบกับความประหลาดใจที่ว่า  ไม่มีน้ำท่วมถนน  ที่เป็นนิมิตหมายอันดียิ่งเมื่อเห็นบ้านเช่าของม๋องแล้วยิ่งน่าทึ่งว่าไม่มีน้ำท่วมเลยแสดงว่าที่สูงมาก  แต่หลังบ้านม๋องมีน้ำท่วมขังบริเวณบ้านและสวนของชาวบ้าน  ซึ่งจะว่าไปแล้วในส่วนนี้ก็น่าจะเป็นเกาะที่น้ำท่วมไม่ถึง  โชคดีเป็นของม๋องและพี่ตาดเพราะว่า น้ำไม่ท่วมก็ไม่มีอะไรเสียหาย จากปรากฏการณ์นี้ยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่า “คนทำดีย่อมได้ดี” เพราะทั้งม๋องและพี่ตาดเป็นข้าราชการโดยแท้ที่ทำงานเพื่องาน  ทำงานเพื่อหน้าที่  และทำงานเพื่อเด็กในฐานะที่เป็น  “ข้าราชการครู” 

คำสำคัญ (Tags): #น้ำท่วม
หมายเลขบันทึก: 464608เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2011 09:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท