"วรวัจน์" เดินหน้าเรียนฟรี 15 ปี เพิ่มของฟรีอีก 5 รายการ

  วงเงินเท่าเดิม..แต่ให้พ่อแม่และเด็กเลือกตามความต้องการจริงเริ่มทันทีปี 2555 ส่วนแท็บเล็ตชง 3,000 ล้านแจก นร.ป.1

วันที่ 8 ก.ย.54 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงงบประมาณโครงการเรียนฟรี 15 ปี ว่า ยังคงมีอยู่และใช้วงเงินงบประมาณเดิม แต่ได้ให้มอบหมายให้นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ไปทำการสำรวจความคิดเห็นว่าสิ่งที่ผู้ปกครองและนักเรียนต้องการจริงๆ คืออะไร และจัดทำเป็นรายการให้สามารถเลือกได้ตามความต้องการ โดยมีวงเงินให้ว่านักเรียนจะได้รับเงินอุดหนุนโครงการเรียนฟรีค่าอะไรบ้าง คนละเท่าไร และให้ผู้ปกครองไปเลือกสิ่งที่ต้องการอยู่ในวงเงินดังกล่าว อาจจะมี 10 รายการ แล้วให้เลือกได้ 5 รายการตามวงเงิน ให้เป็นไปตามความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครอง ทั้งนี้จะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2555

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า พร้อมกันนี้ได้ให้ เลขาธิการ กพฐ.ไปหารือกับโรงเรียนที่ผู้ปกครองมีฐานะดีอยู่แล้ว และไม่ประสงค์จะรับเงินอุดหนุนในโครงการเรียนฟรี จะให้ดูแลกันเอง ถ้าโรงเรียนไหนสามารถคุยกับผู้ปกครองได้และผู้ปกครองยินยอมไม่รับเงินอุดหนุน ทางโรงเรียนจะเก็บเงินค่าเล่าเรียนเท่าไรก็ได้ และให้นำเงินงบฯ เรียนฟรีมาสนับสนุนโรงเรียนขนาดเล็กที่ขาดแคลน ส่วนที่เกรงว่าจะกลายเป็นการตัดโอกาสเด็กยากจนให้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงนั้น ต่อไปเมื่อเรามีการปรับหลักสูตรที่เน้นอาชีพเรียนจบแล้วมีงานทำ แนวโน้มของค่านิยมในการเข้าเรียนในโรงเรียนดังเหล่านี้ก็จะลดลง นอกจากนี้ในการจัดซื้อแท็บเล็ต ตั้งงบประมาณไว้ 3,000ล้านบาท เพื่อแจกนักเรียนในระดับชั้น ป.1 ส่วนในระดับชั้นอื่นก็จะทยอยแจกต่อไป

"ส่วนการจัดทำกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 นั้น ศธ.กำลังหารือร่วมกับองค์กรหลักและผู้แทนสำนักงบประมาณ เพื่อทำการปรับลดกรอบงบฯ ลง ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย จากที่เสนอไปกว่า 5 แสนล้านบาท ให้เหลือเพียง 4.1 แสนล้านบาทเท่ากับกรอบวงเงินงบประมาณปี 2555 เดิมที่เคยเสนอไป ทั้งนี้ ยังไม่รวมเรื่องของเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่จะโยกงบฯมาตั้งไว้ที่ ศธ.รวมทั้งกองทุนแก้ไขหนี้สินครู ซึ่งเป็นงบฯ ที่โป่งเกินไป จึงให้ นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ไปพิจารณาในภาพรวมร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักว่า โครงการไหนที่สามารถทำร่วมกันได้ หากงบฯ ส่วนใดมีความจำเป็นและเกินมา ก็จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอเพิ่มเติม โดยจะเร่งจัดทำกรอบงบฯ ให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้" รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

ที่มา สยามรัฐ