เปิดเลนส์ ส่องโลก ท่องแดนไกล ตามใจฉัน อินเดีย แคชเมียร์ ตอนที่ 3 เยือนรัฐจัมมู & แคชเมียร์


เยือนแคชเมียร์ นอนบ้านเรือ ตะลอนทัวร์สวนดอกไม้

                  เช้าวันที่ 22 กันยายน พวกเราตื่นขึ้นมารับประทานอาหารเช้า ป้าเรณู (เจ้าของบ้านพัก) จัดเตรียมอาหารเช้าแบบอเมริกันไว้ให้พวกเราเป็นอย่างดี ประทับใจกับอาหารมื้อเช้ามื้อนี้มาก สายๆ รถมารับพวกเราไปสนามบินอินทิราคานธีเพื่อออกเดินทางต่อไปยังเมืองศรีนากา (เมืองหลวงของรัฐจัมมู & แคชเมียร์) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ก่อนจะไปสนามบินพวกเราก็ไม่ลืมที่จะขอถ่ายรูปกับเจ้าของบ้านพักที่แสนน่ารักคนนี้ค่ะ

                  เอาล่ะมาถึงสนามบินแล้วก็ทำการเช็คอิน ตามที่หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมา เพื่อนๆ หลายคนบอกว่าแบตเตอรี่สำรองของกล้องถ่ายรูปไม่ให้เอาขึ้นเครื่องบินไม่อย่างนั้นจะถูกยึด อิชั้นไม่อยากมีปัญหาเลยโหลดลงใต้เครื่องบิน สนามบินที่นี่จะเข้มงวดนิ๊ดนึง ดิฉันโดนตรวจร่างกายแบบว่าถูกลูบทุกส่วนสัดของร่างกายจนแทบจะล้วงเข้าไปในกางเกงเลยทีเดียว ใช้เวลาบินจากนิวเดลีไปศรีนากาประมาณ 1.20 ชม. ค่ะ เค้าบอกว่าถ้าอยากเห็นภูเขาหิมาลัยให้นั่งฝั่งขวาของเครื่องบิน แต่ขาไปอิชั้นนั่งทางฝั่งซ้ายค่ะ ก็เห็นภูเขาบ้างนิดหน่อย เสียดายตอนที่ไปไม่ใช่ช่วงหน้าหนาว จึงไม่เห็นหิมะบนยอดเขาขาวโพลนเหมือนที่เพื่อนๆ บางคนโพสต์ไว้ในอินเตอร์เน็ต

                  มาถึงสนามบินศรีนากาแล้วค่ะ สนามบินที่นี่ขนาดเล็กกะทัดรัดดีค่ะ อากาศดีค่ะ ไม่ร้อน ไม่หนาว มาถึงเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในสนามบินก็ให้พวกเรากรอกเอกสารเข้าเมืองค่ะ พอพวกเราออกมาจากสนามบินก็เจอ Mr. Tariq ค่ะ เป็นคนขับรถของบ้านเรือ มารอรับพวกเราอยู่แล้ว รถค่อนข้างใหม่ เจ็ดที่นั่ง นั่งสบายค่ะ ชอบมาก

                  ลืมบอกไปว่าตั้งแต่ในสนามบินจนออกมาในเมืองอิชั้นเห็นทหารยืนตรึงกำลังเต็มไปหมดสองข้างทางค่ะ ก่อนมาพวกเราก็หาข้อมูลมาแล้วว่าถือเป็นเรื่องปกติ เพราะที่แคชเมียร์กับปากีสถานมีปัญหาเรื่องแบ่งแยกดินแดนกันอยู่ พวกเราก็เลยไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร อิชั้นสังเกตบ้านเมืองที่นี่ตลอดสองข้างทางไม่เหมือนที่นิวเดลีและอัคราเลยค่ะ บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน บรรยากาศโดยรวมดูดีมากค่ะ เริ่มรู้สึกดีกับอินเดียเพิ่มมากขึ้น ที่นี่แตกต่างจากเมื่อวันก่อนโดยสิ้นเชิง ยกเว้นอยู่อย่างเดียวค่ะที่เหมือนกันไม่มีเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ “บีบแตร” อีกแล้วก๊าบบบบบ หนีไม่พ้นจริงๆ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกชินแล้วค่ะ ก็เลยไม่ได้ใส่ใจตรงนี้เท่าไหร่

                  นั่งรถมาซักพักก็มาถึงท่าเรือทะเลสาบดาลแล้วค่ะ ตื่นเต้นมากมาย เรือที่นี่เค้าเรียกว่า “ชิการ่า” ค่ะ เรือสีสันสวยมากเลย นั่งก็สบาย น้ำในทะเลสาบก็ดูสะอาด ใสกิ๋งเลยค่ะ ประทับใจมากมาย พายเรือมาซัก 5นาทีก็ถึงบ้านเรือที่พวกเราจะพักกันแล้วค่ะ พวกเราพักกันที่ “Chicago Houseboat” ว้าว ระเบียงสีสันเจ็บปวดได้ใจดีจัง มีคนมารอต้อนรับอยู่แล้วค่ะ

                  พอขึ้นบ้านเรือ Mr. Ajaz เจ้าของบ้านเรือก็มารอต้อนรับพวกเราด้วยชาแคชเมียร์ร้อนๆ กับคุกกี้ อร่อยมากค่ะ หลังจากทักทายและแนะนำตัวกันพอเป็นพิธี พ่อบ้านก็พาพวกเราเดินชมบ้านเรือคะ และจัดการเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย พวกเราก็มีเวลาเล็กน้อยชื่นชมกับระเบียงหน้าบ้านเรือ ชอบบรรยากาศที่นี่สุดๆ ค่ะ เงียบ สงบ สวยงาม สวรรค์จริงๆ เลย

                  โปรแกรมแรกของพวกเราคือไปชมสวนดอกไม้ค่ะ ค่าเข้าน่าจะคนละ  10 รูปี (จำไม่ค่อยได้เพราะเพื่อนอิชั้นเป็นคนไปซื้อตั๋วค่ะ) พวกเราเป็นพวกบ้าสวนดอกไม้กันอยู่แล้ว พอเข้าไปก็แตกกระจายกันไปถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่ง อิๆๆ ที่นี่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นมาขอถ่ายรูปกับพวกเราด้วยค่ะ คงเห็นพวกเราแปลก ส่วนเราก็เห็นเค้าแปลกเหมือนกัน ต่างฝ่ายก็อยากถ่ายรูปด้วยกัน

                  เสร็จจากสวนแรกก็ไปต่อสวนดอกไม้แห่งที่สองกันค่ะอยู่หน้าทะเลสาบดาล สวนสวยมากค่ะ ด้านหน้าติดทะเลสาบด้านหลังติดภูเขา อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนี้ ที่นี่เราเจอกลุ่มเด็กๆ แคชเมียร์ด้วยค่ะ หน้าตาแต่ละคนน่ารักๆ ทั้งนั้นเลย หน้าตาเหมือนลูกครึ่งแขกผสมกับฝรั่งค่ะ ก็เลยเอามาเป็นเหยื่อถ่ายรูป เด็กๆ ที่นี่น่ารักมากค่ะ ชอบถ่ายรูปกันมาก ก็เลยสนุกสนานกันใหญ่

                  จากนั้นคนขับรถก็พาพวกเราไปโรงงานพรมกับผ้าแคชเมียร์ค่ะ เป็นของ Mr. Din ซึ่งเป็นลุงของอาจ๊าด (เจ้าของบ้านเรือ) แหม one stop service จริงๆ Mr. Din บอกว่าพรมที่นี่ใช้การทอมือ พรมแต่ละผืนใช้เวลาเป็นปีกว่าจะทอเสร็จค่ะ พรมสวยค่ะ แต่ราคาก็แพงมิใช่น้อย ผืนใหญ่ๆ ที่เห็นราคาเป็นหมื่นเลยค่ะ อิชั้นถอยพรมอะลาดินผืนน้อยๆ มาหนึ่งผืนค่ะ ราคาสองพันกว่าบาทเอามาให้หลวงลุงนั่งสวดมนต์ค่ะ

                  ต่อจากนั้นก็พามาขายผ้าแคชเมียร์กันต่อค่ะ เท่าที่สังเกตมาหลายๆ ที่คนอินเดียจะพรีเซ็นต์สินค้าเก่งมากค่ะ จะมีลูกสมุนคอยจัดหาสินค้ามา แล้วตัวพ่อก็จะเป็นคนพรีเซ้นต์ รื้อออกมากระจัดกระจายเห็นแล้วเหนื่อยแทนเวลาเก็บเข้าที่ ผ้าสวยมาก พวกเราก็ต่อราคากันสนุกสนาน

                  หลังจากนั้นพวกเราก็กลับมาบ้านเรือมารับประทานอาหารเย็นค่ะ เป็นอาหารอินเดียแท้ๆ ค่ะ กลิ่นเครื่องเทศฉุนมาก แต่รสชาติอร่อยดีนะคะ ในรูปคือ Mr. Muhammad เป็นพ่อบ้านค่ะ นิสัยน่ารักมาก ใจดีสุดๆ ค่ะ

                  หลังอาหารค่ำ ก็ตบท้ายด้วยชาแคชเมียร์ร้อนๆ จะได้นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

พบกับตอนที่ 4 เร็วๆ นี้ค่ะ

 
หมายเลขบันทึก: 463995เขียนเมื่อ 6 ตุลาคม 2011 21:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 19:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

อัสลาม - มาลัยกุม - อั๊พนี่กามนนาเซ่น..

หลายปีก่อนผมเคยไปแถบนั้นเหมือนกัน แต่เป็นการไปทำงาน กะว่าจบเรื่องทหารเรือไทยในอเมริกาตอน - ๒แล้วจะทะยอยนำลงในชื่อ"ผมไปเป็นล่ามที่บังคลาเทศ"..ทำงานที่แท่นเจาะน้ำมันบนบก - ช่วงแรกพักที่เมืองโมลิบาซ่าร์ก่อน Moibazar.ต่อมาได้ย้ายไปพักในแค๊มป์ที่เมือง สีมังโกลSri Mongal.และเมืองซิเล็ท.Silet. พอเริ่มเขียนถึงตรงนี้อยากกินฟิชมัสล่าขึ้นมาตะหงิดๆ Fish Massala.อย่าหาว่าผมดัดจริตเลยน๊ะเสียดายไม่รู้จะเรียกชื่อในภาษาไทยว่าอะไร ? เป็นแบบปลาราดกะทิหรือต้มกะทิอะไรทำนองนั้น เวลาไปกินมื้อเย็นเรานั่งสามล้อถีบไป ที่นั่นเรียก"ริคชา" Richa.ใครไปย่านนั้นจะรักเมืองไทยมาก. No place like HOME.เพราะ เราเจริญกว่าเขาหลายปี..ขนาดคนมีระดับเวลากินอาหารพี่แกยังใช้มือเปิบอยู่เลยครับ ผู้เขียนเคยไปกินตามร้านอาหารนอกแค๊มป์ เขาจะมีห้องที่มีม่านกั้นไว้สำหรับผู้หญิงต่างหาก ผู้หญิงที่นั่นสวยๆหลายคนแต่..พอลมพัดแรงผมแอบเห็นหล่อนเลียมือขณะกินข้าว.สวยแค่ไหนก็ตาม..พอเห็นแล้วหมดแรงเลยครับ.

บองวัวยาร์จ.

สวัสดีอีกครั้ง.

โตนี่ - ฟาง.

๗ ต.ค. ๕๔

พึ่งทราบเรื่องแบตสำรองของกล้อง จากบันทึกนี้เลยครับ ต้องระมัดระวังบ้างละ ^^

สวัสดีค่ะ Ico48 ฟังดูแล้วน่าสนุกนะคะ ตอนที่ดิฉันอยู่ที่เมืองอัคราแล้วแวะรับประทานอาหารน่ะค่ะ ก็เห็นคนท้องถิ่นใช้มือเปิบอาหารเหมือนกันนะคะ แต่ว่าเจ้าของร้านเห็นพวกเราเป็นนักท่องเที่ยวก็เลยเสริฟอาหารพร้อมช้อนให้เรียบร้อย โชคดีไปค่ะ

สวัสดีค่ะ Ico48 ก่อนหน้านี้เพื่อนของเพื่อนดิฉันไปแคชเมียร์มาแล้วเหมือนกันค่ะ โดนยึดถ่านสำรองใส่กล้อง แล้วก็พัดลมตัวเล็กๆ ไปค่ะ ควรจะเอาโหลดใต้ท้องเครื่องบินค่ะ แต่ว่าพวกเลนส์กล้อง (ในกรณีพกหลายเลนส์) อะไรเนี่ย เพื่อนดิฉันก็เอาขึ้นเครื่องนะคะ ก็ผ่านไม่มีปัญหาอะไรค่ะ

 

สวัสดีค่ะ

Ico64

แวะมา เปิดเลนส์ ส่องโลก ท่องแดนไกล ตามใจฉัน อินเดีย แคชเมียร์ ตอนที่ 3 เยือนรัฐจัมมู & แคชเมียร์ค่ะ...very beautiful

สวัสดีค่ะ Ico48 ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาติดตามไปอินเดียด้วยกัน

กำลังจะไปต้นปีหน้าแบบหนาวสุดขั้ว จึงของสอบถามเพื่อเป็นข้อมูลนะคะ

1. อยากทราบว่าค่าที่พักที่บ้านเรือรวมอาหารแล้ว เฉลี่ยคนละเท่าไหร่คะ

2. เอกสารที่ต้องกรอกคนเข้าเมือง ยุ่งยากใหมคะ ต้องเตรียมเอกสารอะไรเพิ่มเติมไหม

3. คิดว่าถ้าเป็น ผญ. ไปคนเดียว จะโอเคไหมคะ

ขอบคุณค่ะ

1. ของชิคาโก้เฮ้าส์โบ๊ทที่ไปพักนะคะ เค้าคิดคนละ 180 $ (ประมาณ 5400 บาท) เป็นค่าที่พัก+อาหาร 2 มื้อ เช้ากับเย็น + ค่าทัวร์ไปเที่ยวในแต่ละวัน+เรือชิการ่ารับส่งในแต่ละวัน ราคานี้พัก 5 วัน 4 คืนนะคะ อ้อ รวมรถไปรับส่งสนามบินด้วยนะคะ

2. เอกสารที่ต้องกรอกคนเข้าเมือง กรอกเยอะเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ยุ่งยากหรอก เอาแค่พาสปอร์ตอย่างเดียวค่ะ

3. ผู้หญิงไปคนเดียวน่าจะปลอดภัยนะคะ เพราะเพื่อนของเพื่อนก็ไปเที่ยวคนเดียวมาเหมือนกันค่ะ (ผู้หญิง) ไปตั้ง 10 วันแน่ะ ดูจากรีวิวมาเห็นผู้หญิงหลายคนก็ไปเที่ยวคนเดียวนะคะ แต่ทำไมไม่ลองชวนคนอื่นๆ ดูล่ะคะ โพสต์ในเว็บดูเผื่อจะมีคนสนใจร่วมเดินทางด้วย หลายคนดีกว่าคนเดียวนะคะ เพราะเวลาเราสนุกสนานอย่างน้อยก็ได้แชร์ความรู้สึกด้วยกัน ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ค่ะ

ถ้าภาษาอังกฤษเราไม่ค่อยจะได้ จะมีปัญหาในการไปเที่ยวเเคชเมียร์ หรือเมืองอื่นของอินเดียไหม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท