อสรพิษร้ายตัวหนึ่งเลื้อยเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งและได้กัดเด็กทารกในบ้านนั้นตาย บิดาของเด็กเคราะห์ร้ายเห็นเมื่อสายไปแล้วไม่สามารถทำอะไรงูได้ทัน เขาจึงถือขวานไปซุ่มรออยู่ที่ปากโพรงที่งูอาศัยอยู่ เขารอจนกระทั่งงูโผล่หัวออกมาก็เหวี่ยงขวานลงไปเล่นงานทันที แต่เขาพลาด ขวานโดนหินก้อนหนึ่งบิ่นไป มีเพียงสะเก็ดหินกระเด็นมาโดนงูเจ็บ แต่มันดึงหัวกลับเข้าโพรงได้ทัน มันจึงรอดตาย
เมื่อแก้แค้นไม่สำเร็จ ชายผู้นั้นก็กลับเป็นฝ่ายวิตก เขาจึงเสนอขอปรองดอง กับงู
“คงยากน่าดู” งูตอบ “เพราะว่าพอผมโผล่หัวออกไปทีไรก็เห็นรอยบิ่นบนก้อนหินทุกทีอย่างนี้ และท่านกลับเข้าบ้านไปเห็นเปลของลูกท่านอีกล่ะ จะปรองดองกันได้อย่างไร”
นิทานสรุปให้ว่า เล่นประทุษร้ายกันหนักๆแรงๆ จนเจ็บปวดกันไปทั้งสองฝ่ายแล้วค่อยนึกถึงการปรองดองทีหลัง คงไม่ง่ายเหมือนพูด
(เพื่อนคนหนึ่งเพิ่มเติมว่า จากที่สังเกตพบมานาน ทั้งในวงการนักเลง วงการธุรกิจ ตลอดจนการเมือง ผู้ที่ชวนปรองดองก่อนมักเป็นฝ่ายที่กำลังได้เปรียบ แต่ยังไม่ถึงกับชนะอย่างเด็ดขาด)
ไม่มีความเห็น