จากกรณีปัญหาด้านงบประมาณที่ส่งผลให้สถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน กว่า 7 พันแห่ง ที่ไม่ผ่านการรับรองการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษารอบที่สอง ไม่สามารถดำเนินการขอประเมินซ้ำได้นั้น ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยว่า ตนได้หารือเบื้องต้นกับสำนักงบประมาณถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งสำนักงบประมาณ ได้มอบให้ สมศ.เป็นผู้รับผิดชอบงบฯจัดการประเมินซ้ำ และให้ต้นสังกัดรับผิดชอบงบฯที่เกี่ยวกับแนวทางการเตรียมความพร้อมและพัฒนาสถานศึกษาให้ได้มาตรฐานก่อนการประเมินซ้ำ อย่างไรก็ตามในการจะตอบรับแนวทางดังกล่าวหรือไม่นั้น สมศ.ต้องดูความเป็นไปได้ของงบฯที่ได้รับกับภาระที่ต้องรับผิดชอบอยู่ก่อน เพราะขณะนี้ สมศ.กำลังอยู่ระหว่างการจัดสรรงบฯ ในการจัดการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษารอบสาม พ.ศ.2554-2558 ให้แก่สถานศึกษา กว่า 6 หมื่นแห่งให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะในส่วนของสถานศึกษาระดับปฐมวัย ซึ่งเพิ่มเติมขึ้นมาจำนวน 3 หมื่นแห่ง หรือคิดเป็นเนื้องานที่เพิ่มมากขึ้นถึง 100% แต่งบฯ ที่จะได้รับไม่มีทางได้มากกว่าเดิมถึง 100% แน่นอน ที่มา เดลิินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 08 กันยายน 2554
“เบื้องต้นได้หารือกับสำนักงบฯ แล้วว่า สมศ.ขอรับการจัดสรรงบฯ ปี 2555 เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะได้รับประมาณ 560 ล้านบาท จากเดิมที่ได้ประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อปี ซึ่งหากสำนักงบฯ ต้องการให้ สมศ.รับผิดชอบงบฯประเมินซ้ำด้วยก็ยินดี แต่คงต้องดูความเป็นไปได้ ซึ่งจะทราบแน่ชัดต่อเมื่อมีการจัดทำประมาณการงบฯที่จะใช้สำหรับการประเมินรอบสามทั้ง 5 ปีแล้วเสร็จก่อน” ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าว
ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวต่อว่า คาดว่าการประเมินซ้ำให้แก่สถานศึกษาที่ไม่ผ่านการประเมินรอบสาม จะไม่เกิดปัญหาในเรื่องงบฯมากนัก เพราะ สมศ.ได้ออกระเบียบให้สถานศึกษาทุกระดับสามารถส่งผลงานเพื่อขอปรับเกณฑ์การประเมินในส่วนของการประเมินเชิงปริมาณได้ โดย สมศ.ไม่ต้องจัดคณะผู้ประเมินลงพื้นที่เพื่อประเมินซ้ำอีก โดยผลงานที่ให้ส่ง เช่น ผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านอาชีวศึกษา หรือ วีเน็ต และ ผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งทั้ง 3 ส่วนดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สถานศึกษาในแต่ละระดับ ไม่ผ่านหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอก
ไม่มีความเห็น