กรณีปรสิตศึกษา KM แท้ KM เทียม
KM แท้ทำด้วยใจ ทำโดยไม่รู้สึกตัว ไม่ต้องบังคับ
KM เทียม ทำด้วยอารมณ์ (ไม่พอใจ) ทำไปหาคะแนน(กพร.)ไป บังคับให้ทำก็ยังไม่อยากทำ
ใครได้ประโยชน์และใครเสียประโยชน์แล้วท่านอยากจะทำKMแบบไหน ?
เอาแค่เริ่มแบบของเทียมตอนบังคับให้ทำสมาชิกก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะทำไปทำไม ลองดูของจริงที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างกรณีศึกษางานปรสิตของสถาบันและศวพ. ต่างได้เข้าร่วมกลุ่มกันแบบไม่เห็นหน้า (Virtual space) โดยหาพื้นที่(Ba)ใน Face Book (FB)เป็นกลุ่มแบบปิด ในการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน กิจกรรมนี้ได้เกิดขึ้นหลังการอบรมประจำปีของกลุ่มปรสิตเมื่อเดือนมิถุนายน 2554 การรวมตัวของกลุ่มเกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ลปรร) ระหว่างกันใน 3 ประเด็นหลักๆ คือ ทางด้านวิชาการทางปรสิต ทางด้านเทคนิคและวิธีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และสุดท้ายคือการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ภาคสนามในการรักษาและควบคุมโรคปรสิตในปศุสัตว์ บุคคลกลุ่มแรกที่ได้มาเข้าร่วมกิจกรรมในกลุ่มก็คือเจ้าหน้าที่ทั้งนายสัตวแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานด้านปรสิตของ สสช.และศวพ. ต่อมาก็มีการเชิญ(Add+) กลุ่มอาจารย์จากสถาบันการศึกษาเช่นจากคณะสัตวแพทย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่สนใจในงานด้านนี้เข้ามาร่วมในกลุ่ม และปัจจุบันก็มีกลุ่มงานอื่น ๆที่นอกเหนือจากงานปรสิตเข้ามาร่วมเพิ่มเติมอีก ขณะนี้ทางกลุ่มได้มีเครือข่ายกระจายทั่วประเทศไปแล้วภายในเวลาเพียง 1 อาทิตย์ สมาชิกกลุ่มมีประมาณกว่า 30 คน กิจกรรมที่ทำ ทำแทบทุกวัน ทุกคืนเพราะเมื่อมีใคร Post อะไรลงมาก็จะมีคำตอบความรู้วิ่งเข้ามาในกระดานบน Web board เต็มไปหมด comment กันอย่างสนุกสนาน พยาธิตัวที่แปลกๆ และหายากก็ลงมาโชว์ตัวกันใหญ่ใน Web และทางกลุ่มได้สืบเสาะหาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ในแต่ละสาขามาสะสมในคลังสมองของกลุ่มอีกด้วยเพื่อช่วยสนับสนุนความรู้ด้านวิชาการ ใครจะว่าอย่างไรเราก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าขบวนการ KM ของแท้ได้เกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเพราะทุกคนมีจิตอาสาที่จะเผื่อแผ่ความรู้ระหว่างกัน Share to learn เพลิน to see ฟรี to cap(ture)ความรู้ ทุกคนที่เข้าร่วมกลุ่มได้ประโยชน์หมด
มาถึงKM เทียมบ้าง ทำไปปาดเหงื่อไปจะได้คะแนน กพร. หรือเปล่าก็ไม่รู้ ทุกคนที่ทำเครียดหมด มีความรู้สึกต้านว่าไม่อยากทำ แค่เห็นกระบวนการคิด 7 ขั้นตอนตาม Format ของกพร.แล้ว ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ ก็ไม่มีใครรู้ (รู้ก็ไม่มีใครบอก) ต้องเตรียมเอกสารวุ่นวายไปหมด สุดท้ายแทนที่จะได้กรอบวิธีคิดหรือความสัมพันธ์ระหว่างคน ได้แค่เอกสารมาเล่มเดียวและคะแนน กพร. อีกหน่อยก็แค่นั้น
กรณีปรสิตศึกษาครั้งนี้ชัดเจนมากในกระบวนการทำ KM แท้ กระบวนการทำKM ไม่ว่าแท้หรือเทียม ในส่วนของกรม สสช. ศออ. ศวพ. คิดว่าทุกคนมีจุดร่วมที่ต่างกันคงต้องไปสุมหัวคิดกันใหม่ให้มีจุดร่วมที่เหมือนกันบ้าง KMที่เกิดจึงจะเป็นของแท้ที่ทุกคนทำแล้ว ได้ประโยชน์ ทำแล้วมีความสุข และสนุกทุกครั้งที่ได้ทำ
ไม่มีความเห็น