กระบวนการวางแผน
การวางแผนเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างหนึ่งของการบริหาร และเป็นกระบวนการท่ามีลักษณะของความเป็น “ศาสตร์” และความเป็น “ศิลป์” ผู้ที่บริหารพึงต้องมีความเข้าใจและมีทักษะ มีความชำนาญในการนำไปใช้ จึงจะทำให้การบริหารงานบรรลุถึงวัตถุประสงค์และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงที่กล่าวว่าการวางแผนเป็นศาสตร์ เพราะการวางแผนมีองค์ความรู้ เป็นการเฉพาะผู้ที่บริหารและนักวางแผนจะต้องเรียนรู้ ส่วนการวางแผนเป็นศิลป์ เพราะการวางแผนเมื่อกำหนดขึ้นแล้วการนำไปปฏิบัติหรือนำไปใช้นั้นผู้บริหารจะต้องใช้เทคนิควิธีการต่าง ๆ อย่างมาก เพื่อผลักดันให้ทรัพยากรทุกชนิดที่ต้องใช้ในแผนได้ทำงานตามหน้าที่ของมัน และในขณะเดียวกันผู้บริหาร หรือผู้ใช้แผนจะต้องผสมผสานปัจจัยและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อให้แผนทั้งแผนหรือโดยส่วนใหญ่ของแผนสามารถดำเนินการได้โดยจะต้องพยายามปรับแผนและสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกันตลอดเวลา
การวางแผนเป็นกระบวนการที่เกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคต กล่าวถือ ผลที่ปรากฏในปัจจุบันสืบเนื่องมาจากวางแผนในอดีต และผลที่จะปรากฏในอนาคตนั้นสืบเนื่องไปจากแผนที่ได้กระทำในปัจจุบันี่ดีในอดีต เช่น ครูล้นงานเพราะผลิตครูออมามากเกินความจำเป็น ทั้ง ๆ ที่อัตราการเกิดของเด็กลดลงหรือบัณฑิตต้องตกงานเพราะแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและกำลังคนไม่เป็นไปตามเป้าหมายอย่างแท้จริงหรือกรุงเทพ ฯ ต้องประสบกับมลภาวะเป็นพิษ เป็นต้น
ความสำเร็จใด ๆ จะเกิดขึ้นได้ย่อมต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า “ทรัพยากร” (Resources) ซึ่งหมายถึง เงิน (Mony) วัสดุอุปกรณ์ (Materials) กำลังคน (Humanpower) เวลา (Time) พลังงาน (Energy) และอื่น ๆ บุคคลหรือองค์การจะไม่สามารถกระทำสิ่งใด ๆ ได้สำเร็จ หรือบรรลุถึงวัตถุประสงค์ถ้าปราศจากการใช้จ่ายทรัพยากร การวางแผนเป็นการตัดสินใจเพื่อการจัดสรรทรัพยากรขององค์การ ให้การดำเนินงานขององค์การบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
การวางแผนเป็น “กระบวนการ” (Procss) ซึ่งปรากฏด้วยกิจกรรม (Activity) ที่จะต้องกระทำกันอย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับให้เข้าได้กับข้อมูลที่ได้รับทั้งที่เป็นข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) และข้อมูลที่มาจากกระบวนการและระบบอื่น การวางแผนสำหรับองค์หนึ่งองค์กรใดมิใช่การะทำเพียงครั้งเดียวแล้วหยุดหรือเลิกแล้วกันไป แต่เป็นกระบวนการที่จะต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง โดยให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายในองค์การ และบางส่วนของแผนอาจจะต้องมีการทบทวนใหม่ถ้าผลที่เกิดขึ้นขาดความสมบูรณ์หรือเป็นผลที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดคิดไว้
การวางแผนเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการใส่ข้อมูล (Inputs) ทรัพยากร (Resiurces) และข่าวสาร (Information) ต่าง ๆ เข้าไป และมีตัวการ (Processor) กระทำกับทรัพยากรและข้อมูลเหล่านั้น และปรากฏเป็นผล (Outputs) ออกมาในลักษณะต่าง ๆ ข้อมูลอันเกิดจากผลหรือที่เรียกว่าข้อมูลย้อนกลับ (Feedbadk) จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับมาตรฐาน (Standards) ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ (Objiectives) หรือไม่ ถ้าการเปรียบเทียบมีผลเป็นที่ไม่พอใจ ข้อมูลที่ใส่เข้าไป และตัวการในการกระทำข้อมูลจะต้องได้รับการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง ดังแผนภูมิ
กระบวนการวางแผนเป็นเรื่องการตัดสินใจบ่างสรรทรัพยากรหลายชนิดในปัจจุบัน เพื่อให้การดำเนินงานขององค์การประสบกับความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ในอนาคต หรือการวางแผนเป็นกระบวนการกำหนดทางเลือกในการดำเนินงานในอนาคต เพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ขององค์การโดยวิธีการที่ให้ผลเป็นไปตามมาตฐาน หรือใกล้เคียงกับมาตรฐานหรือวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้อย่างเหมาะและเพียงพอรวมทั้งระบุถึงวิธีการที่จะได้มาซึ่งทรัพยากรที่จำเป็นเหล่านั้นด้วย
องค์ประกอบของการวางแผน
โดยความหมายหรือคำจัดความของการวาแผน จะสังเกตได้ว่าการวางแผนมีส่วนประกอบที่ได้รับการแจงโดยนัยไว้อย่างชัดเจน เช่น ระบุถึงวิธีการดำเนินงานในการใช้ทรัพยากรการเลือกแนวทางเพื่อการปฏิบัติงาน และการกำหนดวัตถุประสงค์ของแผนเป็นต้น
การวางแผนที่ดีนั้น จะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบที่ชัดเจนและมีความต่อเนื่องกันเป็นลำดับ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้แผนมีความเข้าใจและปฏิบัติตามแผนได้โดยง่าย แอคคอฟฟ์ (Rusell L. Ackiff) จำแนกองค์ประกอบของแผนและการวางแผนไว้ดังนี้
1. จุดหมาย (Ends) เป็นองค์ประกอบที่แสดงถึงวัตถุประสงค์ ความมุ่งหวัง หรือจุดมุ่งหมายของแผนที่ได้กำหนดขึ้น โดยอาจชี้สภาพปัญหาหรือความเป็นมาหรือภูมิหลังที่ต้องทำให้มีการวางแผน และรวมถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการวางแผนนั้น
2. วิธีการ (Means) เป็นองค์ประกอบที่แสดงถึงการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ แล้วกำหนดเป็นทางเลือกไว้หลายทางเลือก เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุถึงจุดหมาย ที่ได้กำหนดไว้แล้วเป็นองค์ประกอบแรก
3. ทรัพยากร (Resources) เป็นองค์ประกอบที่แสดงถึงประเภท ปริมาณ และคุณภาพของทรัพยากรเช่น คน เงิน วัสดุอุปกรณ์ และวิธีการที่จะต้องจัดสรรให้กับวิธีกรหรือทางเลือกที่ได้กำหนดไว้
4. การนำแผนไปใช้ (Implementation ) เป็นองค์ประกอบที่ระบถึงวิธีการหรือการตัดสินใจเพื่อเลือกเลือกทางเลือกหรือแนวทางที่ดีที่สุดในการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนและวัตถุประสงค์ของแผนซึ่งได้กำหนดไว้ทางเลือกในการดำเนินงานจะต้องมีลักษณะที่ประหยัดและให้ผลประโยชน์ที่เหมาะสม จึงจะถือว่าเป็นทางเลือกและการดำเนินงานที่ดี
5. การควบคุม (Control) เป็นองค์ประกอบที่แสดงถึงการตรวจสอบและการประเมินผลการดำเนินงานของแผนว่าเป็นไปด้วยดีมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด มีปัญหาอุปสรรคอย่างไรบ้าง และมีการปรับปรุงหรือหาทางปรับปรุงแก้ไขอย่างไร การควบคุมจะต้องเป็นไปทุกขั้นตอนทุกระยะการดำเนินงานและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
สตรอบ (Joseph T. Straub) อธิบายถึงองค์ประกอบที่มีผลต่อความสำเร็จของแผน โดยชี้ให้เห็นว่าองค์การทุกองค์การเมื่อกำหนดแผนงานขึ้นแล้ว ต่างมุ่งหวังที่จะทำให้แผนงานนั้นบรรลุถึงความสำเร็จตามที่ปรารถนา ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของแผนได้แก่การจัดทำแผนหรือร่างแผนไว้อย่างรอบคอบ การชี้แจงแผนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ การปรับแผนให้ยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ การนำแผนไปใช้และการควบคุมการดำเนินงานของแผน แต่ละปัจจัยหรือแต่ละองค์ประกอบมีรายละเอียดดังนี้
1. การจัดร่างทำงานแผน (Design) หมายถึง การจัดร่างแผนงานให้มีรายละเอียดที่สามารถดำเนินการได้โดยบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า แผนงานนั้นเป็นแผนอะไร ต้องการทำอะไร ทำอย่างไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบที่จะต้องทำ และแผนงานนั้นจะเริ่มทำเมื่อใดและที่ไหน
2. การชี้แจงแผน (Communication) เมื่อแผนได้รับกรจัดทำหรือร่างขี้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แผนนั้นจะต้องได้รับการชี้แจงให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบและเข้าใจโดยละเอียด การชี้แจงแผนให้เป็นที่เข้าใจ ย่อมทำให้แผนนั้นได้รับการยอมรับ การสนับสนุน และง่ายต่อการปฏิบัติ
3. การปรับแผน (Flexibility) เมื่อแผนได้ถูกชี้แจงให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบแล้วหากปรากฏว่าเกิดการวิพากษ์วิจารณ์และผู้เกี่ยวข้องได้ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่อง หรือมีการท้วงติงเสนอแนะ หรือคาดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น แผนนั้นจะต้องได้รับการปรับปรุงหรือให้มีการยืดหยุ่นในการนำไปใช้เพราะหากไม่ปรับแผนให้มีความยืดหยุ่นแล้ว จะเป็นสาเหตุอย่างสำคัญทำให้แผนเกิดความล้มเหลว อันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานได้
4. การนำแผนไปใช้ (Implementation) เมื่อแผนได้รับการปรับปรุงแล้ว แผนก็จะถูกนำไปใช้ปฏิบัติเพื่อให้ได้ผลตามที่ประสงค์ อย่างไรก็ดีแผนจะบรรลุถึงความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ฝ่ายบริหารจะต้องให้การสนับสนุนทั้งกำลังคน กำลังทรัพย์ และรวมถึงกำลังใจของผู้บริหารเองอย่างต่อเนื่อง
5. การควบคุมแผน (Comtrol) เมื่อแผนนำไปใช้แล้ว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องติดตามตรวจสอบ และประเมินผลว่าการดำเนินงานตามแผนในแต่ละขั้นตอนมีปัญหาอุปสรรคใด ๆ หรือไม่ หากพบปัญหาจากจุดหนึ่งจุดใดในกระบวนการ ปัญหานั้นจะต้องได้รับการแก้ไขโดยทันท่วงที รวมทั้งจะต้องรับฟังข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของแผนให้ดียิ่งขึ้น
วงจรองค์ประกอบที่มีผลต่อความสำเร็จของแผน
การควบคุมแผน |
ความสำเร็จ
|
อนึ่งในทางปฏิบัติองค์ประกอบของการวางแผนอาจมีรายละเอียดและสิ่งปลีกย่อยอีกมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับหรือขนาดและตลอดจนประเภทของแผน ประกอบกับความพยายามของผู้วางแผนที่จะทำให้การวางแผนนั้นง่ายต่อการทำความเข้าใจและการนำไปใช้ จึงได้แยกย่อยแต่ละองค์ประกอบออกไปอีกเพื่อให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่นในเรื่องของจุดมุ่งหมายอาจแยกแยะออกเป็นจุดมุ่งหมายทั่วไป และจุดมุ่งหมายเฉพาะเป็นต้น เพื่อความเข้าใจในสาระสำคัญขององค์ประกอบการวางแผนโดยชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงอาจศึกษาเพิ่มเติมได้จากหนังสือเรื่อง “การบริหารโครงการ”
ผู้บริหารและการวางแผน
ผู้บริหารมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการวางแผนหลายระดับ ถึงแม้ว่าแต่ละระดับของการวางแผนจะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่หลักการใหญ่ ๆ จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ผู้บริหารควนทราบถึงหลักการที่ดีบางประการในการวางแผนของผู้บริหารคือ
การมีส่วนร่วมวางแผนในหน่วยงานหรือในองค์กร ผู้บริหารหน่วยงานจำนวน
มากได้รับการเชื้อเชิญให้มีส่วนร่วมในการวางแผนสำหรับองค์กรในลักษณะต่าง ๆ กัน บางคนอาจได้รับแบบสอบถามเพื่อให้กรอกข้อความและความคิดเห็นต่าง ๆ ลงไป บางคนอาจได้มีส่วนร่วมนั่งประชุมเพื่อชี้แจงและเสนอข้อมูลตลอดจนความคิดเห็นต่อผู้บริหารระดับสูง การที่ผู้บริหารได้มีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผนทั้งหมดของหน่วยงานหรือขององค์กรจะทำให้ผู้บริหารมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นโดยตรงต่อผู้บริหารระดับสูงและผลที่ผู้บริหารได้รับคือการได้รับความสนับสนุนช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน และหน่วยงานมีโอกาสที่จะได้รับการขยับขยายมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือทำให้ทราบถึงแนวทางการดำเนินงานขององค์การโดยตลอด
บุคคลก็มีลักษณะเช่นเดียวกับองค์การคือมีระบบชีวิตที่สลับซับซ้อน และต้อง ปฏิสัมพันธ์กับระบบอื่น ๆ เช่น บุคคลอื่น องค์การหรือหน่วยงานอื่น และแม้แต่ธรรมชาติซึ่งอยู่รอบ ๆ ตัว บุคคลแต่ละบุคคลจะมีทรัพยากรหลายชนิด เช่น เงิน พลังงาน เวลา และความสามารถเฉพาะไว้สำหรับใช้จ่ายเพื่อบรรลุ ถึงวัตถุประสงค์ของชีวิต การใช้ทรัพยากรเพื่อชีวิตจะเป็นไปอย่างฉลาดมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการคือ
1) ประเภทของวัตถุประสงค์ระยะยาวที่ได้กำหนดขึ้นไว้
2) ความเข้าใจต้อพลังภายนอกที่จะมีผลกระทบต่อชีวิต
3) ความสามารถในการตัดสินใจต่าง ๆ
4) ความสามารถในการจัดทรัพยากรเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในวัคถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้
คนบางคนเป็นผู้มีมติปัญญาดี มีพลังสูง มีความสามารถเฉพาะยอดเยี่ยม และอื่น ๆ แต่ก็
ดำเนินชีวิตอย่างปราศจากเป้าหมาย ทั้งนี้เพราะบุคลผู้นั้นขาดวัตถุประสงค์และแผนในการดำเนินชีวิต คนบางคนทีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์และมีแผนในการดำเนินชีวิต แต่ชีวิตดำเนินไปด้วยความเชื่องช้าเสมือนกับการว่ายทวนน้ำ ทั้งนี้เพราะบุคคลผู้นั้นไม่สามารถเข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกได้ และบางคนมีทั้งทรัพยากร มีวัตถุประสงค์ และมีความเข้าใจในสภาพแวดล้อม แต่ก็ขาดความสามารถในการตัดสินใจเพื่อใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ กรณีตัวอย่างที่กล่าวแล้วต่างชี้ให้เห็นถึงชีวิตที่ไม่มีแผน หรือไม่มีความสามารถในการใช้แผน ฉะนั้นผู้ที่มีลักษณะในการวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพย่อมบรรลุถึงเป้าหมายของชีวิตอย่างมีคุณค่า
ประเภทของแผน
แผนจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก และแต่ละประเภทยังแบ่งเป็นแผนย่อยอีกหลายชนิด ดังจะกล่าวต่อไปนี้
แผนประจำ (Standing Plan)
แผนประจำ หมายถึง แผนซึ่งมีระยะเวลาในการใช้เป็นเวลานาน อาจยาวนานเท่ากับอายุของหน่วยงานเอง เป็นแผนซึ่งเป็นแนวคิดอย่างหยาบ ๆ ที่ไม่มีรายละเอียดในการดำเนินงานมากนัก แผนงานประจำจำแนกออกเป็น นโยบาย (Policy) มาตรการ (Procedures)และข้อบังคับ (Rules)
นโยบาย (Policy) หมายถึงแนวทางที่กำหนดขึ้นเพื่อให้เป็นทิศทางในการปฏิบัติงานหรือการตัดสินใจ การกำหนดนโยบายของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะต้องเกิดจากการวิเคราะห์วัตถุประสงค์ทั้งหมดของหน่วยงานนั้น
มาตรการ (Procedures) หมายถึงการดำเนินงานตามลำดับขั้นที่ได้กำหนดไว้เพื่อให้บรรลุถึงความสำเร็จของความต้องการ หรือโครงการหนึ่งโครงการใดโดยเฉพาะ ฉะนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าการกระทำก็คือตัวบ่งชี้ว่าทำอย่างไร นโยบายจึงบรรลุตามที่ต้องการ
ข้อบังคับ (Rules) หมายถึง แนวทางที่กำหนดขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อให้บุคคลได้ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัดตามลักษณะของงาน เช่น ข้อบังคับให้สวมหมวกในขณะทำงานก่อสร้าง เป็นต้น
อย่างไรก็ดี แต่ละชนิดของแผนงานประจำแม้จะต้องนำไปใช้ด้วยระบบเวลายาวนาน แต่ละชนิดของแผนประเภทนี้มีความยืดหยุ่นแตกต่างกันไป กล่าวคือ นโยบายจะสามารถยืดหยุ่นได้มาก ส วนข้อบังคับจะไม่ยืดหยุ่นหรือยืดหยุ่นได้น้อยมาก ซึ่งสามารถแสดงโดยสรุปเป็นแผนภูมิได้ดังนี้
แผนประเภทนี้สร้างขึ้นเพื่อปฏิบัติงานหนึ่งงานใดโดยเฉพาะแล้วล้มเลิกไป เมื่อการดำเนินงานตามแผนนั้นเสร็จหรือบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการแล้ว แผนประเภทนี้ประกอบด้วย แผนงาน (Programs) โครงการ (Projects) และแผนงบประมาณ (Budgct Plan)
แผนดังกล่าวในช่วงการดำเนินงานสั้น ๆ ตามที่ถูกกำหนดขึ้น
แผนงาน (Programs) หมายถึงแผนซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้ดำเนินการให้บรรลุถึงงานหนึ่งงานใด ตามภารกิจขององค์การ เช่น โรงเรียนแบ่งภารกิจออกเป็น งานการจัดการเรียนการสอน งานการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน งานการบริหารกิจการนักเรียน และอื่น ๆ ซึ่งแต่ละงานจะประกอบด้วยกิจกรรมย่อย ๆ หลายกิจกรรม ดังนั้นการกำหนดแนวทางให้แต่ละกิจกรรมย่อยดำเนินงานเรียกว่า แผนงาน แผนงาน อาจมีอายุระหว่าง 1 – 5 ปี
โครงการ (Projects) หมายถึง แผนซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้ดำเนินการให้บรรลุถึงกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งของแผนงาน โครงการจะมีรายละเอียดชัดเจนและอายุอาจมีช่วงอายุระหว่าง 1 – 3 ปี
แผนงบประมาณ (Budgct Plan) แผนชนิดนี้เป็นทั้งแผนและเครื่องมือการ
ควบคุมแผน โดยปกติแผนงบประมาณจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเสมอ แผนชนิดนี้มีอายุสั้นที่สุดอาจเป็นเดือน หรือไม่เกินหนึ่งปีถ้าถือตามระบบงบประมาณของประเทศไทย
สรุปได้ว่าแผนเฉพาะกิจหรือแผนใช้ครั้งเดียวจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนประจำเสมอ เพราะแผนประจำจะบอกทิศทางการดำเนินงานอย่างกว้าง ๆ ขององค์การ ซึ่งผู้บริหารองค์การจะต้องสร้างแผนปฏิบัคิการหรือแผนเฉพาะกิจขึ้นมารองรับแผนประจำเหล่านั้น
สรุป
กระบวนการวางแผนเป็นศาสตร์ในการกำหนดและเป็นศิลป์ในการนำไปใช้ เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจจัดสรรทรัพยากรในปัจจุบันเพื่อให้เกิดความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ในอนาคต การวางแผนมีความสำคัญและมีค่าต่อองค์การ ทั้งที่เป็นองค์การขนาดใหญ่ และองค์การขนาดเล็ก
การวางแผนเป็นระบบหรือกระบวนการในการดำเนินการกับข้อมูล ทั้งระบบหรือกระบวนการประกอบด้วยข้อมูลใส่เข้า กิจกรรมที่ปฏิบัติต่อข้อมูล ผลที่ได้รับ และข้อมูลส่วนที่ย้อนกลับ ส่วนสำคัญของกระบวนการวางแผนคือ
1. การสร้างสมมติฐานในอนาคตโดยอาศัยพลังภายนอก พลังภายในองค์การและแนวโน้มที่มีอิทธิพลต่อองค์การ
2. การกำหนดวัตถุประสงค์ระยะยาวซึ่งระบุให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายทั่วไปของบุคคลและขององค์การ
3. การพัฒนากลยุทธ์ซึ่งจะทำให้องค์การบรรลุถึงวัตถุประสงค์ได้ดีที่สุด โดยใช้พลังภายนอกและภายในอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
4. การกำหนดเป้าหมายระยะปานกลางซึ่งจะชี้เฉพาะความปราถนาที่จะให้องค์การบรรลุถึงความสำเร็จตามเวลาที่ได้ระบุหรือกำหนดไว้
5. การกำหนดรายการปฏิบัติงานเพื่อให้การจัดสรรทรัพยากรมีความเหมาะสมเพียงพอที่จะให้การดำเนินงานบรรลุถึงเป้าหมาย
6. การสนับสนุนแผน
7. การปฏิบัติการกับกลุ่มข้อมูลย้อนกลับ เพื่อให้ผลของการสนับสนุนแผนสามารถเปรียบเทียบได้กับเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ก่อนแล้ว
การวางแผนประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญหลายประการคือ จุดหมายของ
การวางแผน วิธีการในการวิเคราะห์ข้อมูล การกำหนดทางเลือกในการวางแผน การจัดสรรทรัพยากรในการวางแผน การสนับสนุนการทำแผนไปใช้ และการควบคุมประเมินผลการปฏิบัติตามแผน หรือการวางแผนประกอบด้วยการจัดร่างทำแผน การชี้แจงแผน การปรับแผน การนำไปใช้ และการควบคุมแผน
ผู้บริหารที่ดีจะต้องมีความสามารถในการวางแผน กล่าวคือผู้บริหารจะต้องมีส่วนร่วมในการวางแผน สามารถวางแผนแม้ในหน่วยงานย่อย และที่สำคัญจะต้องมีความสามารถเพื่อการดำเนินชีวิต
กระบวนการวางแผนมีขั้นตอนที่สำคัญหลายขั้นตอนตามลำดับดังนี้ ขั้น
ไห่พารำถ