Moscow ตอนที่ 1 กว่าจะเจอที่พัก


เตรียมตัว เตรียมใจ ไป Moscow ไม่น่ากลัว และไม่ยาก เกินกว่าความตั้งใจ

ถ้าจะถามว่าคิดยังไงถึงไป Moscow หาคำตอบได้ในบันทึกนี้เลยค่ะ ในครั้งแรกที่ตัดสินใจไปก็ยังงง งง อยู่เหมือนกันว่า ทำไมถึงได้ตัดสินใจไป พอดีว่าช่วงนั้น การบินไทยจัดโปรโมชั่นแลกไมล์ลด 50% ในหลายๆ เส้นทาง หนึ่งในนั้นก็คือ กรุงเทพ-moscow ด้วยไมล์สะสมเพียง 27,500 mile/person และเงินอีก 11,835 baht/person เดินทางภายในเดือนสิงหาคม 2011 การเดินทางครั้งนี้จึงเริ่มขึ้น (ไปกัน 2 คน)

เริ่มต้นด้วยการหาข้อมูลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทั่วไป สถานที่ท่องเที่ยว การเดินทางภายในเมือง Moscow และที่พัก จากหนังสือ และ google อีกอันที่สำคัญมากมาก ช่วยได้มากก็คือ app บน iphone ชื่อว่า SpkEasy RUL จะมีคำพูดที่ใช้บ่อยเวลาเข้าไปเที่ยวในประเทศเช่น ห้องน้ำอยู่ที่ไหน ฯลฯ คือเอากดให้คนรัสเซียฟังเลยค่ะ ช่วยได้เยอะ ขอบอก หลังจากตระเตรียมข้อมูลเป็นอย่างดีแล้วก็เริ่มกันเลยค่ะ อ้อ ไป Moscow ไม่ต้องทำวีซ่า ผู้ที่ถือ passport ไทย สามารถเดินทางเข้า Moscow ได้เลย

เราเดินทางจากลำปางไปสุวรรณภูมิวันที่ 25 สิงหาคม ไปถึงก็เย็นๆ พักที่บ้านญาติ 1 คืน วันที่ 26 สิงหาคม ก็ออกเดินทางไปสุวรรณภูมิโดย airportlink round trip คนละ 150 บาท (ตั๋ว ไป-กลับ มีอายุ 14 วันค่ะ) สิ่งแรกที่เราทำเมื่อไปถึงสุวรรณภูมิก็คือ การไปแลกเงินที่เคาน์เตอร์ exchange ของธนาคารในนั้น ปรากฏว่า ไม่มีสกุลเงิน Ruble ของรัสเซียให้แลกค่ะ ทำการบ้านมาไม่ดี ที่อ่านมาเค้าบอกว่าให้ไปแลกที่ซุปเปอร์ริช จะได้ rate ดี แต่อย่างว่าแหละ ถ้ามาจากต่างจังหวัดโดยเฉพาะลำปางหนาอย่างเราก็หมดสิทธิ์ค่ะ ก็ไม่เป็นไรแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการแลกเป็น Dollar ไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปหาที่แลกที่ Moscow ก็น่าจะมี

การเดินทางใช้เวลาอยู่บนเครื่องประมาณ 9 ชั่วโมง ก็สะดวกสบายดีมากค่ะสำหรับการบินไทย ขณะที่อยู่บนเรื่องก็ร้อรอให้เค้ามาแจก immigration card สำหรับกรอกเวลาผ่านเข้า ตม. Russia ก็เลยถามพนักงาน เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวนี้ไม่ใช้แล้ว อ้าว อันนี้ก็ไม่มีในข้อมูลการบ้านที่ทำมาเหมือนกัน ก็เลยไม่ต้องทำอะไร รอดูต่อไปละกัน

ที่ ตม. Moscow คนเยอะพอๆ กับที่ London เลย แถมแถวก็ไม่เป็นระเบียบ มีการแซงกันตามอัธยาศัย กว่าจะผ่านมาได้ก็เกือบชั่วโมง เวลาที่ Moscow ช้ากว่าบ้านเรา 3 ชั่วโมงค่ะ อ้อ เค้าไม่ต้องเขียน immigration card จริงๆ ด้วย แต่จะมีใบ print ออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์เลย เค้าจะเก็บไว้ 1 ส่วน คืนใส่ใน passport ให้เราเก็บไว้ 1 ส่วน คิดว่าน่าจะใช้ตอนออกประเทศอีกที

ออกมาได้ก็มาหาที่แลกเงินเป็น ruble เพราะที่โรงแรมเค้าจะไม่รับบัตรเครดิตเลยค่ะ ทุกอย่างเป็นเงินสดทั้งสิ้น ขอบอกว่ากรุณาดู rate การแลกให้ดี ถ้าจะให้เจ็บตัวน้อยที่สุดแนะนำให้แลกแค่พอจ่ายค่าโรงแรม ที่เหลือไปแลกข้างนอกเพราะว่าได้ rate ดีกว่าที่สนามบินเยอะมาก

เดินตามป้าย train to Moscow มาเรื่อยก็ออกมาซื้อตั๋ว aeroexpress เป็นรถไฟด่วนจาก airport เข้าไปยังเมือง Moscow แบบไม่จอดราคา 320 ruble ยืนเข้าแถวอยู่ก็เจอป้าฝรั่งแซง 1 คน แถมยังซื้อตั๋ว round trip ไม่สำเร็จอีกเพราะคุยกับคนขายไม่รู้เรื่อง คือเค้าก็มีป้ายบอกวางอยู่หน้า counter เป็นภาษารัสเซียคู่กับภาษาอังกฤษนะคะ คือให้เราอ่าน แต่พอเราบอกเค้าเป็นภาษาอังกฤษ เค้าฟังเราไม่ออก ยังคิดอยู่เลยว่า เค้าน่าจะมีวางไว้เลยเพื่อให้เราชี้ จะได้หมดเรื่อง ก็ไม่เป็นไรค่ะ ซื้อ round trip แต่ได้ single trip มา 555

Adult single trip = 320 ruble

Round trip = 590 ruble

ตั๋วรถไฟเป็นกระดาษบางๆ แบบ termal paper จะมีบาร์โค้ดอยู่เวลาเราจะเข้าไปก็เอาบาร์โค้ดไปแนบที่เครื่องประตูก็จะเปิดออกให้เราเข้าไป จะมีตำรวจคุมอยู่ทุกประตูทางเข้าออกเลยค่ะ เราสองคนก็เดินลากกระเป๋าเข้าไปกันตัวลีบๆ แต่ก็สามารถขึ้นรถไฟได้สำเร็จ ขึ้นไปก็เลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ ภาพนี้เป็นตั๋วรถไฟ aeroexpress ที่ได้มาค่ะ

ภาพนี้เป็นด้านในของรถไฟ aeroexpress ค่ะ

เดินทางประมาณ 45 นาทีก็มาถึงสถานีปลายทางที่ Paveletsky station ที่นี่ทุกคนจะลงกันหมด เราก็เลยลงบ้าง เดินออกมาจากสถานีก็แสนจะยากเย็นเพราะคนเยอะมากมาก มาออกันอยู่บริเวณทางออกเต็มไปหมด จากนั้นเราก็เดินมาถึงทางเข้า metro สายสีเขียว ชื่อว่า Paveletskaya ก่อนเข้าประตูก็เจอแถวซื้อตั๋ว ก็เลยยืนต่อคิวซื้อตั๋วบ้าง แต่จริงๆ แล้วข้างในก็มีที่ขายตั๋วอีก ดังนั้น ไม่ต้องซื้อข้างนอกค่ะ เข้าประตูไปซื้อข้างในได้เลย ข้างนอกนี่เราก็ซื้อแบบ single trip มา 2 ใบ ใบละ 26 ruble เข้าประตูไปเห็นเคาน์เตอร์ขายตั๋วอีกแถมยังคิวไม่ยาวก็เลยไปซื้ออีก คราวนี้ซื้อแบบ 20 เที่ยวอีกคนละ 520 ruble ตั๋วรถไฟก็จะเป็นการ์ดแข็งๆ เข้าออกได้ 20 เที่ยวเลยค่ะ

นี่เป็นตั๋ว Metro แบบเที่ยวเดียวค่ะ ราคา 26 ruble

ส่วนภาพนี้เป็นตั๋ว Metro แบบ 20 เที่ยว เป็นกระดาษแข็งๆ เอาไว้แปะที่เครื่องอ่านเวลาจะเข้าประตู

มองดูป้ายต่างๆ ก็ไม่คุ้นตา เทียบตัวอักษรกับ Metro map ที่ print ไปก็แล้ว ยังไม่เหมือนซะทีเดียว ก็เลย assume ว่าน่าจะเป็นสายนี้แหละ (สีน้ำตาล) แต่อันที่จริงผิดค่ะ เพราะมันเป็นสายสีเขียว หุ หุ ก็ขึ้นไปกัน ปรากฏว่าผ่านไปซัก 1 สถานี รถก็ออกมาบนดิน อ้าว งง เหมือนออกนอกเมืองยังไงก็ไม่รู้แฮะ ก็เลยถามผู้หญิงคนหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษ เธอตอบเป็นภาษารัสเซีย แต่เราก็เข้าใจแฮะว่านี่มันเป็นสายสีเขียว กำลังจะออกนอกเมือง ไม่ใช่สายสีน้ำตาลที่เราจะไป โอ้ ก็เลยลง

พอลงมาแล้ว งงอีก ทำไงดี ยืนมองแผนที่ภาษารัสเซียกันอยู่ มีวัยรุ่นผู้ชายรัสเซีย 2 คน คงเดินผ่านมาเห็นคนดอย 2 คนยืนงง คงนึกสงสารก็เลยเดินมาถามเป็นภาษารัสเซีย เราก็เข้าใจอีกว่า น่าจะถามว่า “ให้ช่วยอะไรมั๊ย” ก็เลยถามเป็นภาษาอังกฤษ เค้าก็ตอบเป็นภาษารัสเซียและภาษามือ ว่าให้ไปทางไหน เราก็เข้าใจอีก โห เก่งมั๊ย

ทีนี้พอขึ้นถูกแล้วลงตามที่นับสถานีไว้ ก็ลง พอลงปุ๊บ หาทางไปต่อไม่ได้อีก คือจากสายสีเขียวจะต้องไปต่อสายสีแดง แต่หาที่เชื่อมไม่เจอ เดินงงไปมา ถามคนประมาณ 3 คน ถึงรู้ว่าที่กำลังเดินงงกันอยู่ไม่ใช่สถานีที่ต้องการ คือเลยไป 1 สถานี พอรู้ตัวก็เลยไปกันถูก ทีนี้ไม่ผิดแล้ว สบายเลย มาถึงที่หมายจนได้ แต่ก็นั่นแหละ วันแรกมักจะเวียร์เสมอ กว่าจะหาที่พักเจอก็ดึกมากเลย

ที่พักของเราคือ Monro Hostel ตอนแรกเราจองไว้ที่ Bulgakov Hostel ย่านถนน Arabat แต่พี่คนที่ไปมาก่อน 1 สัปดาห์บอกว่าที่นี่สะอาดกว่าและดีกว่ามากให้ย้ายมาที่นี่เพราะว่าใกล้กับ Kremlin มากๆ และเป็นเครือเดียวกัน ก็เลยย้ายมากันตามคำแนะนำ ถึงที่พักก็มีเจ้าหน้าที่พามาที่ห้อง โอ้พระเจ้า เป็นตึกด้านในที่กำลังปรับปรุงอยู่ ข้างนอกมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด ห้องพักเป็นห้องใหม่มากมาก มีเตียง 2 ชั้น 1 อัน และเตียงเดี่ยวอีก 1 อัน ห้องน้ำกับห้องอาบน้ำอยู่ข้างนอกหน้าห้องพอดี ยัง ยังไม่จบ ไม่มีรองเท้าแตะในห้อง ก็เลยเดินกลับไปตึกเดิมเพื่อขอรองเท้าแตะ เค้าก็ดีค่ะ หาให้ 1 คู่ (จริงๆ เค้าจะมีให้ทุกห้อง แต่ห้องเราโชคดี ไม่มี) ยังอีก ยังไม่จบ ผ้าห่มมี 2 ผืน อีกผืนมีแต่ผ้า ไม่มีฟูกในผ้า แต่หมดแรงเดินกลับไปทวงแล้ว นอนดีกว่า พรุ่งนี้ว่ากันใหม่ อ้อ ค่าโรงแรม 5 คืน 11,000 ruble twin bed share bathroom จองกับ Hostelworld.com ในห้องมีไดร์เป่าผม และกาต้มน้ำให้ด้วย ส่วน wifi มีอีกตึกนึง ต้องเดินไปแถวๆ นั้น

จากที่อ่านมาเค้าบอกว่าเราจะต้องไปทำ visa registration กับทางโรงแรมก่อนจ่ายตังค์อีกประมาณ 600 ruble ปรากฎว่าก็ไม่เห็นโรงแรมจะเรียกเอา visa ของเราไปทำอะไร ก็เลยคิดว่าคงไม่ต้องทำ เพราะว่าเราอยู่เมืองนี้ไม่เกิน 7 วันอยู่แล้ว

อ่านแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างคะ คงไม่ยากเกินไปสำหรับผู้ที่จะไปเที่ยวเอง สำหรับวันแรกของการมาถึง moscow ก็เรียบร้อยปนความเวียร์เล็กๆ ติดตามตอนต่อไปกับการตะลอนเที่ยว moscow วันแรกจะพาไปเที่ยวแถวๆ โรงแรมนี่แหละค่ะ ตอนที่ 2 ตาม link นี้เลยค่ะ http://www.gotoknow.org/blog/learn2travel/462608

คำสำคัญ (Tags): #moscow
หมายเลขบันทึก: 462599เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2011 15:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มกราคม 2017 07:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท