ครูเอกชน เรียกร้องกองทุนวิทยฐานะ-สิทธิเบิกร่วมบุตร

  วอน สพฐ.และท้องถิ่น เลื่อนการเรียกบรรจุ "ครู" เหตุกระทบหาครูใหม่ทดแทนไม่ทัน

เมื่อวันที่ 14 ก.ย.54 นายยืนยง จิรัฎฐิติกาล ผู้แทนครูเอกชนในกรรมการคุรุสภา เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมด้วยผู้แทนโรงเรียนเอกชนได้เข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องของโรงเรียนเอกชน แก่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งเป็นข้อสรุปจากการประชุมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน ทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่

1.ขอให้มีการจัดตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน ซึ่งปัจจุบันสำนักงานฯ ดังกล่าว มีเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนจังหวัดอื่นยังไม่มีการจัดตั้ง จึงทำให้ขาดเจ้าหน้าที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาดูแลงานการศึกษาเอกชนเป็นการเฉพาะ

2.ขอให้มีเงินวิทยฐานะครูโรงเรียนเอกชน เช่นเดียวกับครูภาครัฐ โดยโรงเรียนเอกชนจะร่วมกันตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อนำไปจัดสรรเงินวิทยฐานะให้ครูเอกชน และจะให้รัฐอุดหนุนเงินบางส่วนให้กับกองทุนนี้ ซึ่งการมีเงินวิทยฐานะ จะส่งเสริมกำลังใจให้กับครูโรงเรียนเอกชนได้อย่างมาก

ผู้แทนครูเอกชนฯ กล่าวต่อไปว่า 3.ค่ารักษาพยาบาลครูโรงเรียนเอกชน ที่เดิมเบิกได้เฉพาะครูโรงเรียนเอกชน คนละ 100,000 บาทต่อปี ซึ่งไม่เพียงพอนั้น ควรจะต้องมีการแก้ไขให้บุตร คู่สมรส บิดา มารดา มีสิทธิเบิกร่วม ด้วยการทำประกันสุขภาพ กับบริษัทประกันชีวิต ที่ครอบคลุมบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าว

และ 4.การเรียกบรรจุครูกลางปีของหน่วยงานภาครัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชน เพราะไม่สามารถที่จะหาครูมาสอนทดแทนได้ทัน เนื่องจากการลาออกของครูเอกชน จะไม่ได้แจ้งโรงเรียนล่วงหน้า ดังนั้น จึงขอเสนอให้ชะลอการให้ครูโรงเรียนเอกชน ที่สอบบรรจุได้ ไปปฏิบัติงานจนกว่าโรงเรียนเอกชนจะหาครูมาทดแทนได้ ส่วนการเปิดสอบบรรจุครูของภาครัฐ นั้นควรดำเนินการภายในเดือน มี.ค. เพื่อให้โรงเรียนเอกชนมีเวลาคัดสรรครูมาทดแทน

 ที่มา สยามรัฐ