จากภาพ : สลายโต๊ะ สลายกรอบ
"พี่กันต์จบทางสังคมสงเคราะห์ จาก มธ. มานั่งล้อมวงสนทนาธรรมและถามไถ่อาการเจ็บป่วยของพี่สาวของน้องหนุ่ยและหนิง
น้องหนุ่ยเพิ่งไป Defence เรื่องแผนและโครงการ...เบิกบานเพราะผ่านหมด"
ชีวิตที่ไม่แบ่งส่วนคือ...การงานและชีวิต
ก่อนเข้าที่ทำงานข้าพเจ้าก็ยังคงแวะไปที่วัดเช่นเดิม วันนี้เป็นวันพระด้วยคนมาวัด"ถือศีล กินทาน ประหารกิเลส" อยู่หลายคน ทำหน้าที่ภาระกิจของความเป็นพุทธศาสนิกชนแล้วเสร็จก็กลับเข้าที่ทำงาน
ระยะทางระหว่างวัดกับบ้านและที่ทำงานหากขับรถแบบสบายๆ ก็ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงหากขับรถในช่วงเช้าๆ ที่ไม่ค่อยมีรถราก็ใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีถึงยี่สิบนาทีถือว่าไม่เดือดร้อนต่อตนเอง
อากาศยามเช้าดี
การไปวัดทุกวันคือการตรวจสอบและฝึกฝนความมุ่งมั่นของตนเอง
เช้ามาชีวิตมักจะมีเหตุผลหรือข้ออ้างดีดีเสมอที่จะทำให้เราไม่อยากไป เช่น มีงานสำคัญ มีกิจที่ต้องทำมากมายตอนเช้า ระยะทางไกลเดี๋ยวมาทำงานไม่ทัน และอีกมากมายแต่โชคดีที่เคยฟังองค์หลวงตามหาบัวท่านเทศน์อบรมก็คือ เหตุผลนั้นมักเป็นฝ่ายกิเลสที่คอยเหนี่ยวรั้งเราไม่ให้ทำธัม เราจึงไม่รู้ว่าปฏิบัติธรรมนั้นเป็นเช่นไร ส่วนใหญ่ก็แค่ไปวัดทำบุญ แต่ศีลที่แท้ก็ยังไม่เข้าใจและการภาวนาเป็นอย่างไรก็ยังเข้าไม่ถึง
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ข้าพเจ้าทดสอบและเรียนรู้การใช้ชีวิตการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิม เที่ยง ได้ยินเสียงตามสายมาจากที่ห่างไกล...แม่ฮ่องสอน พี่เล็กจากศูนย์ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดฯ บอกว่าคิดถึงและอยากได้ยินเสียง ผู้หญิงที่มีความอ่อนนุ่มและอ่อนโยนเสมอแต่ภายในดูแกร่ง (ธรรมะคือชีวิต ชีวิตคือธรรมชาติ)
ที่คลินิคผู้ป่วยไม่เยอะประมาณห้าสิบคนผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้นทุกเดือน แต่เราก็พยายามกระจายผู้ป่วยออกให้มากที่สุด เช่น ตำบลหนองหินไปรับยาที่วัด ผู้ป่วยที่มาทุกเดือนกระจายออกเป็นสองวันตกประมาณห้าสิบรายหรืออย่างมากหกสิบถึงเจ็ดสิบรายต่อวัน ถือว่าดีขึ้นจากครึ่งต่อครึ่ง
ข้าพเจ้ามีโอกาสนั่งสบายๆ relax บนโซฟาที่ซื้อมาใหม่
พักสายตาบ้าง อ่านหนังสือบ้าง คละหลากหลายกิจกรรม เมื่อสักครู่กำลังนั่งหลับตาพักกาย เหมียวเพื่อนสมัยเรียนเป็นพยาบาลแต่ไม่ได้ทำงานพยาบาลเพราะป่วยด้วยโรคทางจิตเวชมาคุยด้วยกังวลเกี่ยวกับอาการของตนเองว่าเป็นปกติหรือเปล่า รู้สึกสงสารเหมือนกัน
มีหลายเรื่องที่พิจารณาทำไมเราทำชีวิตทุกวันเป็นชีวิตที่ยุ่งยาก
ความยุ่งยากสะท้อนถึงการมีคุณภาพของงานจริงหรือ?
...
๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔